วันอังคาร ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / บันเทิง
เปิดอาณาจักรศรีชาพันธุ์ของ'บอล ภราดร'เศรษฐีที่ดินร้อยล้าน ! พร้อมอัพเดตชีวิตหลังประกาศลาออกจากวงการเทนนิส

เปิดอาณาจักรศรีชาพันธุ์ของ'บอล ภราดร'เศรษฐีที่ดินร้อยล้าน ! พร้อมอัพเดตชีวิตหลังประกาศลาออกจากวงการเทนนิส

วันศุกร์ ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2564, 15.03 น.
Tag : บอล ภราดร
  •  

เรียกว่าถ้าย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ไม่มีใครไม่รู้จัก  เจ้าบอล ภราดร นักเทนนิสมืออาชีพที่ไปสร้างชื่อเสียงให้กับเมืองไทยทั่วโลก และเป็นหนุ่มที่ฮอตเอามากๆในวงการบันเทิงในช่วงนั้น แต่อยู่ดีๆ บอล ภราดร ก็เฟดตัวเองออกจากทุกวงการหลังประกาศเลิกเล่นเทนนิสอย่างเป็นทางการ แล้วไปใช้ชีวิตอย่างสงบเงียบแบบมีความสุขที่ต่างจังหวัด หายหน้าหายตาข่าวคราวก็หายตามแต่แฟนๆก็ยังคงคิดถึง อดีตนักเทนนิสคนนี้ไม่มีจาง งานนี้ รายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 เลยได้เชิญ บอล ภราดร มาอัพเดทเรื่องราวชีวิต และ บทบาทความเป็นคุณพ่อ พร้อมเคลียร์ให้ฟังกันชัดๆว่าทำไมกับภรรยาคนนี้ถึงไม่จัดงานแต่งงาน

บอล ภราดร : ตั้งใจหายครับ เพราะว่ามีช่วงหนึ่งเราเจอคนเยอะมากเป็นช่วงที่เราแข่งกีฬาด้วยแล้วรู้สึกว่าความเป็นส่วนตัวก็น้อย เราก็ไม่ได้หายไปไหนเลยนะครับ แต่เราก็ไปทำสิ่งที่เราชอบ แต่ไม่ใช่เทนนิส


ย้อนกลับไปตอนนั้นพีคของ บอล ภราดร คือ ขึ้นไปติด TopTen ของโลกเลยตอนนั้นปีอะไร

บอล ภราดร : ปี 2003 อายุ 23 ต้องบอกว่าเทนนิสเป็นกีฬาแรกที่รู้จักเลยเพราะเราโตมาสามสี่ขวบก็อยู่ในสนามเทนนิสแล้ว โดยที่พ่อพาพี่ชายไปเล่นแล้วเราเป็นน้องคนสุดท้องแล้วเป็นกีฬาที่เราถูกซึมซับตั้งแต่เด็กแล้วเป็นกีฬาที่เราเล่นชนิดแรก ส่วนกีฬาอื่นๆเราเล่นแค่ผิวเผิน แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้คือ พอหลังจากที่เรากลับมาจากโรงเรียนเราต้องมาที่สนามเทนนิสมาเล่นน็อคบอร์ด ตีใส่กำแพง พอโตขึ้นพี่ชายเริ่มน็อคให้ คุณพ่อเริ่มน็อคให้มันก็กลายเป็นทำให้เรา ตกหลุมรักในกีฬานี้  (ถามว่าเราเคยที่อยากจะใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นไหม) ก็มีบ้างครับในช่วงวัยรุ่น แต่ว่าเพราะมีตารางชีวิตที่คุณพ่อได้วางไว้ให้เราต้องเป็นนักเทนนิส แต่ยังไม่ได้เป็นนักเทนนิสอาชีพนะครับ แต่ตอนนั้นติดทีมชาติก่อน แต่เรามีตารางว่าต้องไปซ้อมทุกวันวันธรรมดาต้องมี 3 ชั่วโมง เสาร์ อาทิตย์อย่างน้อยต้อง 5  ชั่วโมง เพราะตารางนี้ถูกวางไว้แล้วตัวเราเลยถูกหล่อหลอมให้มีวินัยในตัวเองเลยทำให้ทุกครั้งที่จะหลุดออกนอกกรอบตัวเราเอง ดึงตัวเองกลับมาบ้าง คุณพ่อดึงเรากลับมาบ้าง และพอเราโตมาในวัย 16-17 เรารู้แล้วว่าเราอยากจะเป็นนักกีฬาอาชีพ เวลาจะเที่ยวจะอะไรก็จะยากเพราะถ้าเรามีจุดมุ่งหมายแล้วว่าเราจะเป็นนักกีฬาอาชีพ

 

และในช่วงที่เราโด่งดัง เป็นนักกีฬาอาชีพ มีเงินเก็บเป็นร้อยล้านบาทเลยจริงไหม

บอล ภราดร : ในช่วงนั้นใช่ครับ เป็นเรื่องของเงินรางวัลที่ได้จากการเล่นและการโฆษณาด้วยก็เป็นรางวัลที่เราได้รับกลับมาหลังจากที่เราตรากตำเหนื่อยมาตั้งแต่เด็ก

 

สำหรับ บอล ภราดร นอกจากคุณพ่อดูแลวางแผนชีวิตมาให้จนประสบความสำเร็จแล้วก็ยังช่วยวางแผนเรื่องเงินด้วย

บอล ภราดร : ดูแลตลอดเวลาเลยครับ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นห่วงอยู่ถึงแม้ว่าเราโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ในเรื่องของการลงทุนหรือการใช้เงินบอกเลยว่าถ้าตัวเองเป็นคนจัดการคนเดียวน่าจะหมดได้ เราเป็นคนที่โชคดีเพราะคุณพ่อสอนเราตลอดว่าเงินวันหนึ่งมันมีหมดเพราะฉะนั้นเราต้องรู้จักใช้ รู้จักลงทุน(ทั้งๆที่ครอบครัวของเราไม่ได้เป็นนักลงทุนนะครับ) แต่มันก็มีเบสิคในการเก็บออม คุณพ่อ ก็ให้วิธีง่ายๆคือ ถ้ามีเงินก็เก็บฝากไว้ที่ธนาคาร แต่ถ้าไปเล่นหุ้นลงทุนไม่เอาเลย หรือเอาไปลงทุนกับที่ดินเพราะเป็นอะไรที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ในสมัยนั้นเราก็ชอบรถซึ่งมันก็รถจริงๆเพราะซึ่งมามันก็ลดทุกวัน (แต่ด้วยความที่เราชอบเป็นรางวัลให้กับชีวิตเราเองเวลาที่เราประสบความสำเร็จ)

 

 แต่ที่หายหน้าหายตาไป คือ หายไปเป็นเศรษฐีที่ดินสร้างบ้านพักตากอากาศที่พัทยา สามสิบล้าน ทำไมถึงเลือกทีนี่

บอล ภราดร : ต้องบอกก่อนเลยว่าที่ออกจากวงการหายหน้หน้าตาไปเลยเพราะเรามีความตั้งใจว่าเราจะไปอยู่ต่างจังหวัด ชอบพัทยาเพราะเดินทางสะดวกไปกลับกรุงเทพได้ในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง แล้วเราได้ไปซื้อที่ที่นี่ 4 ไร่แล้วสร้างบ้านขึ้นมาเราเป็นคนสร้างเองเลยออกแบบเองอะไรเองหมดเลย ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเกือบ  8 ปีครับ ช่วงนั้นก็ขี่ขี่มอเตอร์ไซค์ด้วย ตีกอล์ฟด้วย ก็รู้สึกว่าตอบโจทย์ตัวเองในตอนนั้น แล้วที่หยุดเล่นเทนนิสตอนนั้นคือเพราะว่าเรามีอาการบาดเจ็บที่ข้อมือแต่เราก็ได้ไปซ่อมมาแล้วไปผ่าตัดที่อเมริกามาแต่เราก็รู้สึกว่าเราเล่นได้ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะจริงๆเราต้องเล่น 110 เปอร์เซ็นต์ ด้วยซ้ำไปเพราะสไตล์การเล่นของเราคือ รุนแรงหนักหน่วงแล้วเรามองแล้วว่าเราคงเล่นเต็มที่ได้อีกแค่ 2-3 ปีแล้วเราต้องฝืนเล่นแล้วต้องฝืนด้วยเพราะกลัวขาดรายได้ หรืออะไรเพราะยังไงวันหนึ่งเราก็ต้องหยุดอยู่แล้วเราเชื่อว่าคนเราสามารถเลือกที่จะทำอะไรได้มากกว่าหนึ่งอย่างเราเลยเลือกเล่นกอล์ฟแล้วกัน เพราะยังมีโซนที่อยู่ในระเบียบวินัยของนักกีฬาแล้วเราก็ทุ่มเทเวลาให้กอล์ฟเป็นเวลา 5 ปี จนได้เทิร์นโปร

 ใจหายไหมวันที่เราต้องเดินออกมาจากเทนนิส

บอล ภราดร : จำได้ว่าวันนั้นที่ประกาศไทยแลนด์โอเพ่น ใจหายน้ำตาคลอเพราะวันนั้นผมได้ประกาศว่า ภราดร เลิกเล่นอาชีพแล้ว ช่วงเวลาที่เราขับรถกลับเราสะอื้นกับสิ่งที่เราอินมาตลอดชีวิตแต่ว่าวันหนึ่งเราประกาศลาวงการแต่ว่าเรายังไม่ได้ไปไหน เรายังอยู่ในบ้านเราในเมืองไทยทำธุรกิจของเราอยู่

เพราะธุรกิจที่สร้างไว้คือ เป็นอาณาจักร ศรีชาพันธุ์ เลยเพราะมีทั้งสนามเทนนิส บ่อเลี้ยงปลา รีสอร์ท คือครบวงจร

บอล ภราดร : ตอนนั้นเราคิดว่าเงินที่เราได้มาจะมาทำอะไรต่อให้กับสังคมและตัวเราเองดี และสิ่งที่เราถนัดคือสร้างโรงเรียนเทนนิส เป็นที่พัฒนากีฬาเทนนิสของเด็กๆในภาคอีสาน คือ พวกเขาจะได้ไม่ต้องเข้ามาในกรุงเทพเพราะเราคิดว่าเราสร้างขึ้นเพื่อพัฒนาเยาวชนให้เก่งได้โดยที่ไม่ต้องเข้ามาในกรุงเทพเพราะ ศรีชาพันธุ์ มาตั้งตรงนี้แล้วเพราะการันตีจากประสบการณ์ของผมกับพี่ชายที่จะปั้นเด็กให้เข้าทีมชาติได้ หรือ ไม่ก็ระดับกีฬาแห่งขาติได้ก็เลยเลือกที่จะทำสนามเทนนิส ถามว่ามีเข้าตาไหมมีอยู่ครับ แต่จะบอกว่าการมีพรสวรรค์อย่างเดียวไม่ได้กับกีฬานี้ แต่ต้องมีวินัยด้วย

อีกอย่างหนึ่งคือ ความรักที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ตอนนี้มีลูกแล้ว

บอล ภราดร : ตอนนี้ได้จดทะเบียนแต่งงานกับภรรยาแล้วครับ มีลูกสาว 3 ขวบ ตอนนี้ชีวิตเราคือ ไม่ได้แค่มีหน้าที่ลูกเท่านั้น ยังมีบทบาทเป็นคุณพ่อแล้วก็สามี ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปี ถ้าบอกว่า ภราดร มีลูกสาวอาจจะหนักใจนิดนึง (หัวเราะ) กับภรรยาที่ไปเจอกันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราไปขี่มอเตอร์ไซค์ไปเจอเขาที่สนามแข่งเพราะเขาเป็นเพื่อนของเพื่อนพอเราได้คุยแล้วรู้สึกว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่เราทำ เราทำอะไรเขาก็จะไม่ขัด และพร้อมที่จะสนับสนุนทุกอย่าง ทำให้เรารู้สึกว่าเรามีอิสระและมีเขาเคยซัพพอร์ตเราอยู่ตลอดเวลาด้วย แต่เราไม่ได้มีงานแต่งงานครับ (ถามว่าเข็ดจากการแต่งครั้งแรกไหม) งานแต่งงานมันยุ่งยากนะ เพราะตัวเราเองแต่งงานมาแล้วหนึ่งครั้งแล้วเรารู้สึกว่างานแต่งไม่ได้เป็นอะไรที่บอกได้ว่าสมบูรณ์เราเลยรู้สึกว่าครั้งนี้จดทะเบียนแล้วก็คบกับ น้องป๊อป มา 6 ปีแล้วมีน้องตอนแรกแอบตกใจด้วยเพราะเราอยากได้ลูกชายแต่พอเขาโตก็ดูโอเคเพราะผู้หญิงจะมีมุมนุ่มนวลทำให้เราหลง ทุกวันนี้เรายังนั่งเล่นแต่งหน้ากับเขาอยู่เลยซึ่งมันไม่น่าจะใช่

สามารถชมรายการ ต้มยำอมรินทร์ ย้อนหลังได้ทาง ยูทูป : https://youtu.be/BrueaV8XqGY

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

รวบแล้ว!! 2 ใน 7 คนร้ายปล้น 3.4 ล้านบาท ห้างดังย่านลาดพร้าว

'ปากีสถาน'อ่วม! ฝนถล่มหนักทั้งสัปดาห์ คร่าชีวิต 46 ราย

ล้างไพ่-ล้างกระดาน! ‘เทพไท’ฟันฉับ‘ยุบสภา’คือทางออก-นับหนึ่งใหม่

หนุ่มใหญ่โมโหฟันรุ่นน้องดับ อ้างถูกท้าทายในวงเหล้า

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved