หากเอ่ยชื่อ โอซา แวง สาวลูกครึ่งสิงคโปร์- สวีเดน หลายคนอาจนึกถึงการเป็นนางแบบมืออาชีพสุดเซ็กซี่หรือนักแสดงของเมืองไทยหากย้อนกลับไปเมื่อ 13 ปีที่แล้วและนอกเหนือจากงานที่มีมาตลอด ตอนนี้ด้วยวัย 37 ปี เธอเห็นสัจธรรมของชีวิตที่เปลี่ยน
“วันนี้ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะ แต่ก็ยังอยู่ในฐานะนางแบบสุดเซ็กซี่แห่งเอเชียจากนิตยสารFHM และนักแสดงส่วนเรื่องลดดีกรีความเซ็กซี่ขอไปตามวัยสิ่งหนึ่งที่ถือว่าได้เปลี่ยนความคิดและชีวิตตอนนี้อายุ 37 ปี คิดว่ามีอะไรที่อยากทำบ้างจนได้รับความเมตตา และโอกาสดีๆ คือการเป็นคุณครูสอนภาษาอังกฤษให้แก่สามเณร รวมทั้งการได้ทดลองทำอะไรใหม่ๆ อย่างเช่นการมีช่องยูทูบและเล่าเรื่องราวของตนเองแบบเรียลิตี้ในรายการ ASE AND NIDA FROM THE SOI เป็นอีกทางที่โอซา เลือกแล้ว และอยากจะลองดูในวัยที่กำลังไฟเต็มเปี่ยมที่เลือกทำงาน”
ขอถามถึงงานจิตอาสาสอนภาษาอังกฤษว่ามีที่มาที่ไปยังไง?
“ต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่ไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิตเพราะว่าห่างไกลจากตัวโอซาหรืออาชีพที่ทำมากแต่ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดในชีวิตเลยค่ะ อยากบอกว่าจุดเริ่มต้นจริงๆมาจากการที่เครียดไม่สบายใจจึงชวนเพื่อนสนิทไปทำบุญที่วัดธรรมมงคล ซึ่งหลังจากทำบุญเสร็จ พระอาจารย์ท่านก็มาถามว่า โอซาช่วยอะไรวัดหน่อยได้ไหมตอนนั้นก็งง ว่าจะให้ช่วยอะไร พระอาจารย์ท่านก็บอกว่า อยากให้มาสอนภาษาอังกฤษให้กับสามเณรก็มีคิดนิดหน่อยค่ะแต่ก็ตอบรับแบบไม่ลังเลเลย จนได้มาสอนทุกวันพฤหัสบดี วันละสองคลาสค่ะโรงเรียนพระปริยัติธรรม”
จากประโยคหนึ่งในอินสตาแกรมสู่ความเห็นธรรม?
“ด้วยความที่ดิฉันเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน ดิฉันจึงถูกอบรมเลี้ยงดูมาเพื่อให้เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง และเรียนรู้ที่จะเป็นผู้รับและผู้ให้ จากการที่ทุกวันพฤหัสบดี ดิฉันได้ไปเป็นจิตอาสาร่วมสอนสามเณรที่บางรูป ที่เป็นเด็กกำพร้า บางรูปมาจากครอบครัวที่ยากจน เมื่อดิฉันได้พบเจอกับสามเณรเหล่านั้น ดิฉันถึงได้ตระหนักว่าการให้ โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน มันได้สร้างความสุขและความปีติให้เกิดขึ้นในใจดิฉันอย่างแท้จริง ทำให้ดิฉันตั้งหน้าตั้งตารอเพื่อที่จะให้ถึงวันพฤหัสบดีไวๆ เพื่อที่จะได้เรียนรู้ความสุข จากการเป็นผู้ให้ ถึงแม้ดิฉันไม่ได้ให้ในรูปแบบของทรัพย์สิน แต่ดิฉันให้ในรูปแบบของความรู้ทางภาษาที่ดิฉันมี”
การสอนในสไตล์ครูโอซา แวง เป็นอย่างไรบ้าง?
“เป็นครูที่ไม่ได้ดุ ก็สนุกสนานค่ะจะไม่ได้เครียด โอซาสอนทุกวันพฤหัสบดี ก่อนสอนก็จะมีการนั่งสมาธิ แล้วก็ให้เล่นเกมสอนคำศัพท์ที่ถูกต้อง สอนเรื่องการออกเสียง แต่สิ่งที่ต้องคำนึงคือเรื่องของ กฎของศาสนาต้องให้ความเคารพสามเณรทุกคนสิ่งที่สนุกที่สุดจะเป็นการที่สามเณรพยายามพูดภาษาอังกฤษกับเราแต่เราก็จะตอบเป็นภาษาไทยใครพูดผิดก็จะช่วยกันแก้ เลยสนุกสนานมากค่ะ”
เห็นบอกว่าค้นพบความสุขที่แท้จริงจากการเป็นจิตอาสา?
“จริงๆ โอซาคิดว่า คนที่ได้รับความสุขจากการสอนครั้งนี้เป็นโอซามากกว่าพวกเขาให้โอซาเยอะกว่าที่โอซาให้อีก อย่างทุกครั้งที่นั่งสมาธิก็จะคิดว่าโชคดีที่ได้มาเจอทุกคน ที่ได้มาสอน มันเป็นการให้โดยที่แต่ละฝ่ายไม่ได้หวังอะไรตอบแทนและไม่ต้องพยายามมันเป็นธรรมชาติและบริสุทธิ์มาก ฉะนั้นถ้ามีสิ่งที่จะทำเพื่อสามเณรเช่นวันแม่ วันครูก็จะไปร่วมงาน ให้สามเณรทุกคนเห็นว่า แม้เขาจะกำพร้า ไม่มีครอบครัว แต่เขาก็ยังมีเราเป็นหนึ่งในชีวิตเป็นอีกหนึ่งครอบครัว วันครูก็ไปค่ะ ก็ร้องไห้ทั้งสองวัน(ยิ้ม) มันมาจากความตื้นตันมากกว่า”
ส่วนปีหน้าก็จะได้เลื่อนขั้นเป็นคุณครูเต็มตัวโดยมีคลาสเป็นของตนเอง?
“ใช่ค่ะ ได้รับการเลื่อนขั้นจากพระอาจารย์ ตอนนี้ที่ไปสอนก็จะไปช่วยสอนกับคุณครูที่สอนอยู่แล้วจะช่วยดูเรื่องการออกเสียงการใช้คำศัพท์ แต่ปีหน้า พระอาจารย์มาบอกว่า ให้ครูโอซามีคลาสเป็นของตัวเองแล้วก็ดีใจและตื่นเต้นค่ะแต่ก็จะทำให้ดีที่สุด เป็นสิ่งที่ตั้งใจไว้แล้ว”
จากอาจารย์ธรรมะศึกษา สู่ยูทูบเปอร์ออนแอร์ในช่อง Youtube บ้าง?
“เป็นอีกเรื่องที่ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะ เป็นรายการเรียลิตี้ชื่อรายการ “ASE & NIDA FROM THE SOI” ที่บอกเล่าเรื่องราวทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังการใช้ชีวิตในมหานครอย่างกรุงเทพฯของโอซาและนิดาวนิดา โกลเทน จะเป็นเรื่องราวทุกมุมของชีวิตครอบครัว ความรักและดราม่า เรียกได้ว่าเราสองคนเผยทุกมุมในรายการนี้”
ตอนแรกได้ออนแอร์เแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
“ยังคงตื่นเต้นค่ะ ตอนแรกของเราสองคนจะเป็นการบอกถึงตัวตนว่าเราสองคนเป็นยังไงโตมาในครอบครัวแบบไหน ชอบหรือไม่ชอบอะไร หลายคนอาจจะคิดว่าโอซาและนิดา เป็นนางแบบเป็นนักแสดงหรือแม้กระทั่งในชีวิตหรูหรา ไฮโซแต่จริงๆ แล้ว เราสองคนก็มีอีกหลายมุมที่คนอื่นไม่รู้เช่น ชอบงานศิลปะทั้งคู่ ใช้ชีวิตทำงานปกติซึ่งนอกจากจะเห็นการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของเราสองคนแล้วก็ยังเสนอความสวยงามของกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายด้วยค่ะ”
แฟนๆ ที่ได้ดูตอนแรกมีกระแสตอบรับยังไงบ้าง?
“ดีมากค่ะ ทุกคนชอบในเรื่องที่เราสองคนเล่า หลายคนถามหาตอนต่อไปกันแล้วโอซากับนิดาก็อยากขอบคุณมากๆ ในทุกแรงเชียร์ แรงสนับสนุน เราสองคนอยากทำรายการที่บอกเล่าความเป็นตัวตนกันจริงๆ เป็นเรียลิตี้ที่ไม่มีการเซตอัพ ทุกอย่างเกิดขึ้นจริง ทั้งเรื่องความรัก การทะเลาะ ความเป็นเพื่อน การใช้ชีวิตที่เรียกว่าบางครั้งก็ไม่ได้ง่าย และความสนุกสนานที่เกิดขึ้นจากทั้งโอซาและนิดาเองซึ่งพอกระแสตอบรับค่อนข้างดีก็ดีใจค่ะ อยากให้คนที่ได้ดูรายการคิดว่า ชีวิตมันเป็นสิ่งธรรมดาและเป็นธรรมชาติมากไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามจะรวยจะจน จะเป็นคนธรรมดาหรือคนดัง สุดท้ายอยากขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่ติดตาม”
เป็นอีกมุมของชีวิตคนเราเมื่อถึงเวลาที่จะต้องเลือกสู่ทางแห่งความสุขเพื่อหลีกพ้นทุกข์ในใจก็เป็นอีกทางเลือกที่สุดวิเศษ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี