ผลงานวิจัยเผยภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอัตราผู้ต้องขังหญิงสูงสุดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลาว เมียนมา สิงคโปร์ และไทย เหตุเกี่ยวข้องปัญหาสังคม ความยากจน ความรุนแรงในครอบครัว โดยด้านนักวิชาการหนุนใช้ยุติธรรมทางเลือก สร้างกรอบการบำบัดฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพ หวังสร้างชีวิตหลังพ้นโทษอย่างมีคุณภาพลดอัตราการกระทำผิดซ้ำ
ชลธิช ชื่นอุระ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมข้อกำหนดกรุงเทพและการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิด สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย หรือ TIJ กล่าวว่า จากข้อมูลของกรมราชทัณฑ์พบว่ามีผู้ต้องขังหญิงราว 48,000 ราย และมีอัตราการกระทำผิดซ้ำสูงถึง 34% โดยประเทศไทยมีความพยายามในการลดอัตราการกระทำผิดซ้ำหลากหลายวิธี เช่น การจัดให้มีโปรแกรมบำบัดฟื้นฟูผู้ต้องขังก่อนส่งคืนสู่สังคม การจัดตั้งศูนย์ CARE โดยกรมราชทัณฑ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องขังให้มีงานทำนอกจากนี้รัฐบาลได้ออกมาตรการสนับสนุนการจ้างงานผู้ต้องขังหลังพ้นโทษของภาคธุรกิจและกิจการเพื่อสังคมขณะเดียวกัน TIJ ยังได้สร้างความร่วมมือจากพันธมิตรทางสังคมนำร่องทดลองอบรมผู้ต้องขังหญิง 34 ราย เป็นเวลา 250 ชั่วโมง ในระยะเวลา 3 เดือนก่อนพ้นโทษ ที่เรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งติดตามความคืบหน้าคุณภาพชีวิตหลังพ้นโทษ ซึ่งในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้กระบวนการต่างๆ หยุดชะงักถูกยกเลิกกลางคัน ทำให้ไม่สามารถสร้างความมั่นใจในแง่ของคุณภาพชีวิตหลังพ้นโทษของผู้ต้องขังได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี