หากย้อนกลับไปเมือราว 10 กว่าปีที่แล้วหลายคนคงจำภาพของเด็กชายลูกครึ่งที่มาพร้อมกับเพลงฮิบฮอพเจ้าของเพลงดัง “เด็กผี” กันได้ดี สำหรับ “นิกกี้” สุระ ธีระกล แต่ด้วยชีวิตที่มีความมั่นใจในตัวเองตั้งแตกเด็ก และขาดผู้ใหญ่คอยให้คำปรึกษาทำให้เขาตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตด้วยตัวของเขาเอง จากภาพของเด็กหนุ่มฮิพฮอพ สู่ความเป็นแบ๊ดบอยตัวพ่อ และถลำสู่เส้นทางสายอิโรติกจนได้เฉายา “นิกกี้ พิ้ม” พร้อมกับข่าวฉาวต่าง ๆ นานา จนในที่สุดตัดสินใจยุติเส้นทางสายบันเทิงมุ่งสู่การทำธุรกิจ คอลัมน์สตาร์เรโทร ครั้งนี้ นิกกี้เปิดใจเรื่องราวตั้งแต่วัยเด็ก พร้อมเผยที่ผ่านมาใช้ชีวิตสุดขั้ว ติดยาจนเพี้ยน พร้อมเผยเรื่องราวความรักที่ผิดหวัง และวันนี้ “นิกกี้” ประกาศเตรียมกลับมาอีกครั้งในลุคส์ที่แรงกว่าเดิม
ชีวิตในวัยเด็กแบบแบ๊ดบอย
“ชีวิตสมัยเด็กผมค่อนข้างเหมือนเด็กมีปัญหา คุณพ่อคุณแม่เลิกกัน ทำให้ผมกับพี่ชายต้องย้ายมาเรียนโรงเรียนประจำ ผมจะอยู่กับซิสเตอร์เหมือนท่านเป็นผู้ปกครองเพราะเรียนโรงเรียนคริสต์และตอนนั้นจะต้องย้ายโรงเรียนไปเรื่อย ๆ เพราะท่านต้องทำหน้าที่เป็นมิสชันนารีเดินทางบ่อยเหมือนกับว่าเป็นผู้ปกครองเรา แล้วพอวันหยุดก็จะมีโอกาสได้กลับมาเยี่ยมญาติที่บ้าน ผมจำได้เลยว่าเจอคุณแม้ครั้งเดียวตอนอายุขวบกว่า ๆ ทำให้จำหน้าคุณแม่ไมได้ แต่สุดท้ายพอเราอายุ 9 ขวบคุณแม่ก็มารับเราไปอยู่ด้วยที่อเมริกาพร้อมกับพี่ชาย สุดท้ายด้วยความที่ผมเป็นคนดื้อแต่เด็กแล้วก็เนื่องจากความที่ไม่สนิทกับแม่ก็เกิดความน้อยใจ มีปัญหามาตลอด เลยไปเข้ากลุ่มเพื่อนที่เกเรที่เป็นคนเอเชีย ต้องบอกตรงๆว่ายุคนั้นเป็นยุคที่เหยียดสีผิว สุดท้ายผมไปทางที่รกๆหน่อยไม่ค่อยไปเรียนหนังสือ มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง อบายมุข ผมไปอยู่ตั้งแต่ 9 ขวบจน 16 ผมก็เกิดคดีความติดคุกที่อเมริกา แต่ว่าเหมือนเป็นสถานพินิจมากกว่า จำไม่ได้ว่ากี่เดือนแต่คร่าวน่าจะ 6 เดือนถึงหนึ่งปี สุดท้ายพอมีคดีแรก เหมือนเขาก็ให้ผมตัดสินใจว่าจะกลับมาเมืองไทยหรือว่าจะเรียนต่อที่นั่นก็ได้ แต่เหมือนกับว่าแน่นอนพื้นฐานของคนเกเรมันก็ต้องมีปัญหาอีกใช่ไหมก็เลยขอกลับมาสักปีหนึ่งดีกว่า ก็กลับมาได้มาอยู่กับน้าที่ สมุทรปราการ พอดีลูกๆเขาเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ ผมก็เลยไปเรียนที่นั่น ก็เรื่องมันเริ่มจากตรงนั้น”
เข้าวงการบันเทิงเต็มตัว
“หลังจากมาอยู่เมืองไทยยุคนั้นเป็นยุคที่ลูกครึ่งเขาฮิตกัน มีแมวมองมาพบผมตอนนั้นก็ได้ถ่ายแบบมาเรื่อย ๆ จนวันหนึ่งมาพบกับพี่พจน์ อานนท์ เขามีหนังมาให้เล่น เราก็ตัดสินใจก็ได้เล่นหนัง แต่ว่าช่วงนั้นก็ต้องกลับไปที่อเมริกาทุกปี มันยังอยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะเรียนต่อหรือว่าเป็นดารา แต่พื้นฐานของผมชอบผจญภัยอยู่แล้วก็เลยบินกลับมาที่เมืองไทยแล้วก็ได้เซ็นสัญญากับอาร์เอส เป็นนักร้องอัลบั้มแรกชื่อ “เด็กผี” แต่คนจะรู้จักนิกกี้ ก่อนเด็กผีเพราะว่า มีหนังแล้ว อะไรแล้ว เป็นนายแบบ สุดท้ายก็มาเริ่มในส่วนของการเป็นนักร้อง อารมณ์ตอนนั้นแบบเราร้องเพลงไม่ได้แต่เรารักในดนตรี เพลงแนวแรฟ อะไรอย่างนี้สุดท้ายได้ออกเพลงมาหนึ่งอัลบั้มซึ่งบอกตรงๆว่าไม่เป็นตัวเองเลย มีความเป็นฮิปฮอปแค่เพลงเดียว นอกนั้นเป็นเพลงป๊อป แต่อัลบั้มขายดีมาก คอนเสิร์ตเยอะมาก แต่สุดท้ายมันมีปัญหาระหว่างเรากับผู้ใหญ่เพราะเราไมได้ทำที่ตัวเองต้องการแต่ตอนนั้นเรายังเด็ก คือเขาอยากให้เราไปเล่นละครแต่เราอยากเป็นนักร้องเพราะมันไม่เท่ห์ คือความหวังดีเขาอยากให้เล่นละครแล้วร้องเพลงไปด้วย แต่ผมบอกตรงๆว่าอยากจะร้องเพลง เขาก็บอกว่าดร็อปเพลงก่อนไหมแล้วเปลี่ยนเป็นแนวร็อคไหม แล้วก็เล่นละคร สุดท้ายผมก็เป็นเด็กที่รั้นด้วย ก็มีพูดจาที่แรงไม่ดีหลายๆครั้งผู้ใหญ่เบรกไม่อยู่สุดท้ายมันทำให้ผมต้องเดินออกมา”
เสียใจกับความผิดพลาด
“ทุกวันนี้เสียใจนะกล้าพูดได้เลยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะว่าเราเป็นเด็ก แล้วที่สำคัญเราไม่มีผู้ใหญ่พ่อแม่ที่จะมาคอยสอนเรา ที่จะบอกเราว่าต้องทำอย่างนี้ๆ เพราะว่าเราผจญภัยมาตลอดวันนี้ต้องขอโทษเฮียเลย รู้แล้วว่าเขาอยากให้เราดังวันนั้นเราไม่เข้าใจอาจจะแบบออกเทปเทห์ สุดท้ายฝากขอโทษอาร์เอสด้วย ทุกวันนี้โตแล้ว สุดท้ายผมก็ออกมาลุยเอง ก็รู้ว่าชีวิตที่ไม่มีค่ายมันเหนื่อยนะอะไรอย่างนี้ก็ตัดสินใจว่าจะกลับอเมริกา”
ก้าวสู่เส้นทางอิโรติก
“ตอนนั้นตั้งใจว่าจะกลับอเมริกาแต่ก่อนกลับมีอย่างเดียวที่ยังค้างอยู่ตั้งแต่เด็กจนโตเรามองว่าผู้ชายที่มีกล้ามมันเท่ห์นะอะไรอย่างนี้ ระหว่างที่เรารอก็ออกกำลังกาย เล่นฟิตเนสทำไปทำมา ทำมาได้ปีกว่าจริงจังด้วย กล้ามก็เริ่มขึ้นพอดีมันมาทิ้งทวนมีพี่คนหนึ่งเขาบอกว่าเอาเลยถ่ายหนังสือนู๊ดสิ แล้วถามว่าวันนั้นพอเราไม่ได้เป็นอาร์เอสฯ ไม่ได้หาเงินได้เยอะเราก็มองว่าเอาลองดูก็ได้ได้เงินสักก้อนหนึ่งกลับอเมริกา เพื่อไปเริ่มชีวิตใหม่ตรงนู่นน่ะในยุคนั้นเม็ดเงินมันเยอะกว่าสมัยนี้เยอะ เราไม่คิดว่ามันจะดังแล้วมันก็ดังมากๆ หนังสือขายดีมาก แล้วยุคนั้นมีซีดี ที่เป็นแนวอิโรติก แน่นอน นิกกี้ถ่ายนู๊ดก็เอามาเล่นอิโรติก ประเทศไทยกระแสอะไรดังก็เอามาอยู่เลยก็เลยเอานิกกี้มาเล่นวีซีดี เล่นไปเล่นมา 18 เรื่องปีหนึ่งงานไม่ว่างเลย เพราะว่าผมเล่นจริงด้วยสิจูบจริง เราเต็มที่เราไม่มีผู้ใหญ่มาคอยดู มันเลยทำให้ภาพเราดูแรงขึ้นเราเลยกลับมาแจ้งเกิดในอีกภาพลักษณ์หนึ่งที่ต่างไปจากเดิม”
หลงทางจนติดยา
“ในสังคมเมื่อผมแรงขึ้นทุกคนยิ่งชอบ งานเข้ามากขึ้น มีเงินเราเริ่มสร้างตัวเองทำงานเพลงเอง ก็เริ่มมีเงินแต่ข้อเสียของผมอย่างที่บอกไม่มีผู้ใหญ่ไม่มีใครคอยดู สุดท้ายชีวิตดารามันคู่กับการทำปาร์ตี้สังคมข้อเสียของผมตอนนั้น ผมเริ่มใช้ยา ใช้ยามาได้สักพักจนใช้หนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีใคร ไม่มีครอบครัว ผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ สุดท้ายผมก็เสียคนเล่นยาจนเสียสติไปจนมีข่าวว่านิกกี้เพี้ยน ตรงนั้นผมบอกได้ว่าไม่ใช่ตัวผม แล้วผมก็คิดได้ว่าเงินไม่ใช่คำตอบ คำตอบคือความรักครอบครัว สุขภาพ แล้วเมื่อก่อนผมอยากจะบอกว่าผมไม่เชื่อในอนาคต ไม่เชื่อในปัจจุบัน ผมเชื่อแค่ว่าวันนี้มันคือของจริงแล้วมันเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะว่าถ้าวันนี้เราเต็มที่ แล้วพรุ่งนี้จะเป็นยังไงเราไม่รู้ เราเต็มที่ทุกวันเราก็ไม่ไหว มันต้องมีพรุ่งนี้สิ ไม่งั้นเราตายสิ พอเราไม่มีวิธีคิด ไม่มีกุนซือ สุดท้ายก็เฟลคุมตัวเองไม่อยู่ เป็นช่วงที่ผมมีข่าวเสียหายอยู่บ่อย ๆ ตอนนั้นหายไป 2 ปีเลย ก่อนที่จะตัดสินใจเลิกยาด้วยความที่เราอับอายเราเลยคิดจะย้ายไปอยู่ที่อเมริกา หรือไม่ก็ญี่ปุ่นเพื่อไปใช้ชีวิตที่นั่น แล้วเราไม่ได้ดังขนาดพี่เบิร์ดแต่ในประเทศไทยแบบเราก็มีไม่กี่คน เราไม่กล้าเดินไปไหน เราอายชีวิตตอนนั้นเราอยู่ในโลกแคบๆ เคยทำงานทุกวันเจอคนแปลกหน้าทุกวันมันเหมือนแบบมันมีความสุขมันไม่เหงา แล้ววันหนึ่งต้องมาอยู่คนเดียวไม่เจอใครเลย นี่ชีวิตมันเป็นแบบนี้หรอ มันน่ากลัวมาก เราไม่เอาแล้วจะไปต่างประเทศ แต่ก่อนไปผมมีงานค้างอยู่คือหนังซีดีที่ต้องหาที่จัดจำหน่าย จนมาเจอพาร์ทเนอร์และได้ตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกันซึ่งผมเป็นผู้บริหารทำให้ผมได้พลิกวิกฤติเป็นโอกาสอีกครั้งซึ่งตอนนั้นผมตั้งใจว่าจะมีหุ้นส่วนธุรกิจและหุ้นส่วนชีวิตและเลิกภาพลักษณ์ความเป็นบีดบอยทั้งหมดเพราะตั้งใจอยากสร้างครอบครัวแล้ว แต่สุดท้ายก็ไมได้เป็นอย่างที่หวัง 3 ปีที่ผมหันหน้าทำธุรกิจอย่างเดียว”
หายไป 3 ปีที่ผ่านมามีความรัก
“ใช่ผมมีความรักครับ ผมเลิกทุกอย่างทั้งเรื่องเจ้าชู้ ภาพลักษณ์แบ๊ดบอย เพราะว่าถ้าผมรักใครผมจะให้เกียรติเขา ผมจะไม่ทำงานประเภทนี้ แต่เมื่อทุกอย่างมันไม่เป็นตามที่คาดหวังไว้ แต่วันนี้ผมบอกเลยว่าผมกลับมาลุยแล้ว ผมไม่พูดแล้วกันว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เป็นเพราะว่าผมทิ้งฝันผมไม่ได้ ตอนนี้ผมตั้งใจจะกลับมาทวงความฝันของผมคืนอีกครั้ง ตอนนี้ไม่คิดเรื่องความรักแล้วเมื่อก่อนถ้ามีแฟนก็ทำร้ายผู้หญิง แต่ตอนนี้ถ้าจะมีแฟนแล้วเราเต็มที่ แต่สุดท้ายเราอกหัก เราเลยบอกว่าวันนี้เราไม่เอาดีกว่าเราขอลุยธุรกิจงานของผมอย่างจริงจัง”
เตรียมฟิตพร้อมกลับมาอีกครั้ง
“ผมเปิดบริษัทใหม่ภายใต้บริษัทใหม่ “นิกกี้ มิล์ค” เน้นความเป็นเอนเตอร์แทนซึ่งผมต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนที่ให้โอกาสช่วยผมในการเปิดบริษัทใหม่ สำหรับแล้วนิกกี้ทีมไม่อยากมีแฟน อยากทำเอ็นเตอร์เทนเม้นต์นี้ให้กับคนดูที่พร้อมสนับสนุน แต่ว่าตอนนี้อยากให้รอนิกกี้ พิ้ม คนใหม่กลับมาก่อน 3 ปีที่ผ่านมาที่มีความรักก็ปล่อยตัวอ้วน ตอนนี้กลับมาฟิตไม่เกินสามเดือนนิกกี้จะกลับมามีกล้ามโหดร้ายน่ากลัวสักเป็นแบบอีเวอร์ชั่นหนึ่งแต่ไม่ติดยา ไม่ยุ่งกับยาเสพติด ที่พูดตอนนี้บอกเลยว่าขนลุกความใฝ่ฝันอยากจะเก็บตังค์ให้รวยเป็นมหาเศรษฐีเพื่อจะเอาเงินไปช่วยคนนี้เรื่องจริง เพราะว่านิกกินยังไงก็กินไม่หมด”
นิกกี้ มิลค์เกี่ยวกับอะไร
“ความบันเทิงครบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นงานหนังอิโรติกทุกอย่างที่เกี่ยวกับเซ็กส์ ที่เป็นตัวตนของนิกกี้ เป็นเหมือนเพลย์บอยของประเทศไทย นอกจากหนังที่ปีนี้ตั้งเป้า 18 เรื่อง ยังมีนิตยสารผู้ชาย ทำเพลง ทำผลิตภัณฑ์ และผมจะพาทุกคนไปบกับผู้หญิงทั่วโลกอยากให้ลองติดตามกันดู”
หลังจากนี้ระวังตัวเองเรื่องผู้หญิงไหม
“ไม่ระวัง ปล่อยให้เป็นไปตามกระแส แต่กระแสที่เกิดขึ้นไม่ใช่กระแสที่สั้นแน่นอนเพราะว่าสิ่งที่กำลังทำมันไม่เหมือนดาราคนอื่นที่จะต้องไปคบใครพื่อสร้างกระแสให้ดัง หรือต้องคบคนนี้เพื่อจะออกอีเว้นต์คู่กันมันไม่ใช่ คอนเซ็ปต์ผมทำงานกับผู้หญิง ผมคือคนที่ควบคุมผู้หญิง เขาเรียกว่าผู้บังคับบัญชาผู้หญิงสูงสุด เพราะว่าต่อไปจะมีกองทัพผู้หญิงที่อยู่ภายใต้ผมทั้งหมด ทุกวันนี้ก็มีอยู่แล้ว”
สิ่งที่ได้เป็นบทเรียนในการใช้ชีวิตอะไรบ้าง
“อย่าลืมตัวครับ ผมลืมตัวครับ แล้วที่สำคัญผมไม่ฟังผู้ใหญ่วันนี้ผมบอกได้เลยครับเดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด ผู้ใหญ่รักเขาถึงเตือน อะไรก็แล้วแต่ถ้าไม่มีคนปรึกษาที่ดี เราก็ทำมันให้สำเร็จไม่ได้ เพราะว่าตลอดเวลานิกเป็นแบบตัวคนเดียวมาตลอด วันนี้นิกมาเป็นทีม นิกมีกุนซือ นิกเป็นกองหน้าที่พร้อมจะเล่น แค่นี้ทุกอย่างจะลงตัวแต่ถ้ามันไม่ประสบความสำเร็จ ผมไม่เสียใจเพราะว่านมุษย์เราไม่ได้ประสบความสำเร็จตลอด ไม่มีความสุขตลอด 3 ปีที่ผ่านมาผมเป็นสิงโตนะแต่เป็นสิงโตที่มีตาเหมือนแมว เพราะว่า 3 ปีที่ผ่านมาผมมีความรักแล้วผมให้ความรักไปแต่ว่าความรักไม่เป็นอย่างที่ต้องการ วันนี้สิงโตต้องหันกลับมาคำรามอีกครั้งเพื่อให้คนดูที่อยากดูมันกลับมา”
อยากจะบอกอะไรกับดาราที่อาจจะมีเส้นทางที่เดินผิดพลาด
“ผมอยากจะบอกว่า เดินเลยครับ อยากจะทำอะไรทำ พูดไปไม่มีใครเชื่ออ่านสัก 5 นาทีนิกกี้มันฟุ้งอะไรอีกแล้วเจ็บก่อนแล้วกันเดี๋ยวจำ แล้วพรุ่งนี้มันจะเป็นสิงโตเอง ทุกคนเป็นสิงโตแต่กว่าจะเป็นมันต้องเจ็บผมเจ็บมาเยอะแล้ว แต่ว่าวันนี้เรามาเป็นทีม กำลังใจมาจากครอบครัวที่ละทิ้งมาตลอด กำลังใจมาจากพี่ๆทุกคนที่มาช่วยผม นิกกี้คือคนน่ากลัว ทุกวันนี้ทุกคนกลับมาให้กำลังใจผม ทุกคนที่เป็นทั้งบวกและลบทุกคน ถ้าคุณตามผมดาราทุกคนที่ชอบและไม่ชอบ แต่ว่าผมจะอยู่ในใจคุณวันนี้ผมกลับมา และที่สำคัญที่สุดนอกจากแฟนคลับผมมีพระเจ้า คำว่าพระเจ้าผมกว้างมาก สิ่งที่เหนือธรรมชาติพระบิดาที่อยู่บนสรวงสวรรค์นั้นคือกำลังใจของผม พลังของพระเจ้า”
อยากบอกอะไรถึงแฟนๆ
“วันนี้นิกกลับมาเต็มรูปแบบ มีผลงานออกมาเต็มเลยตามดูในแผงของสหมงคลฯ งานทุกอย่างที่เป็นนิก สามารถเข้าไปในยูทูปได้ สามารถเข้ามาที่เฟสบุ๊คนะครับ nicky pincz ก็จะมาเป้นเพื่อนผมในเฟสบุ๊ค นิกกี้มิลค์ อันนี้เป็นชื่อบริษัทผม หรือเข้ามาง่ายๆที่สุด www.nickymilk.co.th มันจะเข้าทุกลิงค์เลย”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี