ร่างของหญิงสาวถูกพบซุกใต้ผ้าห่มเก่าๆ โผล่มาแต่ข้อเท้า ใกล้กับที่ทิ้งขยะบริเวณสถานีรถไฟกาง-ซุร์ก-แมร์ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสเมื่อวันเสาร์ก่อน เป็นศพของซาโลเมหญิงสาววัย 21 ปี ที่ถูกแจ้งว่าหายตัวไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ซาโลเมเป็นหญิงที่ตกเป็นเหยื่อฆาตกรรมจากสามี อดีตสามี หรือคู่ครองในฝรั่งเศส รายที่ 100 ในปีนี้สื่อรายงานว่า เธอถูกฆ่าหลังจากมีปากเสียงกับแฟนหนุ่มตอนกลางคืน ยังดีที่อัยการและตำรวจสืบสวนทำคดีอย่างรวดเร็ว จนสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยที่เป็นแฟนหนุ่มในอีกไม่กี่วันต่อ
จากนั้นไม่นาน สตรีที่ตกเป็นเหยื่อฆาตกรรมรายที่ 101 ก็ตามมาติดๆคราวนี้น่าเศร้ากว่า เพราะผู้เสียชีวิตเป็นหญิงชรา วัย 92 ปี ที่ถูกสามีวัย 94 ปีของเธอเองทำร้ายจนตาย ที่บ้านทางตอนใต้ของฝรั่งเศสเช่นกัน และที่น่าตกใจกว่าก็คือ ตลอดปี 2018 ที่ผ่านมา มีคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นกับสตรีในฝรั่งเศส121 คดี แต่ในปีนี้ ผ่านไป 8 เดือนเศษ ตัวเลขขยับไปอยู่ที่ 101 รายแล้ว
ตัวเลขจากรัฐบาลฝรั่งเศสระบุด้วยว่า เฉลี่ยแล้ว ทุกปีมีสตรีราว219,000 คน อายุระหว่าง 18-75 ปีที่ถูกทำร้ายร่างกายหรือทำร้ายทางเพศด้วยน้ำมือของสามี อดีตสามี หรือคู่ครอง สตรีที่ตกเป็นเหยื่อถึง 3 ใน 4 บอกว่าถูกกระทำรุนแรงต่อเนื่องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะที่ผู้หญิงกว่า 8 ใน 10 คน บอกว่าต้องทนทุกข์ใจจากการถูกตำหนิหรือทำร้ายทางวาจา
ปัญหาการทำร้ายและฆาตกรรมสตรีในฝรั่งเศสกลายเป็นประเด็นที่หลายฝ่าย โดยเฉพาะนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีและกลุ่มต่อต้านความรุนแรงในครอบครัวให้ความสนใจในช่วงที่ผ่านมา เมื่อเดือนกรกฎาคมมีชาวฝรั่งเศสกว่า 1,200 คน ออกมาเดินขบวนในกรุงปารีส เรียกร้องให้ทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ส่งผลให้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเอดัวร์ ฟีลิป ของฝรั่งเศส จัดการประชุมร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ ทั้งผู้พิพากษา นักกฎหมาย ตำรวจ และตัวแทนหน่วยงานต่างๆ ก่อนประกาศแผนการเพื่อแก้ไขปัญหาความรุนแรงภายในครอบครัว ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งที่พักพิงเร่งด่วนให้กับสตรีที่เชื่อว่าตนเองอาจตกเป็นเหยื่อความรุนแรงจากคนในครอบครัวกว่า 1,000แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ตรวจสอบรายงานของสถานีตำรวจ 400 แห่งทั่วประเทศ เรื่องการจัดการคดีที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงต่อสตรี
นายฟีลิปยังประกาศทุ่มงบประมาณ5 ล้านยูโร แก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อสตรีและเหตุฆาตกรรมที่พุ่งเป้าไปที่สตรี ยกเครื่องกระบวนการสอบปากคำและดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับสตรี ที่จะช่วยให้การเดินหน้าสืบสวนสอบสวนของคดีเป็นไปได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เพิ่มมาตรการคุ้มครองสตรีที่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งรวมถึงการนำตัวสามี อดีตสามี หรือชายที่เคยอยู่กินกับเหยื่อออกไปจากวงจรชีวิตของเธอ รวมถึงเสนอไอเดียให้ผู้ต้องหาที่เคยต้องคดีทำร้ายร่างกายผู้หญิงหรือคดีทางเพศ ต้องสวมกำไลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันไม่ให้เหยื่อถูกทำร้ายในภายหลัง
แต่บรรดากลุ่มเคลื่อนไหวและนักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี ก็ติดแฮชแท็ก#NousToutes (All of Us) หรือพวกเราทุกคน เรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินความพยายามมากกว่านี้และต้องทำทันที เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลก็ยืนยันว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมในเรื่องในเดือนพฤศจิกายนนี้
ในประเทศแถบยุโรป ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราของผู้หญิงตกเป็นเหยื่อฆาตกรรมโดยสามี อดีตสามี หรือคู่ครองสูงที่สุด กับค่าเฉลี่ย 0.18 รายต่อจำนวนประชากรผู้หญิง 100,000 คน เทียบกับสวิตเซอร์แลนด์ที่ระดับ 0.13 อิตาลีที่ระดับ 0.11 และสเปนที่ระดับ 0.12 ส่วนเยอรมนีค่าเฉลี่ยสูงกว่าเล็กน้อย ที่ 0.23
ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เผยตัวเลขสถิติที่น่าตกใจว่า ในแต่ละวันมีผู้หญิงต้องเสียชีวิตไปโดยเฉลี่ย 137 คนทั่วโลกเหตุเพราะถูกคู่ครองหรือคนในครอบครัวสังหาร ซึ่งเท่ากับว่า “บ้าน” คือสถานที่ที่ผู้หญิงมีความเสี่ยงจะถูกฆาตกรรมมากที่สุด
ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ความรุนแรงกับผู้หญิง จากฝีมือคนในครอบครัวโดยเฉพาะสามีหรือคนรัก ควรยุติลงเสียที
@koopnot01
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี