ต้องยอมรับการเลยว่าตอนแรกเฉยๆ กับ The Kingdom ตั้งแต่ซีซั่นแรกด้วยเหตุผลสั้นๆ ง่ายๆ คือ เป็นคนไม่ค่อยชอบดูซีรี่ส์หรือเรื่องยาวๆ ที่ต้องดูต่อเนื่อง อีกประการหนึ่งคือไม่ได้ชื่นชอบนครนรกซอมบี้คลั่ง (Rampant) มากนัก แค่สนุกเท่านั้น รวมทั้งไม่ได้เป็นสมาชิก Netfix เพิ่งจะมาสมัครเมื่อเดือนธันวาคม ก็ยังไม่คิดจะดู แต่เพราะโควิด-19 แท้ๆ ว่างมากๆ ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยเอาว่ะลองดู แถมไม่ยาว ซีซั่นละแค่ 6 ตอนเอง ผลก็คือติดงอมแงม ดูรวดเดียว รอไม่ไหว จบๆ กันไปเลย 2 ชีซั่นใน 2 วัน ชอบกันไปเลยทีเดียว
นครนรกซอมบี้คลั่ง (Rampant) (2018) ผีดิบคลั่งบัลลังก์เลือด(The Kingdom) ซีซั่น 1 (2019) ซีซั่น 2 (2020) กำกับโดย คิมซองฮุนผู้กำกับคนเดียวกัน แต่นักแสดงเปลี่ยนเป็นคนละทีม The Kingdom คือเรื่องราวของการเกิดโรคระบาดที่ทำให้เกิดอสุรกายออกมากินคนแพร่เชื้ออย่างต่อเนื่อง จนทำให้องค์ชายรัชทายาทที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏต้องมาช่วยเหลือชาวบ้าน และมีซอบี หมอหญิงคนเก่งที่พยายามหาวิธีรักษาโรคระบาด ขณะเดียวกันก็มีในส่วนของราชสำนักเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
The Kingdom Season 2 เดินเรื่องไปข้างหน้าแบบมีชั้นเชิงโดยไม่จำเป็นต้องมาปูรายละเอียดตัวละคร ที่ส่วนใหญ่จะชัดเจนมาแล้วจากในภาคแรก เพียงแต่มีลูกเล่นในการเล่าเพิ่ม มีที่มาที่ไปชัดเจนในแต่ละตัวละคร หรือแม้แต่ตัวละครที่เพิ่งจะมีบทสำคัญในชีซั่นนี้หรือตัวละครใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้ามา ก็ชัดเจนในการแยบรวบรัดได้ใจความซีซั่นแรกว่าดูสนุกแล้ว แต่การเล่าเรื่องของซีซั่น 2 กลับดูมีชั้นเชิงมากกว่า มีลูกล่อลูกชน หลอกล่อให้หลงทาง ก็วกกลับมาที่เดิมเล่าเรื่องได้แบบไม่มีอะไรค้างคา ที่สำคัญผสมกันได้อย่างกลมกล่อมลงตัว เข้ากันดีระหว่างในส่วนของการเมือง การชิงอำนาจ และในส่วนของผีดิบ อสุรกาย The Kingdom Season 2 จบเรื่องราวที่ต่อเนื่องมาจากซีซั่นแรก มีบทสรุปที่ชัดเจน ไม่มีอะไรค้างคา จบลงอย่างสวยงาม เพียงแต่...ตัวหนังยังมีการทิ้งเชื้อ เพื่อไปสู่ซีซั่นใหม่ได้อย่างชวนติดตาม จนแทบไม่อยากรอ อยากให้มาไวๆ
และได้ จวนจีฮุน ยัยตัวร้ายในตำนานที่โผล่มานิดๆ แต่ดูยิ่งใหญ่สวยงามมากจนอยากที่จะดูซีซั่นสามเร็วๆ หลังจากยังคงหลงรักแบดูนา ที่มารับบทหมอหญิง ซอบี มาแล้วตั้งแต่ต้นซีซั่น หรือในเรื่องอื่นๆ เป็นนักแสดงสาวที่เล่นเรื่องไหนรักเลยเรื่องนั่น ส่วนสาวๆ คงชอบ จูจีจุน ในบทองค์ชายจาง ดู The Kingdom รวดเดียว 2 ซีซั่น ทำให้อดที่จะกลับไปดูฉบับหนังใหญ่ นครนรกซอมบี้คลั่ง (Rampant) (2018)ตอนดูในโรงครั้งแรกนั้นค่อนข้างชื่นชอบ สนุกไปกับเรื่อง การนำเอาซอมบี้ ย้อนกลับในสมัยโบราณยุคกษัตริย์ สนุกสนานมากมาย เมื่อมาดูThe Kingdom ก็ยังชื่นชอบ แต่ไปคนละแบบคนละแนวโครงเรื่องของทั้งสองเรื่องเหมือนกัน การนำเอาโรคระบาดเชื้อโรค ซอมบี้ ผีดิบอสุรกาย มาใช้ประโยชน์ในการสร้างอำนาจให้เกิดขึ้น องค์ชายรัชทายาทผู้นำที่ไม่ค่อยหวังในบัลลังก์ มหาอำมาตย์ผู้ทรงอำนาจ กลุ่มชาวบ้านที่เดือดร้อน สุดท้ายเรื่องมาจบภายในวัง โรคระบาดผีดิบบุกถล่มวังหลวง เพียงแต่ คิมซองฮุน ผู้กำกับทั้งสองเรื่องแยกชัดเจน ตัวละครต่างกัน แม้ตัวละครหลักมีความคล้ายกัน แต่ส่วนใหญ่ฉีกไปเลย อาทิ ตัวกษัตริย์ อำมาตย์หรือแม้แต่เพิ่มตัวละครหลักใหม่ๆ เข้ามา อาทิ หมอหญิงซอบี เปลี่ยนพระชายาท้อง มาเป็นราชินีท้อง องครักษ์แทนขันทีผู้ติดตาม
สิ่งหนึ่งที่เพิ่มความสนุกให้กับ The Kingdom คือ โรคระบาดอสุรกายในเรื่อง เข้ากับบรรยากาศ โควิด-19 ตอนนี้จริงๆ จนอดที่จะนึกถึงไม่ได้ The Kingdom เหมือนกับเป็นส่วนขยาย เจาะรายละเอียดลงลึกในสิ่งที่ Rampant ต้องการพูดถึงและนำเสนอ ในการเล่าเรื่องแบบซีรี่ส์ เพียงแต่ Rampant สนุกสนานแอ๊กชั่นแฟนตาซีเอฟเฟกท์แน่นๆ เน้นๆ ดูยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างในแบบของหนังฉายโรงที่แม้ในซีรี่ส์จะออกมาดีมาก แต่ยากที่จะเกิดความรู้เหมือนหนังจอใหญ่ และต้องขอสารภาพเลยว่า The Kingdom หรือซีรี่ส์เกาหลี เรื่องที่สองในชีวิตที่ดูจบ ต่อจาก รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ (Autumn in my Heart) เมื่อปี 2000 เป็นเวลา 20 ปีพอดีที่ดูแล้วไม่ปลื้มซีรี่ส์เกาหลี เลยไม่เคยคิดจะดูอีกเลย ใครที่เริ่มเบื่อ The Walking Dead ที่ยาวนานมาถึง 10 ชีซั่น ที่เริ่มน่าเบื่อไม่สนุก The Kingdom จะช่วยให้บรรยากาศความสนุกของหนังซอมบี้กลับมาอีกครั้ง The Kingdom สนุกได้ใจ ไปเลย 10/10 คะแนน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี