นอกจากจะเป็นแก้วตาดวงใจของทุกคนในบ้านแล้ว น้องพอล ยังเป็นขวัญใจเหล่าชาวโซเชียลที่ตามดูความน่ารักสดใสตั้งแต่เกิดจนตอนนี้อายุ 2 ขวบ 5 เดือน คุณพ่ออั๋น ภูวนาท ได้พา น้องพอล และป้าเอ๋ พี่สาวสุดที่รักมาอัพเดทความน่ารักและพัฒนาการหลังจากที่ น้องพอล ได้เข้าโรงเรียน ซึ่งทั้ง แด๊ดดี๊อั๋น และ คุณป้าเอ๋ ถึงกับเอ่ยปากยอมรับในพัฒนาการของ น้องพอล เลยว่าเปลี่ยนแปลงดีขึ้นมากๆ
ช่วงนี้เข้าโรงเรียนแล้ว เห็นว่าตอนเช้าจะร้องไห้เป็นพิธี
อั๋น ภูวนาท : ผมคิดว่าเด็กคนอื่นๆเป็นแบบนี้เหมือนกันนะ แต่ข้อดีของเขาคือ รู้หน้าที่ของเขาอย่างชัดเจน แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่รู้เลยว่าตัว น้องพอล ติด จีพีเอส หรือ ว่าอะไรเพราะเขายังไม่เห็นรถเราเลยเขาจะเริ่มแบะปากไว้รอเป็นอัตโนมัติเลย ซึ่งเราก็งงมากว่ารู้ได้ไงว่าเป็นเลี้ยวนี้ ซึ่งมันเป็นสิ่งมหัศจรรย์มาก ช่วงนี้ก็ลุ้นวันต่อวันแล้วว่าเช้านี้จะยังไงจะร้องไหม แต่จริงๆเขาไม่เคยเกลียดโรงเรียนเลยแต่เขาอยากให้เราเข้าไปด้วยเท่านั้นเอง ต่อให้เขาร้องหนักแค่ไหนก็ตามนะ แต่ถ้าพอครูเดินมาจะโผ่ไปหาครูเสมอ และ พออยู่กับครูแล้วจะหยุดร้องเลย แล้วพอหันมาหาเราแล้วก็บ๊าย บาย
อั๋น ภูวนาท : ที่ผ่านมาคือมีคนส่งข้อความมาเยอะมากทำไมให้ น้องพอล ไปโรงเรียนเร็ว แต่ผมอยากจะบอกว่าเราเห็นการเปลี่ยนแปลงจากการที่ น้องพอล ไปโรงเรียนเยอะมาก แล้วคือ การไปโรงเรียนครูเขาจะบอกอะไรเรามาเยอะว่าเขามีอะไรตรงไหนที่น่ากังวลและเราต้องฝึกร่วมกันแล้วเราไม่เคยคิด เช่น น้องพอล กินข้าวเองไม่เป็น (ซึ่งเราเองเราฟังยังตกใจว่าลูกเรากินข้าวเองไม่เป็นเหรอ) ด้วยเหตุผลว่าเพราะเราอยากให้เขากินเยอะเราเลยป้อน และ น้องพอล ไม่เก็บของ เราก็จะไม่ทันสังเกตว่าเขาไม่เก็บเพราะว่าผมแย่งเก็บของตลอด เพราะเป็นคนกลัวรกเราก็จะเก็บๆเขาไม่มีโอกาสได้เก็บเขาเลยไม่รู้ และน้องพอล ใช้คนอื่นเก่ง เช่น เขาเจอกระติ๊บ เขาจะบอกว่าอยากเอาอันโน้นเก็บให้หน่อย
ป้าเอ๋ : คือ อย่างเวลาเขาอยู่กับเรา เขาก็จะชี้ว่าจะเอาอันนั้น อันนี้ เราก็ไปหยิบมาให้เขา เพราะเป็นการที่เราซัพพอร์ตเขาตลอดเวลาอั๋น ภูวนาท : อย่างขึ้นรถเขาจะถอดรองเท้า เขาก็จะพูดขึ้นมาว่าถอดรองเท้า แต่เขาไม่ถอดเองนะเขาพูดเพื่อให้คนอื่นถอดให้ เหมือนเขาสั่งทุกอย่าง
แล้วเมื่อไปโรงเรียนแล้วคุณครูเขาปรับ น้องพอล แล้วคุณพ่อก็ต้องปรับไปด้วยไหม
อั๋น ภูวนาท : ใช่ครับ คืออย่างตอนนี้ เวลาเขาพูดขึ้นมาว่าจะถอดรองเท้า เราก็จะบอกเขาว่า น้องพอล ก็ถอดสิครับ เขาก็พยายามที่จะถอดรองเท้าเอง
ป้าเอ๋ : คือจริงๆเราอยู่กับเขาจนชิน จนเราไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำสิ่งไหนคือ ปัญหา แต่การที่ น้องพอล ไปโรงเรียนพอครูมาพูดว่าการที่เขาเขวี้ยงของแล้วเรามาเก็บ รู้สึกว่าเขาเขวี้ยงแล้วเขาไม่ผิดเพราะคนอื่นมาตามเก็บ แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่าจะมีวิธียังไงให้เขาเก็บของ เพราะพอน้องไปโรงเรียนเร็วจะทำให้เรามองเห็นปัญหาที่เราไม่เห็น เพราะเราเองอยู่กับเขาทุกวันมันจะเป็นพฤติกรรมที่ ชิน น้องเองก็ ชิน เลยกลายเป็นแบบนั้น
ตอนนี้เห็นว่า น้องพอล มีนิสัยอย่างหนึ่งเหมือนคุณพ่อยืนชมตัวเองหน้ากระจก
อั๋น ภูวนาท : ไม่จริง !!!
ป้าเอ๋ : ไม่ชมตัวเองหน้ากระจก ก็ยืนคุยกับตัวเอง ครูเขาเล่าให้ฟัง พอเรารับน้องพอล เรียบร้อยครูก็จะมาบรีฟให้ฟัง ว่าเขามีพัฒนาการ หรือ มีปัญหาด้านไหน คือ เขาก็บอกว่ามา น้องพอล เขาชอบไปยืนหน้ากระจกแล้วบอกว่าตัวเองหล่อ (หัวเราะ)
อั๋น ภูวนาท : ต้องขอบอกก่อนว่าการที่เขาชมตัวเองเพราะว่าเราเอาเสื้อผ้า เอาหมวก เอาอะไรมาให้เขาเล่น หรือ เขาใส่แว่นแล้วบอกว่า น้องพอล วิ่งไปดูกระจกสิพอเขาวิ่งไปดูเราก็บอกเขาว่าหล่อไหม เขาก็จะมองแล้วบอกว่าหล่อ เพราะมันเจอคำถามนี้ไง เขาเลยจำคำตอบแบบนี้ ตอนนี้ ก็มีเลือกเสื้อผ้าเองแล้วบ้าง แต่ส่วนใหญ่เขาจะบอกว่าเขาไม่ใส่อะไร
ป้าเอ๋ : ถามว่าเหมือนอั๋นไหม คิดว่าเหมือนนะ แต่ อั๋น เขาไม่เคยบอกว่าหล่อ แต่จะแสดงออกทางสีหน้าว่า โอเค!!! ผ่าน
เพราะมีหลานชายน่ารักแบบนี้ เลยทำให้ติดหลานมาก ต้องตื่นหกโมงเช้าทุกวันเพื่อมาเล่นกับน้องพอล
ป้าเอ๋ : ติดมากค่ะ คือ เป็นอย่างเดียวที่เรายอมทำที่ต้องตื่นมาเล่นกับเขาเพราะตอน หกโมง เจ็ดโมง เขามาเคาะเรียกที่หน้าห้องล่ะ คือ ถ้าเป็นคนอื่นเราก็จะหงุดหงิดนิดนึงทำไมมาปลุกตอนเช้า แต่สำหรับหลานง่วงยังไงเราก็ต้องเล่นกับเขาเพราะเรารักเขามาก น้องพอล ทำให้เราเปลี่ยนไปมากๆเพราะตั้งแต่มีน้องพอล คือ เขาทำให้เราไม่เคยนอนตื่นสายเลย
น้องพอล นอกจากเป็นจุดศูนย์กลางของบ้านนี้แล้ว สร้างความสดใสให้ที่บ้านแล้ว ยังสร้างการทะเลาะเบาะแว้งให้ พี่อั๋น กับ พี่เอ๋ เรื่องการเลือกชุดให้ น้องพอล เพราะอะไร
อั๋น ภูวนาท : อย่าเรียกว่าทะเลาะเลย ด้วยธรรมชาติของแต่ละคนเราจะมีความชอบที่แตกต่างกัน ซึ่งพี่ได้เรียนรู้สิ่งนี้เพราะเราได้อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ความสวย ความดูดีของแต่ละคน มันจะไม่เหมือนกันโดยรายละเอียด เพราะพี่เอ๋ เป็นผู้หญิงที่คิคุมาก
ป้าเอ๋ : อย่าเรียกว่าเราชอบความคุคิเลย เพราะเราคิดว่าเด็กในวัยนี้ควรที่จะใส่แบบสีสัน แต่ อั๋น เขาชอบสีที่คุมโทน จนเรารู้สึกว่า น้องพอล เขาแต่งตัวเกินวัยไปมาก
อั๋น ภูวนาท : คือเหมือนเราอยู่ใกล้ใครเราก็จะแต่งตัวแบบเขาอย่างเมื่อก่อนเราแต่งตัวเปรี้ยวกว่านี้ แต่พอเราอยู่กับ จ๋า เขาแต่งตัวแบบนี้ไง แต่พอมีลูกสิ่งที่เราเป็นสิ่งที่เราชอบก็ไหลไปหาลูกไง เมื่อก่อนตอนที่ น้องพอล คลอดมาตอนแรกๆเรายังเลือกสีเลยว่าต้องเป็นสีนี้ นั้นเท่านั้น แต่เราก็ไม่ได้ไปจำกัดอะไรขนาดนั้นนะ อะไรที่มันลงตัวในแบบของมันเราก็ปล่อยไปเพราะเดี๋ยว น้องพอล จะไม่รู้จักสี แต่เราไม่ชองลยการ์ตูนของน้องพอล ก็เลยจะไม่มีลายการ์ตูน
น้องพอล จะเป็นเด็กที่มีแผนสูงมากขี้แกล้ง แล้วก็จะมีประโยคเด็ดที่จะต่อลองกับครอบครัว
ป้าเอ๋ : คือ เขาเป็นคนที่รู้ว่าถ้าจะขออันนี้จะต้องไปขอจากใคร อย่างถ้าเขาพ่อแม่ไม่ได้แล้ว เขาจะต้องขอใครต่อ และถ้าเขาขอทุกคนแล้วไม่ได้ คนสุดท้ายของเขาคือ คุณย่า ซึ่งขอคุณย่า คือได้แน่นอน เพราะคุณย่า ประกาศไว้ว่าพวกเธอจะยังไงก็ชั่งฉันไม่สนใจนะ แต่ถ้า น้องพอล มาขอเขาเขาให้ทุกอย่าง
คุณหญิงย่าให้ทุกอย่างรวมถึงมรดกหมื่นล้านด้วยหรือเปล่า
อั๋น ภูวนาท : เราไม่ได้รวยขนาดนั้นหรอก แต่ถ้าได้ในขณะที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะฉันก็ได้เป็นผู้จัดการมรดก
แล้วใครในบ้านที่ น้องพอล ฟังมากที่สุด
ป้าเอ๋ : เขาฟังเป็นเรื่องๆมากกว่าค่ะ และต้องเป็นใครห้ามและต้องฟังใคร เพราะทุกเรื่อง น้องพอล บังคับยากมากเพราะเขาจะมีความคิดของเขา เราก็ต้องอธิบาย อย่าคิดว่าเด็กวัยนี้แค่นี้เขาไม่ฟังนะคะ เขาเก็บข้อมูลในหัวอยู่ที่ว่าเขาจะทำหรือไม่ทำ
อั๋น ภูวนาท : เราอธิบายให้เขาฟังมากเหมือนกัน และไม่ฝืนเขา ต้องให้เวลาเขาให้เขาอยากทำเองเพราะทุกอย่างในโลกถ้าเรายิ่งไปสั่งเขาจะทำตรงข้าม เพราะฉะนั้นต้องค่อยๆทำค่อยๆไป
แล้วสำหรับ พี่อั๋น คิดว่าตอนนี้ตัวเองเปลี่ยนไปไหม
อั๋น ภูวนาท : เราเคยดูหนังโฆษณาว่าเด็กเลียนแบบเราเราไม่คิดว่าจะมากมายขนาดนี้ เช่น อยู่ที่โรงเรียนครูจะบอกว่าวันนี้ น้องพอล เก็บของแล้วนะ เพราะหลังๆเราไม่เก็บเพราะเราบอกเขาว่าน้องพอล ต้องเก็บนะ (แต่มีครั้งหนึ่งที่ครูบอกว่าน้องพอลเก็บของแล้วนะแต่ใช้เท้าเก็บ (หัวเราะ) เพราะบางครั้งเรารีบๆเราก็ใช้เท้าเก็บ เพราะเราขี้เกียจก้มเพราะเราคิดว่าเขาไม่เห็น แต่จริงๆแล้วเขาเห็นเขาดูเราหมดทุกอย่าง เลยทำให้เรารู้เลยว่าเรื่องเล็กที่สุด ที่ละเอียดที่สุด
ป้าเอ๋ : ส่วนเราก็เปลี่ยนการใช้ชีวิตเหมือนกันค่ะ เพราะอย่างที่ อั๋น บอกเพราะเราต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้เขาการพูดจา ท่าทางทุกอย่างเพราะเราต้องเป็นโมเดลที่ดีให้เขา อยากจะบอกว่า น้องพอล คือ สิ่งมหัศจรรย์ของที่บ้านเลยเพราะว่าเราอยู่ในทุกๆช่วงเวลาชีวิตของ อั๋น กับ จ๋า รักๆเลิกๆ จนเขาแต่งงานกันและเราก็คิดว่าเราคงไม่มีหลานเลย แต่อยู่ๆวันหนึ่งที่มีน้องพอล ขึ้นมา วันที่รู้ว่า จ๋า ท้องคือแทบจะกรี๊ดเลย
อั๋น ภูวนาท : เพราะที่ทุกคนได้รู้พร้อมกัน คือ เราส่งคลิปที่เป็นรูปหัวใจเต้นของ น้องพอล เข้าไปในไลน์กลุ่มครอบครัว และพิมบอกว่านี่คือครั้งแรกที่เราได้ยินเสียงหัวใจของ น้องพอล เต้น ส่วนอีกคนเราก็พยายามอยู่เนอะ แต่เขายังไม่มา แต่ที่พี่เอ๋ พูดว่าอยู่ดีๆเธอก็มีลูกเนอะ เพราะเขารู้มาตลอดว่าเราไม่ชอบเด็ก รำคาญ
ป้าเอ๋ : ไม่ใช่แค่ อั๋น ตัวเราก็เหมือนกันขึ้นเครื่องบินเจอเด็กเราก็จะบ่นในใจว่า ตายล่ะ แต่ตอนนี้เราเจอเด็กคือ เอ็นดู เข้าใจเขา บางทีอยากจะเข้าไปช่วยเขาเลยด้วยซ้ำไป เขาทำให้เราเปลี่ยนไปมากจริงๆ
อั๋น ภูวนาท : ไม่ได้เกลียดเด็กนะ แต่เราแค่ว่าเขาคอนโทรลไม่ได้ ซึ่งในตอนนี้เหมือนกัน น้องพอล นอกจากเติมเต็มให้ครอบครัวเราสมบูรณแล้วยังทำให้เราใจกว้าง ใจเย็น ก็เลยแฮปปี้ไปหมดเลย
อั๋น ภูวนาท : ยังไงฝากรายการ อั๋น จ๋า เดอะเรียลลิตี้ รายการนี้เริ่มตั้งแต่ที่เราเดินเข้าห้องคลอด น้องพอล คลอดก่อนกำหนดสองอาทิตย์ได้ ซึ่งรายการนี้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท เช้นจ์2561 จนมาถึงวันนี้ก็ 4 ซีซั่นแล้วเห็นตั้งแต่น้องพอล คลอดจนวันนี้น้องพอล โตพูดได้ขนาดนี้ผมรู้สึกว่าเขาโตขึ้นมาพร้อมๆกับสายตาของทุกคนที่รักและเอ็นดูเขา อยากฝากทุกคนด้วยนะครับ หวังว่าจะเป็นรายการหนี่งซึ่งเป็นประโยชน์แล้วผมเจอกับคุณพ่อ คุณแม่ เขาบอกว่าเขาติดตามดูแล้วเหมือนได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกันเพราะสิ่งที่ผมเจอ หรือ สิ่งที่ลูกเป็นมันจะเกิดขึ้นตามวันและวัยที่เราได้ประโยนช์ไปพร้อมๆกันจากที่เราได้ดูอั๋น จ๋า เดอะเรียลลิตี้ นอกจากความสนุกแล้วเรายังแฝงไปด้วยว่าคุณหมอพูดอะไร คุณครูสอนอะไรของที่ต้องใช้ในแต่ละวัย อะไรที่ต้องจำเป็น แต่จริงๆแล้วไม่ต้องจำเป็นเราก็เอามาบอกกล่าวเพื่อเป็นประโยชน์แก่ทุกคนที่ดูในรายการเรา ก็เป็นอีกหนึ่ง เรียลลิตี้ จริงๆเพราะมันก็ไม่มีสคริปจริงๆฝากด้วยนะครับ และขอบคุณทุกคนที่ติดตามพวกเรานะครับ
สามารถรับชมรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ย้อนหลังได้ทางยูทูป: https://youtu.be/QHgImMEEx9k
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี