‘แจม-รชตะ’ พระเอกป้ายแดงซิทคอมแห่งสยาม  พรหมลิขิตจากตัวประกอบกระโดดสู่พระเอก

‘แจม-รชตะ’ พระเอกป้ายแดงซิทคอมแห่งสยาม พรหมลิขิตจากตัวประกอบกระโดดสู่พระเอก

วันอาทิตย์ ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.
Tag :

จากอาชีพพ่อพิมพ์ของชาติ และได้รับโอกาสดีๆ ทำให้ล่าสุด แจม-รชตะ หัมพานนท์ ขึ้นแท่นเป็นพระเอกป้ายแดงจาก “รักนะขอรับ”ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 11.00 น.ทางช่องวัน โดยวันนี้ “ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า”มีโอกาสพูดคุยถึงเส้นทางสู่ถนนสายบันเทิงซึ่งเจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า

ถามถึงที่มาของชื่อเล่น และชื่อจริงใครตั้งให้


อย่างชื่อเล่น “แจม” มาจากพ่อผมเรียนดนตรีมา สมัยก่อนมันจะมีศัพท์ต่างๆ อย่างจ๊าบ โก้และมีคำว่า แจม แบบขอแจมเล่นดนตรีด้วยหน่อย ก็เลยชื่อแจมครับ ส่วนชื่อจริง “รชตะ” แม่เป็นคนเลือก แปลว่า เงิน ครับ

เข้าวงการบันเทิงมาได้อย่างไร เห็นว่ามาจาก พรหมลิขิต

สวัสดีครับ ผม แจม-รชตะ หัมพานนท์ จุดเริ่มต้นในการเข้าสู่วงการบันเทิง เริ่มมาจากเพื่อนชวนไปเป็นนักแสดงเอ็กซ์ตร้า ลองทำดูเพราะเพิ่งจบมาใหม่ๆ ลองทำอยู่ 2-3 งาน ได้ค่าตัวไม่กี่ร้อยบาท แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ แล้วก็คิดว่าน่าจะต่อยอดไปทางไหนอีกได้บ้างเลยเริ่มหางาน แคสงานโฆษณาต่างๆ ได้บ้างไม่ได้บ้าง จนมาวันหนึ่งลองไปสมัครรายการ“รู้ไหมใครโสด” พอออกอากาศมาก็เริ่มเป็นที่รู้จัก พี่บอย-ถกลเกียรติ ที่เคยเห็นจากงานโฆษณาเล็กๆ น้อยๆ บวกกับเห็นจากรายการนี้พอดี เลยให้ทีมงานเรียกมาพูดคุย ตอนนั้นก็ตัดสินใจอยู่เพราะเป็นครูอยู่ในตอนนั้น จนมีโอกาสได้มาแคสกับพระเอกหลายๆ คน แล้วก็ได้มีโอกาสแคสบท “ยอด” ใน “รักนะขอรับ” ครับ

เล่าคาแร็กเตอร์ในเรื่องนี้เล่าให้หน่อย (คล้ายตัวเอง หรือว่าห่างจากชีวิตจริงๆ)

บท ยอด เป็นบ่าวหนุ่มรูปงาม เจ้าคารมคมคาย ผู้คอยแก้ปัญหาให้คนทั้งเรือน ถือเป็นซิตคอมย้อนยุคเรื่องแรกแห่งสยามประเทศ “รักนะขอรับ” เป็นคนชอบแก้ปัญหา ชอบหาความรู้อยู่เสมอ แต่ไม่ค่อยพูด มีภูมิอยู่กับตัวแต่จะงัดออกมาเพื่อแก้ปัญหาเท่านั้น มีชั้นเชิง เหมือนกับผมเงียบๆ ไม่ค่อยพูด แต่ก็จะคอยดูชั้นเชิงว่าจะเข้าหา จะพูดอะไรด้วยมากน้อยแค่ไหน ตัวผมอาจดูนิ่งๆ หยิ่งๆ แต่ไม่ใช่ ถ้าลองเข้ามาคุยจะรู้เลยว่าไม่หยิ่ง อยู่กับเพื่อนก็มีเสียงหัวเราะ ตลกได้ ลักษณะของผมคล้ายๆ กับบทนี้เลยครับ

จุดหักเหมาสู่อาชีพ ถ้าไม่ได้เป็นพระเอก คิดว่าตอนนี้ทำอาชีพอะไร

อย่างที่บอกไปว่าก่อนหน้านี้เป็น ครูฝึกสอนทำหน้าที่ทุกอย่างเหมือนครู ไม่ใช่แค่นักศึกษาฝึกงาน คือเป็นครูเลย แค่ไม่ได้รับเงินเดือน ก็คงเป็นครูครับ ช่วงนั้นกำลังมีการสอบบรรจุครูเข้ารับราชการพอดี ถ้าผมไม่ได้มาเป็นนักแสดงช่องวัน31ตอนนี้ก็คงเป็นครูสอนนักเรียนอยู่ครับ (ยิ้ม)

พอทราบว่าต้องเป็นพระเอกเรื่อง ‘รักนะขอรับ’ เรื่องนี้ต้องฟิตถอดเสื้อ เตรียมตัวเป๊ะเวอร์มั้ย

ผมว่าการทำงานในทุกวงการสมัยนี้ต้องดูแลตัวเองอย่างดีอยู่แล้ว อย่างสมัยเป็นครูคนก็คิดว่าผมเป็นครูพละ เพราะเล่นฟิตเนส ดูแลตัวเอง เล่นกีฬา มาตั้งแต่สมัยเรียน ปี 1-2 แล้ว ก็หุ่นเฟิร์มมาตั้งแต่สมัยเรียน พอมาทำงานก็ต้องทำให้มันลีนลงบ้าง ให้เห็นกล้ามเนื้อชัดขึ้นเพื่อความพอดีเวลาออกกล้องครับ ก็ทราบว่าต้องมีโชว์หุ่นและถอดเสื้อก็เลยไปเตรียมตัวมาพอสมควร

เรื่องแรกเป็นพระเอก หนักใจมั้ย นักแสดงที่เล่นด้วยเก่งๆ ทั้งนั้น (ทำการบ้านอย่างไรบ้าง)

อยู่แล้วครับ เรื่องหนักใจ ช่วงแรกยากมากๆ ครับ เพราะไม่ชินจังหวะ ซิตคอมมีดนตรีสด ฟังคู่แสดง พอเริ่มชินก็สบายครับ เล่นได้ไหลลื่นเลย อีกอย่างคือ เรื่องภาษาคำพูด บุคลิกท่าทางสำคัญมาก ก็ฝึกทำการบ้านมาเต็มที่ หาคำพูดแบบคนสมัยกรุงศรีว่าเขาพูดจากันอย่างไร เรื่องดาบกระบี่ กระบอง พอได้มาเล่นจริงๆ สามารถผสมผสานความสมัยใหม่ลงไปได้ ที่หนักใจสุดคือ การมาเล่นซิตคอม ต้องอาศัยจังหวะ เล่นให้คม ให้ชัด ยิ่งได้พี่ๆ ที่มากประสบการณ์อย่างพี่เจี๊ยบ เชิญยิ้ม พี่สุ่ย พี่ปุยฝ้าย ช่วยแนะเทคนิค สอนจังหวะ เลยทำให้สบายใจหายห่วงเลย

ถามเรื่องหัวใจบ้าง มีแฟนคนแรกตอนอายุประมาณไหน (นิสัยสาวในอุดมคติ)

ปั๊บปี้เลิฟ ตอน ม.4 ช่วงมีนักเรียนจากโรงเรียนอื่นเข้าเรียนใหม่ผู้หญิงคนนี้น่ารักมาก แต่ด้วยผมเป็นคนไม่ค่อยพูดแสดงออก จีบด้วยการปากระดาษใส่ (หัวเราะ)แต่เพื่อเขาดันรับได้ แถมจีบแข่งกับเพื่อนด้วยสุดท้ายผมก็จีบติดครับ (ยิ้ม) ส่วนสาวในอุดมคติเป็นคนที่เข้าใจ มีความยืดหยุ่นในชีวิต ไม่ใช่วางกรอบ ไปหมดไม่ใช่นำทุกเรื่องมาคิดมาก ต้องมีความเป็นผู้นำ ทำอะไรก่อนผมก็ได้ ส่วนรูปร่างหน้าตาก็ชอบผู้หญิงหุ่นดีเพราะผู้ชายทุกคนก็คงชอบผู้หญิงหุ่นดี ไม่อ้วนไป ไม่ผอมไป พอดีๆ แบบบิ๊นท์ ส่วนหน้าตาผมไม่รู้ว่าความสวยของแต่ละคนเป็นแบบไหน แต่ผมชอบคนที่มีเสน่ห์ อยู่ด้วยแล้วไม่เบื่อ มองไม่เบื่อ อยู่ด้วยแล้วมีความสุขขี้เล่น เหมือนบิ๊นท์ (ยิ้มมมมมม)

ต้องเลือกระหว่าง งาน กับ แฟน ต้องเลือกสิ่งไหน ก่อน เพราะอะไร

ณ ตอนนี้ก็ต้องโฟกัสงาน เพราะมันคืออนาคตของเรา อย่างที่บอกว่าผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตต้องมีความยืดหยุ่น เข้าใจผมครับ

มองวงการบันเทิงจาก ตอนแรกก่อนเข้ามา และพอเข้ามาแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง

ครอบครัวผมเองก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร การที่มีโอกาสมาตรงนี้ก็ไม่ง่ายก็อยากทำงาน เก็บเงินไปดูแลครอบครัวก่อนครับ ส่วนชื่อเสียงถ้าจะตามมาจากผลงานที่ผมตั้งใจทำก็ขอบคุณครับ

อย่างตอนแรกที่เข้ามาในวงการก็คาดไม่ถึงหลายๆ อย่าง ทำให้ต้องมีปรับตัวเช่น วางตัวในสังคม ต้อง ดูแลตัวเองให้ดี อยู่ๆ ไปก็เข้าใจว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่ และพี่ๆ ในวงการเป็นผลดีกับตัวเอง มีเหตุผลของมัน และก็ทำให้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top