บทประพันธ์...วราภา
บทโทรทัศน์...ปราณศักดิ์สวัสดิ์
กำกับการแสดงโดย...สยาม น่วมเศรษฐี
ผลิตโดย...บริษัท พอดีคำ จำกัด
เรื่องย่อ
น่านปิงนรเทพ(วัยเด็ก) ไปเดินเล่นกับม่านฟ้า หรือเมย น้องสาวสุดที่รักเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่คุณพ่อบาทหลวงโจเซฟจะพาม่านฟ้าไปส่งให้พ่อเลี้ยงทางเหนือ ซึ่งเป็นอดีตทหาร เพื่ออนาคตของม่านฟ้าหากน่านปิงกับม่านฟ้ามีวาสนาต่อกัน ทั้งคู่ย่อมได้พบกันอีก
น่านปิงนรเทพ เป็นราชบุตรของเจ้าหลวงพีริยเทพ และพระเทวีศุลีมาน แห่งคีรีรัฐนคร เจ้าหลวงพีริยเทพมีพระเชษฐา ชื่อ เจ้าชายมาทยาธร ซึ่งมีพระชายานาม สิริวาระตี(พี่สาวพระเทวีศุลีมาน) และบุตรนาม ศิขรนโรดม เจ้าชายมาทยาธรไม่พอใจที่เจ้าหลวงพีริยเทพไม่เปิดการค้าเสรีจึงทำการปฏิวัติ เจ้าหลวงพีริยเทพไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อนจึงยอมโดยดี แต่พระองค์แอบให้อินปง ราชองครักษ์พาพระเทวีและราชบุตรหนี พร้อมนำตราสุรสีหนาท สัญลักษณ์ของกษัตริย์แห่งคีรีรัฐไปด้วย ส่วนพระองค์ดื่มยาพิษของเจ้าชายมาทยาธรสิ้นพระชนม์ อินปงพาพระเทวีและราชบุตรหนีไปพร้อมจันทร์แรม ภรรยา และม่านฟ้า ลูกของเขา เวลาผ่านไปสิบกว่าปี ม่านฟ้ามาอยู่กับพลตรีสุริยะ ภีมะมนตรี โดย มีชื่อใหม่ว่า บราลี หรือ บรี ขณะที่คุณพ่อ-บาทหลวงย้ายมาอยู่ที่โบสถ์ในฮ่องกง บราลีเรียนจบปริญญาตรีที่ต่างประเทศ และกำลังจะกลับเมืองไทย แต่เธอแวะเที่ยวฮ่องกงก่อน ตอนแรกบราลีจะไปอยู่กับเพื่อนชื่อ หลินจื้อเหม่ย แต่เพื่อนติดธุระหลายวัน สุริยะจึงให้บราลีรับความช่วยเหลือจากจ้าวซัน จึงทำให้ทั้งคู่รู้จักกันวันรุ่งขึ้น จ้าวซันพาบราลีไปเที่ยว เขาพูดถึงฮ่องกง และเรื่องที่ตนเคยคิดจะแก้แค้น บราลีไม่ชอบการแก้แค้น จ้าวซันเห็นบราลีเศร้าจึงเผลอเรียก ม่านฟ้า จนบราลีแปลกใจ แต่ยังไม่ทันถาม คุณพ่อ-บาทหลวงก็เข้ามาทัก คุณพ่อบาทหลวงบอกว่ารู้จักบราลี ตั้งแต่บราลียังเด็ก บราลีอยากรู้เรื่องในอดีตแต่ก็ทำได้เพียงเก็บความสงสัยเอาไว้
ศิขรนโรดมต้องเดินทางไปเมืองไทยและฮ่องกง แต่ใจยังห่วงพระบิดาและพระมารดาที่ไม่สบายจึงมาหาครูเฒ่าเพื่อปรับทุกข์ องค์ชายเพิ่งรู้เรื่องพระบิดาปฏิวัติเมื่อตอนโต จึงคิดเสมอว่าคีรีรัฐเป็นของน่านปิงนรเทพ ส่วนพระองค์มีหน้าที่ดูแลแทนเท่านั้น พลเอกราชิดมีลูกสองคน คือ อสุนี เพื่อนเรียนและองครักษ์ของศิขรนโรดม กับมิถิลา น้องสาวอสุนีซึ่งกำลังจะเข้าถวายตัวเป็นข้าหลวงของพระเทวี อสุนีไม่เห็นด้วยที่พ่อจะปฏิวัติ ยิ่งการไปประเทศเพื่อนบ้านครั้งนี้ อสุนีไม่ได้ไปด้วย เขาก็ยิ่งห่วงองค์ชาย มิถิลาแอบบอกอสุนีว่าราชิดประชุมลับบ่อยๆ และได้ส่งทหารไปฮ่องกงเพื่อติดต่อเรื่องอาวุธแล้ว อสุนีอยากทูลเรื่องนี้ในวันที่ศิขรนโรดมเดินทาง แต่เขาก็พูดไม่ออก เพราะราชิดคอยมองอยู่ จ้าวซันมองรูปศิขรนโรดมในหนังสือพิมพ์ด้วยความชื่นชม เขาให้เทเรซ่าติดต่อเชิญองค์-รัชทายาทมาชมผ้าไหมที่บริษัทและจัดงานเลี้ยงต้อนรับ ก่อนจะโทรไปขอบใจภูสินทรที่ช่วยโอนเงินใช้หนี้แทนฉินเจียง จากนั้นจ้าวซันก็มารับบราลีที่จะย้ายไปอยู่กับเพื่อนไปส่ง จ้าวซันรู้ว่าฉินเจียงส่งคนสะกด-รอยตามก็เป็นห่วงบราลี จึงให้เต๋อเป่าจัดคนมาดูแลบราลีศิขรนโรดม และผู้ติดตามมาถึงเมืองไทย องค์ชายขอพักโรงแรมเป็นการส่วนตัว ราชิดเห็นว่าศิขรนโรดมไม่มีพิษภัยจึงยอม โกศิณมาบอกราชิดว่าการติดต่ออาวุธเรียบร้อย ภูสินทรแกล้งเป็นลมต่อหน้าองค์ชาย ศิขรนโรดมรีบช่วยเหลือทันทีจนภูสินทรซึ้งน้ำพระทัย แต่ใบหน้าของศิขรนโรดมที่คล้ายจ้าวซันมาก ทำให้ภูสินทรตัดสินใจไปฮ่องกงเพื่อดูแลความปลอดภัยให้จ้าวซันบราลีมาหาคุณพ่อบาทหลวงเพื่อถามถึงอดีต คุณพ่อบาทหลวงบอกแค่ว่า บราลีเคยอยู่กับครอบครัวอื่นมาก่อน แต่ทุกคนอยากให้บราลีได้สิ่งที่ดีที่สุดจึงให้บราลีมาอยู่กับสุริยะ คุณพ่อบาทหลวงพูดถึงจ้าวซันด้วยความเป็นห่วงที่เขาไว้ใจคนมากไปจนอันตราย บราลีจึงเริ่มห่วงบ้าง จ้าวซันมาง้อบราลีเพราะคิดว่าเธอโกรธ แต่เธอปฏิเสธ จ้าวซันเล่าชีวิตวัยเด็กในฮ่องกงที่เรียนรู้อะไรหลายอย่าง บราลีพูดถึงเรื่องที่ไปหาคุณพ่อบาทหลวงมา เธอถามจ้าวซันว่ามีน้องสาวอีกคนหรือไม่ แต่จ้าวซันไม่ตอบ บราลีแยกกลับบ้านก็รู้จากหลินจื้อเหม่ยว่ามีชายแปลกหน้ามาหา บราลีนึกถึงชายที่แอบดูเธอวันนั้นอย่างไม่สบายใจ เรื่องราวจะดำเนินต่อเช่นไร บราบีจะรู้ความจริงหรือไม่ และ ชีวิตของ จ้าวซันกับ ศิขรนโรดม จะลงเอยเช่นไรต้องติดตามชมใน วันนี้ที่รอคอย ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพสีกองทัพบกช่อง 7ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เริ่มตอนแรกวันที่ 13 มิถุนายน 2556
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี