ขึ้นแท่นเป็นว่าที่คุณพ่อคูรแม่ป้ายแดงสักทีหลังจากที่ตั้งหน้าตั้งตารอทายาทคนนี้มานาน สำหรับคู่ของแมน การิน และภรรยาคนสวย เกล รดา ล่าสุดทั้งคู่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ที่คุณแม่เกล เผยทั้งน้ำตาวินาทีแรกที่ได้รับรู้ว่าท้อง ส่วนคุณพ่อแมน งานนี้ได้เผยว่าที่ไม่ใช้ศาสตร์ตัวเลขเข้ามาดูให้กับครอบครัวตัวเองก็เพราะอยากปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติก็เท่านั้นเอง …..
ตอนนี้เลิกแพ้แล้วหรือยังดีขึ้นไหม
เกล รดา : ตอนนี้เข้าเดือนที่ 4 แล้ว ดีขึ้นแล้วมากๆคะ เพราะตั้งแต่เราเดินข้ามตัวเขาคือ (วิธีการข้ามคือกั้นหายใจแล้วเดินข้าม) อาการแพ้เลยดีขึ้นหน่อย เริ่มแพ้เลยคือ ตั้งแต่อาทิตย์ที่ 6 เดือนนิดๆค่ะ คือ ช่วงที่แพ้มีเพื่อนใหม่เป็นถังกะละมัง (แต่เราไม่ได้อาเจียนตลอดนะคะเพราะเราอดทนจนกว่าจะพุ่งออกมาจริงๆเพื่อให้เขาไปย่อยหน่อย พอจะอาเจียนก็จะกลืนลงไปก่อน)
แมน การิน : ที่เขาทำแบบนั้นเพราะเขาอยากให้ร่างกายดึงสารอาหารไปให้ลูกสักนิดก่อนแล้วเขาค่อยไปอ้วก แล้วตอนหลังเขาเริ่มมารู้ว่าอาหารที่เขากินแต่ละวันเขาจดเอาไว้หมดเลยว่าตอนเช้ากินอะไร กลางวันกินอะไร มีของว่างอะไรบ้างเพราะแค่อยากรู้ว่าอะไรที่อ้วกออกมาแล้วอร่อย (เหมือนเขามาเรียนรู้ว่าอะไรอร่อยตอนอ้วก)
วินาทีแรกที่รู้รู้สึกยังไงกันบ้าง
แมน การิน : ดีใจมากครับ ดีใจเหมือนพูดไม่ออกแล้วก็เราทั้งคู่ไม่เคยข้ามจุดที่หมอบอกว่าท้องแล้ว (เกล น้ำตาไหล) มีลูกแล้วนะเพราะว่าทั้งที่เราเคยไปหาหมอมาเป็นจุดแค่ว่าไม่ติดนะถึง 3 ครั้งเราเสียใจตรงจุดนั้นมาตลอด แต่เราไม่คิดว่าครั้งนี้จะสำเร็จ
เกล รดา : แล้วคุณหมอพูดนิ่งมากว่า ท้อง นะเพราะดีใจแบบบอกไม่ถูกไม่คิดเลยว่าเราจะเจอคำคำนี้ด้วยซ้ำเหมือนเราท้อไปแล้ว เพราะเราพยายามกันมา 2 ปี แต่งงานมามีนาที่จะถึงคือ 5 ปี
แมน การิน : แต่ตอนแรกที่เราคบกัน เกล เขากลัวการมีลูกนะ แต่พอเราแต่งงานกันมาเราก็พยายามเปลี่ยนวิธีการคิดของเขาให้เห็นโมเมนต์หรือมุมของเขาที่เขาอยู่กับเด็กๆเพราะเขามีหลานชาย 6 คนแล้วหลานติดหมดทุกคน เพราะเขาเป็นคนอบอุ่นเราเห็นเราเลยอยากมีมุมของครอบครัวก็เลยแค่ๆบิ้วเขามาเรื่อยๆจนเขายอม
เป็นยังไงบ้างได้ยินเสียงของหัวใจของลูกครั้งแรก
เกล รดา : ดีนะคะ เพราะตอนแรกที่ฟังกับหมอยังไม่ได้เซนซิทีฟมาก แต่พอมานั่งฟังคนเดียวเราก็ถามตัวเองว่าใช่ใช่ไหมเสียงหัวใจจริงๆใช่ไหม แล้วเวลาที่เราไปหาคุณหมอทุกอาทิตย์เราก็จะขอฟังเสียงหัวใจก่อนได้ไหม
แล้วจะมีงานบอกหรือทายไหมว่าลูกเป็นผู้หญิง หรือ ผู้ชาย
เกล รดา : ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ เพราะเราไม่ได้ซีเรียสเรื่องเพศแต่เราซีเรียสว่าหน้าออกมาจะเหมือนใครมากกว่า
แล้วพี่แมน เป็นคนที่รู้เรื่องตัวเลขมีดูฤกษ์งามยามดี เวลานี้ต้องไปหาหมอ เวลานี้ที่จะทำให้มีลูก
แมน การิน : ก็ไม่ได้ถึงขนาดนั้นนะครับ เพราะเวลาเราอยู่กับเขาเราแทบไม่ได้ใช้เรื่องตัวเลขเลยเพราะว่าทุกวันที่เราออกจากบ้านไปทำงานเราจะอยู่กับตัวเลขอย่างเดียวเลยเพราะทุกคนจะถามเราเรื่องตัวเลขหมดเลย แต่พอเรากลับมาบ้านเราจะปล่อยฟรี คือ แทบจะไม่เอาตัวเลขมาใช้กับเขาเลย
แล้ววันคลอดเราจะวางไว้ไหม ว่าคลอดตอนนี้ เวลานี้
แมน การิน : ต้องคุยกับเขาก่อนว่าเขาอยากจะคลอดแบบไหน คลอดแบบธรรมชาติ หรือ แบบผ่าเพราะคลอดแบบธรรมชาติเราไม่สามารถที่จะเลือกเวลาได้เลย
เกล รดา : ในใจของเราคืออยากทำทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติค่ะ อย่างช่วงที่เราแพ้ท้องคือเราก็หาข้อมูลอยู่สักพักจนเราคิดว่าไม่เอาแล้วเราอยากปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติถ้าลูกจะแพ้ก็ไม่เป็นไรเราทนได้ ถึงเวลาคลอดเราก็จะดูร่างกายเรา ณ ตรงนั้นอีกครั้งว่าเขาอยากจะคลอดเอง หรือ ผ่าคลอด
แต่เลขที่ดูไม่ได้ดูให้กับครอบครัวตัวเองก็จริงแต่ดูให้กับครอบครัว พี่มิค กับ พี่เบนซ์
แมน การิน : ใช่ครับ เพราะเขาเลือกเวลาที่จะมีความสัมพันธ์กันเวลาที่เราให้ไปคือ ตั้งแต่มองตากันคือเวลาที่เริ่มครับ
เห็นบอกว่าสามารถกำหนดได้ด้วยว่าลูกคนนี้จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
แมน การิน : จริงๆแล้วตัวเลขทุกตัวเขาจะมีธรรมชาติของเพศอยู่แล้วครับ ถ้าสมมติว่าเรามีเพศที่อยากได้คือเพศหญิงหมดเลย คือ 22 สองสองสอง คือ เป็นเพศหญิงหมดเลย(อาจจะมีโอกาสได้เพศหญิงได้ง่าย) เพศผู้ชายอาจจะเป็น 1 3 5 7 9 เลขคี่มีโอกาสได้ผู้ชาย เลขคู่ส่วนมากจะผู้หญิง
เห็นว่าตอนที่จีบก็พยศอยู่เหมือนกัน
เกล รดา : คือ เราก็ประมาณหนึ่งอยู่เหมือนกันคะ เพราะเราก็ต้องสุดอย่างเหวี่ยงสุด โมโหสุดให้เขาเห็นเลยตั้งแต่ 3 เดือนแรกที่เขาจีบเราเพราะเป็นช่วงโปรโมชั่นของเราเราเลยเป็นตัวเองให้มากที่สุดถ้าเขารับได้คือหลังจากนี้เราเบามากแล้ว
แมน การิน : เราก็ไม่ตกใจนะครับที่เขาเป็นแบบนั้นเพราะถ้าเรารักเขาเราจะไม่มีเงื่อนไขเลยว่าเขาจะเป็นคนขี้งอนยังไง คือ ไม่ได้สนใจเลย พร้อมง้อตลอด
รักกันมากขนาดนี้ทำไมมีโมเมนต์ที่เบื่อเขาจนเกือบหนีออกจากบ้าน
เกล รดา : เพราะเขาเป็นคนเป๊ะมาก ทุกอย่างต้องวางเป๊ะตรงนี้ เราก็คิดว่าเราทำงานมาเหนื่อยๆเราค่อยเก็บก็ได้ แล้วอยู่ๆนางก็บ่นๆเราก็เลยรู้สึกเบื่อจังเลย เพราะเขาเป็นคนที่บ่นลอยๆไปเรื่อยๆเราก็จิตตกก็เลยจะออกจากบ้านเราก็บอกว่าเราไม่ไหวล่ะ เราจะกลับบ้านนางก็มากั้นนะไม่ให้เราออกไป
คิดไหมว่าเวลาที่ลูกออกมาสไตล์การเลี้ยงดูจะเป็นแบบไหน
เกล รดา : คิดว่าเดี๋ยวค่อยคุยกันดีกว่าอยากให้ค่อยๆไปทีละสเต็ปเหมือน ณ วันนี้ เราคุยกันทุกเรื่องทุกวัน 4 เดือนแล้วอาการเราเป็นยังไง เขาจะปล่อยให้เราใช้ชีวิตเป็นวันต่อวันเลยให้มีความสุข ส่วนเขาจะไปหาข้อมูลเรื่องโรงพยาบาล เรื่องหมอเองเขาจะไม่ใส่เรื่องเครียดให้กับตัวของเราเลย
สามารถชมรายการ ต้มยำอมรินทร์ ย้อนหลังได้ทาง ยูทูป : https://youtu.be/cFTsElB4vEc
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี