เป็นนักแสดงมากความสามารถที่เดินบนถนนมายากว่า 9 ปี ฝากผลงานไว้มากจากเวทีประกวดสู่การทำงานมืออาชีพสำหรับ “จอร์จ-ฐปนัท สัตยานุรักษ์” ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวมีรับหน้าที่เป็นพิธีประจำAPOP TONIGHT (เสาร์-อาทิตย์) 23.00-23.30 น. และมีผลงานละครที่ออนแอร์อยู่ในขณะนี้ “เด็กเสเพล” ซึ่งกระแสตอบรับดีไม่น้อย และปิดกล้องไปแล้วกับละคร “สมบัติมหาเฮง” ค่าย “โกลด์ ซี.พี.จี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด” อีก 2 เรื่องกำลังจะกลับมาถ่ายทำ เรื่อง “ทางเสือผ่าน” และ “ทะเลเดือด”ทางช่อง 7 HD” เรียกได้ว่าฮอตจริงๆ ล่าสุด“ทีมข่าวบันเทิง แนวหน้า” ขอถือโอกาสอัพเดทเรื่องราวในชีวิตพร้อมทั้งพูดคุยถึงความสุขในการดำเนินชีวิตในแบบฉบับ“จอร์จ-ฐปนัท” มาฝากกัน
เข้าวงการมาได้อย่างไร?
“เข้าวงการจากการประกวด ลีวายส์ปี 2010 หาที่ใส่กางเกงลีวายส์สวย มีธีมแมนๆตอนนั้นเล่นฟุตบอลอาชีพทีมหนึ่งแล้วก็รู้สึกว่ามันน่าจะเป็นโอกาสนะ ที่บ้านก็เลยสนับสนุนอยากให้ลองประกวด ก็ลองประกวดดูที่เชียงใหม่ ผบเป็นตัวแทนภาคเหนือ แล้วไม่มีประกวดต่อ ผล คนชนะทั้ง 4 ภาค 4 คนก็เป็นตัวแทนแบรนด์แอมบาสซาเดอร์อยู่ 2 ปีนั่นจุดเริ่มต้นพอเป็นนายแบบเสร็จมีโอกาสไปร่วมงานกับพี่ตุ๊กตา (จิตรลดา ดิษยนันทน์)ที่กันตนา”
เพราะความบังเอิญ?
“เพราะความบังเอิญ อยากต่อยอดด้วย ว่าที่สุดแล้วต้องเดินต่อไปเรื่อยๆ ตอนนั้นเป็นนายแบบ รู้สึกว่าถ้าต่อไปเรื่อยๆ น่าจะต้องมีโฆษณานะ พอมีโฆษณาก็อยากเล่นละครให้ต่อยอดเรื่อยๆ ตอนนั้นชอบไหม ยังไม่รู้ตัวเอง แต่พอได้ มาเรียนการแสดง เล่นละครรู้สึกชอบ”
ละครเรื่องแรก?
“นางฟ้ากับมาเฟีย เป็นลูกน้องพี่เวียร์- ศุกลวัฒน์ เรื่องที่เวียร์ เล่นกับแพนเค้ก-เขมนิจเป็นเรื่องสุดท้ายของช่อง 7”
ตอนนั้นคิดว่าใช่ตัวเองหรือยัง?
“ก็รู้สึกว่าชอบนะ และรู้สึกมีความสุขที่ได้ทำเลยตั้งใจ ผมเป็นคนที่ บอกเลยว่าตั้งใจกับทุกๆ งานที่ทำ ก็เต็มที่ แล้วรู้สึกชอบมาเรื่อยๆ ยิ่งเล่นยิ่งชอบ ยิ่งแสดงยิ่งมีความสุข สนุกในการทำงาน ก็เดินมาต่อๆ มาเรื่อยๆ ปีนี้ก็เป็นปีที่ 9 แล้ว”
ถ้านับตอนนี้เรียกว่าใช่ไหม?
“ใช่ สิ่งที่ทำแล้วมีความสุขคือการแสดงละคร สามารถเลี้ยงชีวิตได้ มีเงินในการดูแลครอบครัว พ่อแม่ได้ เอาจริงๆ ก็ทำให้ครอบครัวภูมิอก ภูมิใจด้วยนะครับ พูดกันตามเนื้อผ้าในการที่เห็นลูกชายเล่นละคร มีชื่อเสียงโด่งดัง”
ความสุขอยู่ที่ผลที่ได้รับ หรือว่าความสุขมันเป็นอะดรีนาลีน ที่มันพุ่งในตัว?
“สองแง่เลยคือ คนที่ได้รับแน่นอนเราต้องทำแล้วได้เห็นมันออกมา ได้เห็นมันออกสู่สายตาประชาชน ทุกคนชอบมันคือผลที่ได้รับ เป็นส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็คือ สิ่งที่เราทำแล้วมันมีความสุข เรารู้สึกว่ามันใช่มันเป็นสองส่วนผสมกัน”
ตอนนี้เจอทางของเราแล้ว?
“ใช่ เจอทางแล้ว ทุกอย่างในชีวิตมันไม่แน่นอน สิ่งหนึ่งที่ผมคิดไว้ตลอด ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อนาคตไม่รู้จะเป็นอย่างไร แต่วันนี้ทำให้ดีที่สุด แล้วก็ยิ้มกับผลที่ตามมา เพราะ ไม่ใช่งานข้าราชการ ที่จะสามารถทำจนถึงอายุ60-70 เป็นงานอิสระ ฉะนั้นวันหนึ่งอาจไม่มีงานก็ได้ หรือวันหนึ่งอาจเปรี้ยงปร้างก็ได้ถ้าไม่มีอะไรรองรับ แผนสำรองให้ชีวิต ฉะนั้นเราก็ต้องคิดหา แพลน 2 ไว้ตลอดนะครับ”
ล่าสุดเป็นพิธีกร?
“เคยทำพิธีกรอีเว้นท์แล้วจังหวะที่ติดต่อมาได้ทำ ก็อยากทำเต็มที่ ตอนแรกรู้สึกขัดๆ งานอ่านข่าวบันเทิง เป็นคนไม่ชอบเสพข่าวบันเทิง ก็รู้จักดาราบ้าง แต่คงไม่หมดแต่ต้องมาอ่านข่าวบันเทิงก็ต้องทำการบ้านให้เยอะขึ้น อ่านข่าวบันเทิง เรื่องราวเป็นอย่างไรอิงกระแส ต้องทำงานให้มากขึ้น ศึกษาพิธีกรหลายๆ ท่าน มีการเชื่อมประโยคอย่างไร การเข้าการออกอย่างไร ต้องศึกษาเหมือนกันครับใหม่สำหรับผม ยิ่งข่าวบันเทิง ปกติแค่เล่นละครต้องเป็นอีกบทบาทหนึ่งก็ท้าทาย”
คนดูจะได้เห็นมุมไหนของ ‘จอร์จ’ บ้าง จากการเล่าข่าว?
“เป็นมุมที่มาจากตัวผมนะ เพราะเป็นคนสนุกสนานตลกอยู่แล้ว น่าจะเป็นส่วนนั้นมากกว่า ถ้าจะเน้นทักษะ แบบเก่งเลย คงยัง ไม่ใช่ น่าจะใหม่กับด้านนี้ เลยใช้การนำเสนอมุมของตัวเอง ในข่าวมากกว่า เป็นตัวเองในการเล่าออกมามากกว่า เสน่ห์ในการเล่าข่าวผมคือ การเป็นตัวของตัวเอง”
เข้าสู่วงการมากี่ปีแล้ว?
“9 ปีแล้ว ผมเข้าวงการมาตอน 2554อยู่กันตนา 8 ปี เกือบทั้งชีวิต ขอบคุณผู้ใหญ่ที่กันตนา ที่ทำให้คนรู้จักผมจากเรื่อง เพลิงพระนาง ก่อนหน้านั้นเล่นหลายเรื่องแต่การประสบความสำเร็จหรือไม่ ผมมองว่าผมต้องเดินต่อไปเรื่อยๆ คำว่าประสบความสำเร็จมันไม่มีลิมิต แค่รู้สึกว่าถ้าเล่นเรื่องนี้มีคนรู้จักมากขึ้นนะ ก็คือเรื่องเพลิงพระนาง”
ถ้าให้คะแนน 1-10 ตอนนี้มีความสุขแค่ไหนกับชีวิตการเล่นละคร และการทำงาน?
“ระดับ 8 ครับ มีความสุขมากเลยนะชีวิตผม ผมไม่มีความทุกข์อะไร ไม่เดือดร้อนอะไรเลย คือ อย่างระดับ 9 กับ 10 ผมให้ เป็นก้าวที่จะเดินต่อไป จนถึงความสำเร็จนั้นเอง แต่ผมไม่สามารถบอกได้ว่าความสำเร็จของผมคืออะไร ตรงไหน อันไหนที่คิดว่าประสบความสำเร็จ ก็คิดว่าต้องเดินต่อไปเรื่อยๆสักวันต้องเป็นวันของผม ไม่รู้วันไหนเหมือนกันนะ แต่มันต้องมีวันของเรา”
คนรู้จักมาจากถ่ายแบบ มองอย่างไรบ้าง?
“ใช่ๆ ผมว่าตอนนั้นเป็นเรื่องดีๆ ได้ไปถ่ายแบบกับพี่ใหญ่-อมาตย์ ต่อเนื่องจากละครเรื่อง เพลิงพระนาง คนรู้จักมากขึ้น ไม่เสียใจเลยนะ ที่ว่าจะมาถ่ายโป๊ ถ่ายอะไร ผมว่าไม่ได้โป๊มาก ดูเป็นสปอร์ต และเป็นงานที่ถ่ายแล้วหุ่นดีเพราะดูแลสุขภาพด้วยซ้ำ เป็นการถ่ายแบบครั้งแรกของผมในชุดว่ายน้ำ อายุป่านนี้แล้ว ไม่ถ่ายตอนนี้แล้ว จะรอตอนไหนถ่ายกับพี่ใหญ่ด้วยนะ เป็นมือต้นๆ ของประเทศไทยเลย รู้สึกดีใจด้วยซ้ำที่มีคนชอบเยอะแยะมากมาย ตอนนี้ในไอจีลงรูปถอดเสื้อเมื่อไร มีคนกดไลค์เพียบเลย”
การเล่นฟุตบอลเป็นสิ่งที่ชอบ?
“ยังคงเตะบอลอยู่ครับ กับก๊วนๆ พี่แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ เจอคนนั้นคนนี้ พี่เตะบอลกับพี่ตูนบ้าง ดีใจนะ ที่เขาทำโครงการก้าวคนละก้าวแล้วไปเตะบอล ก็ได้รู้จักคนในวงการเยอะขึ้น ถือว่าเป็นสิ่งที่รักไม่ทิ้งอะไรสักอย่าง”
วงการให้อะไรบ้าง?
“น่าจะเป็น การใช้ชีวิต การโตเป็นผู้ใหญ่ การวางตัวในสังคม อยู่ร่วมกัน ทำงานเป็นทีม ไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ ต้องมีทีมงาน มีคนเบื้องหลัง วงการสอนผมเยอะทำให้ผมดูแลครอบครัวได้ ในการใช้ชีวิต”
ยุทธนา นารี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี