'เมย์ บัณฑิตา'เคลียร์ดราม่า โดนปลดจากนางเอก เพราะศัลยกรรม?

'เมย์ บัณฑิตา'เคลียร์ดราม่า โดนปลดจากนางเอก เพราะศัลยกรรม?

วันศุกร์ ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2563, 15.48 น.

เมย์ บัณฑิตา นักแสดงสาวสุดแซ่บ ที่วันนี้จะมาเปิดเผยชีวิตในวงการบันเทิงกว่า 20 ปี ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร พร้อมทั้งขอโต้ดราม่าทำศัลยกรรมหนักจนถูกถอดจากนางเอก

อยู่ในวงการมา 20 ปีแล้วใช่ไหม?


เมย : จะ 20 แล้ว เข้ามา 19 ปี จะ 20 แล้วมันแป๊บๆ มากเลยนะ

ปี 64 จะคบ 20 ปี เข้าวงการมาได้ยังไง?

เมย์ : เข้ามาแบบงงๆ ก็ไปเดินๆ ตรง มศว. จนเจ้ามาเรียน มศว. คือเข้ามาเรียนได้ประมาณครึ่งปีเจอแมวมองอยู่หน้าห้องน้ำ ตอนนั้นเราก็ไม่กล้าคุย เพราะแม่บอกว่ากรุงเทพฯมีแต่คนน่ากลัว แต่เราก็ให้ดบอร์โทรศัพท์แบบงงๆ สุดท้ายไม่โดนหลอกเขาเป็นตัวจริง ตอนนั้นเขาเป็นผู้จัดการของ ยุ้ย จีรนันท์ ด้วย เขาก็ให้ไปแคสโฆษณา แคสหนัง

หนังเรื่องแรกในชีวิตได้เป็นนางเอกเลย ตอนนั้นเป็นเพราะโชคช่วยหรือความสามารถ?

เมย์ : ความสามารถไม่น่าจะใช่ น่าจะเป็นโชคมากกว่า

ไปเป็นนางเอกช่องมากสีได้ยังไง?

เมย์ : ตอนนั้นถ่ายหนังอยู่ประมาณ 3-4 เดือน ก็มีแคสนักแสดง ตอนนั้นหนังยังไม่ออนเลยนะ ก็ไปแคสละคร ไปถ่ายรูป แนะนำตัว แค่นั้น อีกอาทิตย์ช่องเรียกไปเซ็นสัญญา พอวันที่เซ็นสัญญาก็ถามคุณแดงว่าจะต้องไปเรียนการแสดงไหม เพราะว่าหนังก็อีกแบบนึง ละครก็อีกแบบนึง คุณแดงบอกไม่เป็นไร ไปถ่ายเลย

ละครเรื่องแรกชื่อเรื่องอะไร?

เมย์ : ขุมทรัพย์แม่น้ำแคว

พ่อ แม่สั่ง ไม่ว่าจะดังขนาดไหนห้ามทิ้งการเรียนจริงไหม?

เมย์ : ใช่ เพราะมาจากครอบครัวที่คุณพ่อ คุณแม่เป็นอาจารย์ ทุกอย่างอยู่ในกรอบหมดเลย แล้วเรารู้สึกว่าถ้าลูกสาวอาจารย์ไม่ประสบความสำเร็จเรื่องเรียนแล้วแม่จะไปสอนใครได้ ก็เป็นความกดดันอย่างนึง

ละครที่ดังมากๆ คือชะชะช่า ท้ารัก?

เมย์ : ดีใจมาก เป็นละครเพลงอีกหนึ่งเรื่องที่เรางงๆ กับตัวเองเหมือนกันที่อยู่ๆ ได้ลงละครเพลง

เป็นคนร้องได้ เต้นได้ตั้งแต่แรกเลยไหม?

เมย์ : ไม่ได้เลย เป็นคนดูการ์ตูนตั้งแต่เด็ก ไม่เคยร้องเพลง ไม่เคยเต้น ตอนนั้นก็มีฝึก ถามว่าทำได้ดีไหม ก็ถ้าย้อนกลับไปก็ทำได้ดีกว่า

แล้วชีวิตช่วงนั้นสัปดาห์นึงถ่ายกี่เรื่อง?

เมย์ : สัปดาห์นึงถ่าย 3 เรื่อง แล้วเป็น 3 เรื่องที่อยู่เต็มๆ เช้ายันเย็นๆ เพราะเป็นนางเอก

เหนื่อยไหม?

เมย์ : เหนื่อยมาก เพราะขับรถเองด้วย เรารู้สึกว่าถ้าเราจ้างคนขับรถมาเขาต้องไม่ได้กลับบ้านแน่เลย สงสารเขา

ดังๆ อยู่ เราเดินไปบอกผู้บริหารว่าไม่เอาแล้ว จะลาออก?

เมย์ : คือเรามีความฝันตั้งแต่เด็ก เรารู้สึกว่าเราอยากไปเรียนเมืองนอก อยากไปใช้ชีวิต เสร็จปุ๊บเรารู้สึกว่าการมาทำงานในวงการบันเทิงมันอาจจะไม่ใช่ที่ของเรา ถามว่าเราทำได้ไหม เราทำได้ ตอนนั้นละครถ่ายอยู่ปีละ 4-5 เรื่อง เราก็ไปบอกผู้บริหารว่าจออนุญาตไปเรียนต่อ เขาก็บอกว่าไม่ต้องไปหรอก อยู่นี่แหละ ทำงานก่อน แล้วหลัวจากนั้นละครมาเยอะมาก เห็นแก่เงินก็อยู่ต่อไป แต่ก็ยังค้างคาใจอยู่ว่าอยากไปใช้ชีวิตเมืองนอก แพลนไว้ว่าจะเล่นละครแค่ 4 ปี จริงๆ ไม่ได้คิดว่าจะได้เล่นด้วย อยากจะอยู่แค่ 4 ปี เรียนจบแล้วเอาเงินที่เล่นละครไปต่อโท แล้วกลับมาทำงานแบบคนปกติเขาทำ

เป็นนางร้ายครั้งแรกคิดมากไหม?

เมย์ : คิดมาก แล้วรู้เลยว่าครั้งแรกเราทำไม่ดี ไม่เต็มที่ แต่เรื่องต่อไปคือนางทาส เราเล่นเป็นบุญมี

แต่ก็มีคนเม้าท์เราว่าช่วงนึงเราไปทำศัลยกรรมหรือเปล่าทำให้เปลี่ยนจากบทนางเอกเป็นนางร้าย?

เมย์ : ไม่จริง อันนี้ขอเถียงเลย ทุกคนรู้ แฟนคลับรู้ แต่แม่ไม่รู้ จริงๆ เรื่อวความสวย ความงามชอบตั้งแต่ตอนเป็นนางเอกแล้ว คนก็มาเขียน นู่น นี่นั่น เยอะ แต่จริงๆ ณ วันนั้นทำแค่อย่างเดียว คือทำคางแล้วเอาออกแล้ว

แล้วหลังจากวันนั้นทำอะไรบ้าง?

เมย์ : ก็ทั่วไป ตอนนี้ที่มีก็ทำจมูก แต่ทุกคนชอบมาเถียงเมย์ตลอด ชอบบอกว่าเมย์ทำตา แต่จริงๆ เมย์ไม่ได้ทำ เราไม่รู้สึกว่าการไปทำสวยมันไม่ได้เสียหาย ถ้าคุณมีลิมิตในการทำ ถ้าคุณทำแล้วคิดว่าเหมาะสมโดยเฉพาะอาขีพที่มันใช้หน้าตา

เรียกว่าเราเสพติดศัลยกรรมได้ไหม?

เมย์ : ไม่คะ ทรีทเมนท์ นวดหน้า เลเซอร์ อันนี้ทำประจำ แต่ถ้าไม่ได้ทำงานตรงนี้จะไม่ทำเลย เพราะว่าขี้เกียจมาก เพราะมันเสียเวลา เสียเงิน

เมย์ยังมีนิสัยธรรมะ ธัมโม ชอบเข้าวัดเหรอ?

เมย์ : ชอบเข้าวัด ชอบคุยกับหลวงพ่อ ด้วยความที่เราอยู่กรุงเทพฯ แล้วเราอยู่ตัวคนเดียว พ่อแม่เราไม่ได้อยู่ด้วย เราก็อยากมีใครที่มาเตือนสติเรา เวลาเรามีปัญหามีความคิดอะไรอยู่ในใจ เราก็อยากให้หลวงพี่ช่วยเตือน

นอกเหนือจากการเข้าวัดแล้ว คุณยังมีความหลวไหลในเรื่องของผ้าถุงมาก?

เมย์ : ชอบมาก ผ้าซิ่นไทย เมื่อก่อนเราจะชอบแบรนด์เนม แต่พอวันนึง พอไปดูเกี่ยวกับเรื่องผ้าไทย ไปศึกษาเรื่องการทอผ้า เรารู้สึกว่าโคตรยากเลย จากนั้นก็จะเริ่มสะสม เริ่มใส่ ตอนนี้ที่บ้านมีเป็น 100 เลยคะ หมดไปเยอะมาก

2 ปีก่อน ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ไปไหน?

เมย์ : ใช่ๆ ไปค้นหาตัวเองที่อังกฤษ ด้วยความที่ทำงานเจอผู้คนเยอะมาก แล้วเมย์ก็รู้สึกว่าการอยู่ในสังคมทุกคนชอบคาดหวังให้เราทำอย่างนู่น อย่างนี้ แล้วก็ทำนู่น นี่ นั่น ให้เราตลอดเวลา แล้วเราไม่รู้ว่าปกติเราชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เราเป็นคนยังไง เพราะว่าทุกคนมาบอกเราตลอด จำได้เลยวันนั้นต้นเดือน วางแผนเลยว่าไม่อยู่แล้ว ซื้อตั๋วแล้วไปปลายเดือนนั้นเลย ทิ้งบ้าน ไปคนเดียวกับกระเป๋าลากใบนึง

ไปอยู่ 6 เดือนทำอะไร?

เมย์ : อ่านหนังสือ ลงเรียนภาษาบ้าง เดินดูศิลปะ แล้วไปช่วยงาน เป็นเด็กโบสถ์ที่นู่นก็มี

เราไปช่วยแบบนั้นไม่น่าได้เงิน แล้วเงินมาจากไหน?

เมย์ : เป็นเงินเก็บค่ะ เพราะว่าเราไม่ได้เรียนเมืองนอกไง

ชีวิตที่อยู่ที่นู่นมีความสุขมากไหม?

เมย์ : มีความสุขมาก ไม่อยากกลับมาเลย ถ้าเป็นไปได้อยากอยู่ยาวๆ

6 เดือนกลับมาเมืองไทย?

เมย์ : ใช่ เพื่อนแต่งงานพอดี ตอนนั้น ต๊ะ แอน แต่งงาน เราสัญญาว่าเราจะมางานแต่งงานของเขา เพราะเป็นเพื่อนสนิทกัน ก็เลยกลับมา แล้วกลับมาเป็นจังหวะ ละคร ก่อนตะวันแลง เขาดิวเรามาพอดี เราอ่านบทแล้วแบบโอเค พี่ๆ นักแสดง มันเป็นส่วนผสมที่เคมีลงตัว น่าสนใจ เราก็กลับมา

ย้อนอดีตไปสักนิด ความรักของคุณเมย์เป็นยังไงบ้าง?

เมย์ : แต่ก่อนจะเป็นความรักแบบลาเวนเดอร์กับม้าโพนี่ สวยงามมาก แม่เราก็จะพูดเสมอว่าเวลาเรามีความรัก หรือมีแฟน เราจะต้องดูที่เขาเป็นคนดี แล้วเราก็ต้องเป็นคนเข้าอก เข้าใจ ยิมรับอะไรอย่างนี้จะได้อยู่กันยาวๆ ทีนี้เขาไปเที่ยวเลาจ์ มีผู้หญิง ก็ไม่เป็นไร เราเข้าใจ เพราะว่าเราจะรักกันที่ใจ แต่มันมีเรื่องผู้หญิงบ่อยมาก แต่เรารู้สึกว่าไม่เป็นไรหรอกเรารู้สึกว่าเราคิดไปเอง เราต้องเข้าใจ จนกระทั่งวันนึงเราจับได้ เราก็ให้อภัย 3 ครั้ง

แล้วเราเข็ดความรักไปเลยไหมกับการเจอคนเจ้าชู้แบบนี้?

เมย์ : เราก็เอาประสบการณ์มาเรียนรู้ไปเรื่อยๆ

แล้วคนไหนที่เพื่อนเรา แย่งเราไป?

เมย์ : ก็มีคนนึงคบนานประมาณ 4 ปี ก็เป็นคนที่ไปเที่ยวนี่แหละ จนมีวันนึงเกิดไม่ไว้ใจ ก็เปิดดูเอ๊ะ คุ้นๆ หน้าเพื่อน บ้านเขา หน้าเพื่อนอยู่ในบ้านเขา เราก็ถามเขานะ ถ้าเขายอมรับเราก็ให้อภัย แต่เขาไม่ยอมรับ เราก็เลยรู้สึกว่าต้องจบแล้ว เสียเวลา แล้วหลังจากนั้นคนก็เข้ามาจีบ  แต่เรารู้สึกว่าด้วยสังคมที่นี่ วัฒนธรรม ค่านิยม รู้สึกว่าการจีบซ้ำซ้อน กานคบซ้ำซ้อน มันเป็นเรื่องปกติหรือเปล่า แล้วเราก็จับได้บ่อยมาก บางทีไปเดินสยามมากับผู้หญิง แล้วเขาก็เห็นเราพอดี

คนเดียวกัน?

เมย์ : คนอื่นๆ ที่มาจีบ

เพราะเจอคนแบบนี้บ่อยๆ เลยทำให้ไม่อยากแต่งงาน?

เมย์ : ไม่อยากแต่งงาน เพราะคุณแม่ชอบบอกว่า ถ้าเมย์แต่งงานแล้ว แม่จะต้องมีความอดทนนะลูก หนักนิดเบาหน่อยก็ต้องให้อภัย แล้วต้องมีความเข้าใจ อยากจะบอกแม่ว่าบางอย่างยุคนี้จะเข้าใจตลอดไม่ได้ มันจะต้องมีการตัดจบเหมือนกัน ความอดทนมันจะต้องมีขอบเขต ทุกวันนี้ไม่กล้าแต่งงาน เพราะกลัวว่าถ้าแต่งงานแล้วต้องอดทน

แล้วคนไหนที่บอกว่าคุยกันมา 3 วันแล้วเลิก?

เมย์ : ก็มีเหมือนกัน เป็นคนที่เทเก่งมากไม่เข้าใจเหมือนกัน คือเราจะเป็นคนแฟร์กับผู้ชายที่เข้ามาคุยกับเรา คือเราเป็นคนโอเพ่นนะ เราสามารถที่จะคุยได้ แต่ถ้าไม่ใช่ ต้องหยุด อย่ามางอแง มันไม่ใช่คือไม่ใช่ โตแล้ว อย่าโตแต่อายุ

เมย์โสดไหม?

เมย์ : มีคนคุย

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top