โน้ส-อุดม แต้พานิช ชวนคนไทยส่งต่อน้ำใจเล็กๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ กับ “โครงการก้าวต่อไปด้วยพลังเล็กๆ ภาคเหนือ” เพื่อ 7 โรงพยาบาลภาคเหนือ
“เราอยากที่จะ ก้าว ไปให้ถึงที่สุด เท่าที่พลังของเราและทุกๆ คนจะมี เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่า... แค่ก้าวเล็กๆ จากทุกคน เมื่อรวมกันแล้ว...มันจะสามารถกลายเป็น“ก้าวยาวๆ” ขึ้นมาได้จริงๆ” หนึ่งประโยคที่กลั่นออกมาจากความรู้สึกผู้ชายที่ชื่อ ตูน-อทิวราห์ คงมาลัย ที่ได้ลุกขึ้นมาสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ให้แก่สังคมไทย โดยการทำให้คนไทยได้ร่วมพลังใจเป็นหนึ่งเดียวในการร่วมทำความดีเพื่อสังคม กับ “โครงการก้าวคนละก้าว” ที่รวมทั้งระดมทุนเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลชุมชน ที่มีความใกล้ชิดกับชุมชนมากที่สุดในภาคต่างๆ
ขณะนี้ โครงการก้าวคนก้าว ได้ผ่านมาแล้ว 3 ภาค คือ อีสาน ใต้ และเหนือ การลงไปในแต่ละภาคล้วนได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเหล่าคนดังในหลากหลายวงการและคนไทย รวมทั้งหลายๆ คนที่กล้าก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเองและกล้าก้าวลงสนามในระยะทางมินิมาราธอน เมื่อรวมยอดสมทบยอดบริจาคจากน้ำใจคนไทยณ ตอนนี้ ได้ถึง 38,226,609.42 บาท (ณ วันที่ 26กุมภาพันธ์ 2563 )
เพื่อจะทำให้พวกเราได้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ในการส่งต่อน้ำใจเล็กๆ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ “ดีขึ้น”กว่าเดิม โน้ส-อุดม แต้พานิช นักแสดงตลกของเมืองไทย ลงพื้นที่โรงพยาบาลชุมชน ณ ดินแดนห่างไกลในภาคเหนืออย่าง โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งถือเป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่รองรับประชากรถึง 282,566 คน เมื่อเจ็บป่วยทุกคนต้องเดินทางมาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ซึ่งมีที่เดียวเท่านั้น นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลที่ โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ จำเป็นที่ต้องได้รับความช่วยเหลือตรงนี้ค่อนข้างมาก
และเมื่อ โน้ส-อุดม เข้ามาสัมผัสสิ่งที่เห็น คือภาพความยากลำบากของการเดินทางมาโรงพยาบาลดินแดนที่ห่างไกล เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล และอุปกรณ์ทางการแพทย์หลายชิ้นที่ทรุดโทรม เหมือนของ “วินเทจ” จนทำให้นักพูดทอล์กโชว์ถึงกับเอ่ยว่า “เทคโนโลยีตอนนี้จะเคลื่อนไปไกลมาก แต่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ยังอยู่ที่เดิม อย่างเตียงตรวจห้องฉุกเฉิน ยังคงใช้งานมานานกว่า 10 ปี พบว่าสภาพทรุดโทรมเสื่อมตามเวลา ใช้เทปพันแล้วพันอีก เพื่อประคับประคองให้เตียงยังคงใช้งานให้นานที่สุด ขณะเดียวกันเครื่อง Radiant warmer สำหรับทารกแรกเกิดวิกฤติ ใช้งานมากว่า 25 ปี ตอนนี้ประสิทธิภาพไม่สมบูรณ์เต็มร้อย แน่นอนว่าเมื่อทารกแรกเกิดที่มีอาการวิกฤตินั้น การที่แพทย์จะช่วยทารกให้ผ่านวิกฤติตรงความเป็นความตายตรงนั้นมาได้นั้น ไม่เพียงแค่ทักษะความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น แต่อุปกรณ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ที่ช่วยรักษาชีวิตพวกเขา
ขณะที่ห้อง NICU หรือห้อง ICU ของทารกแรกเกิด โดยเฉพาะทารกที่คลอดก่อนกำหนดต้องอยู่ในห้องนี้กันก่อน และสิ่งที่ต้องการคือ “การปลอดเชื้อ” ถึงแม้ว่าในตู้อบจะมีตัวกรองก็ตาม แต่ช่วงนี้ภาวะฝุ่น PM2.5 ที่บางวันวัดได้ถึง 400-500 ที่น่าเป็นห่วงคือ ในห้องนี้กลับไม่มีเครื่องกรองอากาศเลย ทีมแพทย์ทำได้แค่เอากระดาษลังมาซีลตามจุดต่างๆ เพื่อกรองฝุ่นจากข้างนอกผ่านเข้ามาในห้องให้น้อยที่สุด”
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของโรงพยาบาลภาคเหนือ ที่ยังรอคอยการเปลี่ยนแปลง โน้ส-อุดม พร้อมทั้งทีมก้าว อยากเชิญชวนให้คนไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อน้ำใจเล็กๆ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ถึงแม้ว่าเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์จะแพงหลายแสนหลายล้าน แต่ก็คุ้มค่าเพราะอุปกรณ์เหล่านี้ คือเครื่องที่ช่วยรักษาชีวิตคนให้อยู่ต่อ
ยังไม่สายที่วันนี้พวกเราจะร่วมบริจาค ให้กับ 7โรงพยาบาลภาคเหนือ ได้แก่ โรงพยาบาลทองแสนขัน,โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์, โรงพยาบาลอุ้มผางจังหวัดตาก, โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน, โรงพยาบาล เวียงแก่น จังหวัดเชียงราย, โรงพยาบาลสะเมิงและโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ได้ผ่านช่องทางหลัก คือ บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขา รัชโยธิน ชื่อบัญชี มูลนิธิก้าวคนละก้าวเพื่อโรงพยาบาลภาคเหนือ เลขบัญชี 111-393-890-2 (บัญชีกระแสรายวัน) หรือทาง SMS ครั้งละ 10 บาทพิมพ์ T แล้วส่งมาที่ 4545099 (ทุกเครือข่าย) บริจาคตั้งแต่วันนี้ จนถึง 29 กุมภาพันธ์ 2563 ติดตามรายละเอียดของโครงการ ผ่าน www.kaokonlakao.comและ Facebook ก้าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี