“งู/คนทรงเจ้า/จ้าวแผ่นดิน” นวนิยายวรรณกรรมรางวัลซีไรต์ไตรภาค 3 เล่ม ของ วิมล ไทรนิ่มนวล ที่หยิบยกเอาเรื่องของศรัทธา ความเชื่อของชาวบ้านที่ยังคงมีผลกับสังคมไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย อดีตหรือแม้แต่ยุคปัจจุบันก็ยังคงมีอยู่เนื้อหาในแต่ละเล่ม จะมีส่วนเชื่อมโยงกัน ผ่านตัวละครใน “หมู่บ้านโคกพระนาง” มีเส้นเรื่องเดียวกันคือเรื่องศรัทธา/ความเชื่อ (จริงๆ แล้วยังมี “โคกพระนาง” เป็นตอนย่อยแยกออกมาอีกเล่มเกริ่นนำเรื่องในหมู่บ้านนี้โดยเฉพาะ)
“งู” เน้นไปที่ “หลวงพ่อเนียน” ตัวแทนของศาสนา พระที่นำเอาศรัทธาการเคารพของชาวบ้านมาเป็นเครื่องสร้างอำนาจสนองความอยากของตัวเอง
“คนทรงเจ้า” คนทรงยังคงมีผลต่อชาวบ้าน เน้นไปที่ความเชื่อผ่าน “ไอ้ขาม” หนุ่มชาวบ้านที่เคยต่อต้านความเชื่อก่อนที่เหตุการณ์จะนำพาจนกลายเป็นคนทรงที่มีทั้งเงินทองและอำนาจ
“จ้าวแผ่นดิน” คือการปะทะกันระหว่าง “หลวงพ่อเนียน”กับ “ไอ้ขาม” ศรัทธากับความเชื่อ “พระ” กับ “คนทรง” เพื่อชิงความเป็นใหญ่ในหมู่บ้าน
ในแต่ละเล่มชัดเจนในเรื่องของการสะท้อนเรื่องศรัทธา/ความเชื่อ ผ่านตัวละครที่มีอำนาจ โดยมีตัวละครที่ออกมาต่อต้านคัดค้าน แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ มีชะตากรรมที่ไม่ดีนัก แต่ที่กล้าสุดคือใน “งู” หลวงพ่อเนียน รักเพศเดียวกัน เลี้ยงเด็กชายในยุคนั้นไม่มีใครกล้าที่จะหยิบประเด็นนี้มาแต่ “วิมล” กล้า (ซึ่งในสมัยนี้แทบจะเป็นเรื่องธรรมดา) “งู” เป็นการขับเคี่ยวกันของ 3 ตัวละครหลักๆ ใน “โคกพระนาง” อันได้แก่ หลวงพ่อเนียน เจ้าอาวาสคนใหม่ที่สร้างศรัทธาจากชาวบ้านเพื่ออำนาจเงินและผู้ชาย “ยี่สุ่น” หนุ่มนักจับงูในหมู่บ้าน กับ “กำนันฤทธิ์” อดีตเพื่อนซี้ที่แย่งเมียรักไปตอนติดคุกแถมตามราวีไม่เลิก
“งู” ของ “แจ๊สสยาม” ดัดแปลงเรื่องจากตัววรรณกรรมของ “วิมล” ได้ค่อนข้างดี เก็บรายละเอียดต่างๆ ถ่ายทอดออกมาดูง่าย เล่าเรื่องในแบบเดียวกับในหนังสือ มีบรรยากาศเดียวกันและชวนให้นึกถึง “คนทรงเจ้า” ความรุนแรงต่างๆ ทั้งเรื่องการใช้กำลัง การกดขี่ทางเพศ หรือเรื่องพระ ก็ดัดแปลงได้ดี ภาพอาจดูธรรมดา แต่อารมณ์ความรู้สึกรุนแรงยังคงอยู่ “งู” ถูกถ่ายทอดมาผ่านโปรดักชั่นของหนังไทยในยุคก่อนที่ดัดแปลงบทจากนิยายดังๆคลาสสิกของผู้กำกับคุณภาพรุ่นใหม่ในยุคนั้น บทหนังที่ตรงตามเรื่อง ภาพที่สวยงาม ดนตรีแบบไทยๆ ชายทุ่ง ผ่านวงดนตรีที่ดูอลังการ เพลงประกอบที่ไพเราะ สัญลักษณ์ต่างๆ ที่ถูกใส่มา เพื่อให้คนดูตีความ รวมไปถึงเน้นๆ ไปที่นักแสดงนำ รวมไปถึงนักแสดงสมทบที่ดูเป็นชาวบ้านสมจริง
ภาพรวมของ “งู” น่าจะออกมาดี แต่เสียดายที่ตัวหนังทำออกมารู้เลยว่างบน้อย งบถูกจำกัด ภาพ/เทคนิคพิเศษ ที่ออกมาเลยดูลอยๆ โดดๆ แถมนักแสดงหลักใหม่หมด แม้จะรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความตั้งใจ ความพยายามในการแสดง แต่พลังก็ยังไม่ได้ขาดๆ เกินๆ ที่สำคัญคือพลังไม่มี ทำให้ลดทอนความสนุกลงไปมากทีเดียวยังดีที่ได้รุ่นเก่า อาทิ พอเจตต์ แก่นเพชร, ไกรลาศ เกรียงไกร,โกวิท วัฒนกุล มาช่วยหนังให้ดูมีพลัง
“งู” มาผิดที่ผิดเวลา การเล่าเรื่องแบบนี้กับงานของ “แจ๊สสยาม”ถ้ามาในยุคทองของหนังไทย ได้นักแสดงดีมีพลัง มีทุนกว่านี้สักนิด ผสมกับการกล้านำเสนอเรื่องพระสงฆ์ น่าจะเป็นหนังไทยที่ดูสนุก น่าชมมากกว่านี้ และมาตอนนี้กับภาพของ “งู” ที่ออกมาคนที่ชอบหนังไทยในสไตล์เก่าๆ น่าจะชอบแค่ไม่มีดาราดีๆ ให้ชื่นชม แต่กับนักดูหนังรุ่นใหม่น่าจะเป็นหนังที่เชย เอาท์ และไม่น่าสนใจ พอที่จะชมในแง่บวกท้ายสุด...แม้ “งู” จะไม่ค่อยโดนใจไม่สนุกมาก แต่ก็ยังอยากให้กำลังใจ “อาแจ๊สสยาม” ที่ยังคงกล้าจะทำหนังที่อยากทำหนังในฝัน แม้...กาลเวลาจะผ่านไป...ไกลสักนิด...มาช้าไปบ้างก็ตาม “คนทรงเจ้า” คือหนังไทยที่คนจดจำ ไม่ลืมแต่...“งู” เลื้อยมาเอื่อยๆฉก! แล้วจากไปแบบเงียบๆ น่าเสียดาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี