“เหมือนด้ายแนวนอน คือเธอ เหมือนด้ายแนวตั้ง คือฉันถักทอเป็นผ้าหนึ่งฝืนจะใช้ประโยชน์ ในสักวันหนึ่งจะให้ความอบอุ่นกับใครสักคน”
จากบทเพลง “Ito” คือเพลงที่อยู่ในซิงเกิ้ลที่ 35 ของ มิยูกิ นากาจีม่า ที่แต่งขึ้นในรัชสมัยเฮย์เซย์ที่ 10 (1998) ที่ฮิตติดอันดับ กลายเป็นอมตะมาจนถึงทุกวันนี้ กลายมาเป็นแรงบันดาลใจ ทำให้เกิด“Ito ตลอดมา ตลอดไป คือเธอ” ขึ้นมา
เรื่องราวความรักระหว่าง “เร็น” และ“อาโออิ” จากยุค “เฮย์เซย์” สู่ “เรวะ” ทั้งคู่เกิดในปีเฮย์เซย์ที่ 1 รู้จักกันตอนอายุ 13 ที่ฮอกไกโด เป็นรักแรกของกันและกัน แต่ไม่นานก็ต้องแยกจากกัน “เร็น” ยังคงรอ “อาโออิ” อยู่ที่ซัปโปโร ทั้งคู่กลับมาเจอกันอีกครั้งตอนอายุ 21 ที่โตเกียว แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง จังหวะความรักของ “เร็น” และ “อาโออิ”ก็ต้องเดินสวนทางกันอีกครั้ง จนเวลาล่วงเลยมาในปีเฮย์เซย์สุดท้าย ที่ทั้งคู่อายุ 31 ในวันสิ้นปีโชคชะตาจะทำให้พวกเขาได้กลับมาพบกันอีกครั้งไหม?
“นานะ โคมัตสึ” ในบท “อาโออิ” เล่นดีไม่ทำให้ผิดหวัง บทหนังเอาอยู่ เธอยิ้ม หัวเราะน่ารัก ผิดหวัง ดราม่า สู้ชีวิต ที่ดึงเราให้อยู่กับ“อาโออิ” ได้ตลอด และเพิ่มความรักความเข้าใจ หลงรักตัวละครนี้มากขึ้น นอกจากจะเสียน้ำตาให้กับเธอโดยไม่รู้ตัวแล้วยังอยากโดด เข้าไปช่วยปลอบใจ เช็ดน้ำตาให้กับเธอ
“มาซากิ สุดะ” ดูดีเข้ากับบท “เร็น” หน้าตาอาจจะไม่หล่อขั้นเทพ แต่ด้วยบุคลิกท่าทางความจริงใจ เลยทำให้ เร็น เป็นที่รักของคนดูและตัวละครในเรื่อง จนคอยลุ้นว่า สุดท้ายจะสมหวังในความรักที่รอคอยหรือไม่ และอาจจะเพราะความเป็นคู่จิ้นคู่รักกันจริงๆ ของ นานะ กับ มาซากิ นอกจอ ที่มาช่วยเพิ่มออร่า ความรู้สึกลุ้น สมหวังให้กับ อาโออิ กับเร็น บนจอ
นอกจากสองตัวละครหลักๆ แล้ว ตัวละครอื่นๆ ก็เล่นได้เข้ามาเสริมเพิ่มเติม ทำให้เรื่องเข้มข้นขึ้น และมีส่วนเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงชีวิตคุณป้าข้างบ้าน ที่ให้อาหารเธอกินในวัยเด็ก นักธุรกิจเพลย์บอยหนุ่มรูปหล่อที่อุ้ม “อาโออิ” ขึ้นมาจากสาวนั่งดริ้งค์ ชุบตัวให้เธอใหม่
อดีตเพื่อนสาวนั่งดริ้งค์กับการเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยตัวเอง หนุ่มพนักงานลูกน้องที่คอยช่วยเหลือเธอมาตลอดรุ่นพี่สาวที่คอยช่วยเหลือดูแล “เร็น” แต่ยังมีความทรงจำดีๆ กับอดีตแฟนเก่า
เพื่อนซี้ตั้งแต่เด็ก ที่สมหวังกับสาวคนรักตั้งแต่เด็กก่อนที่จะมาใช้ชีวิตเรียบๆ กับสาวบ้านๆ ธรรมดาๆเด็กสาวตัวน้อย ลูกสาวเร็น น่ารักจนอดรักตามไม่ได้ มีปาดน้ำตากับเจ้าตัวน้อยนี้ด้วยนะ
ดูเผินๆ ผ่านๆ “Ito” มีหน้าหนังเป็นหนังรักวัยรุ่น แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว กลับเป็นหนังรักที่เน้นดราม่า ความพลัดพราก เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ตัวหนังเอาเราจนอยู่หมัด จนเสียน้ำตาออกมา ต้องปาดน้ำตาโดยไม่รู้ตัว เร็น หนุ่มผู้ใฝ่ฝันจะเป็นนักฟุตบอลโลก เพื่อสาวที่รักในวัยเด็ก ก่อนจะหยุดฝันปักหลักรอเธอกลับบ้าน อยู่เมืองเล็กๆ บ้านเกิด อาโออิสาวที่ชะตากรรมเล่นงานตั้งแต่เด็ก อยากมีชีวิตที่เรียบง่ายถูกพรากคนรัก พ่อเลี้ยงทำร้าย เป็นสาวนั่งดริ้งค์ เมียนักธุรกิจ เติบโตจากธุรกิจ ทำเล็บในสิงคโปร์ ชีวิตมีขึ้น- มีลง ขึ้นสุดลงสุดตลอดเวลา เดินจากที่เคยอยู่รอคอยวันที่จะกลับมาที่เดิมชีวิตของ เร็น มีแต่คนเดินเข้ามาหาและอยู่ด้วย ส่วน อาโออิ คนเข้ามาแล้วก็จากไป
Ito : Our Taprestry Of Love ตลอดมาตลอดไป คือเธอ เอาอยู่ทุกหมัด นักแสดงดี บทดีขยี้จิตใจ สร้างแรงบันดาลใจในการสู้ชีวิต ล้มแล้วลุกชีวิตมีขึ้น-มีลง ความรักที่มีพบมีจาก และที่ชอบมากๆ คือเพลงประกอบความหมายดีๆ ที่อยู่ในหนังโดยเฉพาะ เพลง Ito กับเพลงสาว ม.สามสมัครงานไม่มีใครรับ ที่ร้องเล่นในคาราโอเกะ แต่กินใจสุดๆรักหนังเรื่องนี้ เสียน้ำตา อึ้ง!! และรัก นานะ เพิ่มมากขึ้น 10/10 คะแนน
“เราอาจไม่สามารถจับมือใครไว้ได้ตลอดไป เมื่อถึงเวลาปล่อยก็ต้องปล่อยไป ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี