รายการเรียลลิตี้แข่งกินระดับประเทศ “ศึกเจ้านักกิน” รายการที่รวมพลนักแข่งกินมืออาชีพมาโชว์พลังกระเพาะเหล็กให้ผู้ชมได้ตื่นตะลึงเป็นประวัติการณ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้
ออกอากาศมาถึงโค้งสุดท้ายในอีพี 9 กันแล้วความดุเดือด กับเมนูอาหารที่ท้าทายได้ทวีคูณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และในอีพีล่าสุดเล่นเอาผู้เข้าแข่งขันเหนื่อยกันเลยทีเดียวเพราะโจทย์กินรสไทยครั้งนี้ผู้เข้าแข่งขันต้องกินและแกะไปในคราวเดียว งานนี้อย่างที่บอกหากจะเป็น “เจ้านักกิน” คนแรกของประเทศไทย ไม่ใช่แค่กินเก่ง กินเร็ว แต่คุณต้องกินได้หลากหลาย และผ่านบททดสอบที่แสนโหดได้ทุกรูปแบบ
รายการศึกเจ้านักกิน สัปดาห์นี้เปิดรายการด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ของทีมผู้เข้าแข่งขันที่มาในก๊วนเดียวกันจากจังหวัดเชียงใหม่ แน็ตเดียร์ และ แบงค์ ที่ขับรถชมวิวทิวทัศน์ ท้องทะเลที่สวยงามของเมืองพัทยา และหลังจากผ่อนคลายหอมปากหอมคอกันแล้ว ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือเพียง 7 คน คือ แน็ตเดียร์แบงค์ ปั้น โป้ง เจมส์ และ เอ็กซ์ ต้องมาเจอบททดสอบใน โจทย์กินรสไทยกับ “เมนูทะเลยกเซ็ต” โดยผู้เข้าแข่งขันต้องกินเซ็ตอาหารทะเลจานใหญ่ที่มีอาหารทะเลสด ๆ ประกอบด้วย ปลากระพงนึ่ง, ปลาหมึกย่าง, ปูม้านึ่ง, หอยแครงลวก, หอยหวานเผาและ กุ้งแช่บ๊วยนึ่ง รวมน้ำหนักเฉลี่ยคือ 3 กิโลกรัมต่อหนึ่งจานซึ่งกติกานั้นผู้เข้าแข่งขันต้องกินอาหารทุกชนิดให้หมด เหลือได้แค่เปลือกเท่านั้น และที่สำคัญ อาหารทะเลทุกชนิดนักกินกระเพาะเหล็กต้องแกะด้วยตนเอง นี่แหละ..คือความยากและความลำบากของการแข่งขันในครั้งนี้ โดยเฉพาะกับทีมเชียงใหม่ แน็ตเดียร์ และ แบงค์ ที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับอาหารทะเลและเช่นเดิมเมื่อเสียงฆ้องดังขึ้น เหล่านักกินจุก็ไม่สนใจคนรอบข้าง และ มีสมาธิกับจานอาหารของตนเอง ซึ่งโจทย์กินในครั้งนี้การวางแผนนั้นสำคัญมาก โดยนักกินจุหลายคนเริ่มกินอาหารที่ง่ายก่อนอย่างปลาหมึก ในขณะที่บางคน เช่น แบงค์ เริ่มกินอาหารที่ต้องใช้เวลาในการแกะและกินได้ยากอย่าง ปูม้านึ่ง ซึ่งผิดคาดมากแม้จะเป็นนักกินจุจากจังหวัดเชียงใหม่แต่แบงค์ก็ถนัดอาหารทะเลใช่เล่น โจทย์กินรสไทยครั้งนี้ ปั้น เป็นผู้เข้าแข่งขันที่กินได้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นคนแรกที่สามารถกินทะเลยกเซ็ตหมดได้ในเวลาประมาณ 15 นาที ตามมาด้วยแบงค์และโป้ง ในขณะที่แน็ต ดูเหมือนจะเสียเปรียบในครั้งนี้ เพราะอาหารทะเลอาจไม่ใช่อาหารถนัดสำหรับเจ้าพ่อกินรสไทยสักเท่าไร การกินอาหารทะเลของเหล่านักกินจุได้ดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด เหลือเวลา 10 นาทีสุดท้าย กลุ่มผู้นำคือ ปั้น แบงค์ โป้ง ส่วนเดียร์ เอ็กซ์ และเจมส์ ยังคงรั้งท้าย และบทสรุปโจทย์กินรสไทยคนชนะคือ ปั้น สามารถกินเมนูทะเลยกเซ็ตไปได้ 2 จาน น้ำหนักรวม 2.88 กิโลกรัม ส่วนเดียร์ และ เจมส์ คือ คนที่ต้องไปประชันกันต่อในโจทย์กินหนีตาย Battle
หลังจากแข่งกินรสไทยอย่างดุเดือด เหล่านักกินได้ผ่อนคลายที่หาดจอมเทียน กับกิจกรรมทางน้ำมากมายที่ให้เหล่านักกินได้เลือกเพื่อความสนุกสนาน และความตึงเครียดก็กลับมาอีกครั้งเมื่อเดียร์ และ เจมส์ ต้องเจอกันใน โจทย์กินหนีตาย Battleยังคงอยู่กับเมนูที่ให้ความสดชื่นในบรรยากาศสบาย ๆ ริมทะเลกับเมนู “ข้าวอบสับปะรด” น้ำหนัก 300 กรัมต่อหนึ่งจาน โดยกติกาคือผู้เข้าแข่งขันต้องกินให้ได้มากที่สุด ต้นการแข่งขัน เจมส์ ออก Start ด้วยวิธีกินเร็วตามสไตล์ ส่วนเดียร์ กินเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นวิธีการกินแบบใหม่ที่นำมาใช้ในการแข่งขัน เวลาผ่านไปไม่ถึง 5 นาทีเจมส์กินข้าวอบสับปะรดหมดไปแล้ว 2 จาน การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือด ผ่านไปครึ่งทางเจมส์คือคนขึ้นนำ และแล้วบทสรุปคนชนะคือ เจมส์ กินไปได้ทั้งหมด 8 จาน น้ำหนัก 2.40 กิโลกรัม ในขณะเดียร์กินไปได้ 7 จาน น้ำหนัก 2.10 กิโลกรัม
สัปดาห์หน้าศึกเจ้านักกิน เดินทางมาถึงโค้งสุดท้าย ท้ายสุดแล้วจริง ๆกับอีพีที่ 10 ซึ่งเราจะได้รู้ว่าแล้วว่าใครคือ “เจ้านักกิน” คนแรกของประเทศไทย งานนี้ความดุเดือดจะเกิดขึ้นมากแค่ไหน ห้ามพลาดเรียลลิตี้การแข่งกินจุที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในรายการ"ศึกเจ้านักกิน"ในวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2562เวลา 13.30 น. ทางช่อง 7HD เท่านั้น!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี