O บริทนีย์ สเปียร์ส พูดถึงสารคดี Framing Britney Spears ที่ตีแผ่ชีวิตตัวเองเป็นครั้งแรก ที่บอกเล่าชีวิตส่วนใหญ่ของเธอที่ถูกคนอื่นตัดสิน รวมทั้งถูกเหยียดหยามและทำให้อับอายจากบรรดาสื่อ เธอบอกว่ามันทำให้ร้องไห้เกือบ 2 สัปดาห์หลังจากได้ดูบางช่วงบางตอนของมัน สารคดีของบริทนีย์ ออกฉายเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เป็นส่วนหนึ่งของซีรี่ส์ The New York Times Presents ตีแผ่เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของนักร้องคนดังที่อยู่ภายใต้การบงการของบิดามานาน 13 ปี บริทนีย์ต้องจ่ายค่าทนายเพื่อสิทธิ์ในการดูแลตัวเอง, จ่ายให้กับพ่อ เมื่อเธอต้องต่อสู้กับเขาในศาล นำไปสู่การเคลื่อนไหวของแฟนๆ ที่อยากให้นักร้องคนดังเป็นอิสระ #FreeBritney หลังจากที่สารคดีออกอากาศ ผู้พิพากษาศาลสูงลอสแองเจลิสก็มีคำสั่งยกคำโต้แย้งของคุณพ่อที่จะให้หาบุคคลที่สามมาดูแลอสังหาริมทรัพย์ และเธอยังยื่นขอให้ โจดี้ มอนท์โกเมอร์รี ที่เป็นผู้ดูแลชั่วคราว ระหว่างที่คุณพ่อของเธอมีปัญหาเรื่องสุขภาพให้มาเป็นผู้ปกครองเธออย่างถาวร และขอให้คุณพ่อถอนตัวจากดูแลเธอด้วย
O BTS วงบอยแบนด์เกาหลีที่ตอนนี้ดังไกลระดับโลกออกมาประณามการเหยียดเชื้อชาติคนเอเชียและเอเชี่ยน-อเมริกัน ผ่านทางทวิตเตอร์ออฟฟิศเชียลของวงทั้งในภาษาอังกฤษและเกาหลี พวกเขายังบอกอีกว่าที่ผ่านมาเจอทั้งคำดูหมิ่นและถูกถากถางเพียงเพราะรูปร่างหน้าตา ทำให้รู้สึกไร้พลัง และสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาต้องออกมาเป็นปากเป็นเสียง และสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถแยกพวกเขาออกจากอัตลักษณ์และตัวตนความเป็นเอเชียได้ นอกจาก BTS แล้ว ยังมีคนดังเชื้อสายเอเชียในวงการบันเทิงฮอลลีวู้ดมากมาย อาทิ สตีเว่น ยอน, ไซมอน หลิว และ ซานดรา โอ ที่ออกมาเป็นกระบอกเสียงให้เกิดความตระหนักรู้ถึงความรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นกับคนเชื้อสายเอเชีย โดยซานดราปราศรัยในการประท้วงในเมืองพิตสเบิร์ก ว่า เธอภูมิใจที่เป็นคนเอเชีย และเธอสมควรที่ได้อยู่ในอเมริกาเหมือนกับคนอื่นๆเช่นกัน
O เดมี่ โลวาโต้ ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ชื่อ Dancing With the Devil เพลงสไตล์บัลลาด กับเนื้อหาที่บอกเล่าถึงความผิดพลาด และสิ่งที่เคยทำผิดจากความชะล่าใจ และคิดง่ายๆว่าตัวเองจะถอนตัวจากความผิดพลาดตรงนั้นได้ทัน แต่มันกลับสายเกินไป เพราะรู้ตัวอีกทีเธอก็หลุดเข้าไปเต้นรำอยู่กับปีศาจเสียแล้ว สะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้กับการใช้สารเสพติดที่เกือบเอาชีวิตเธอไปเมื่อปี 2018 เพลงนี้คือหนึ่งในแทร็กที่อยู่ในอัลบั้ม Dancing With the Devil…The Art of StartingOver ที่จะปล่อยออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังกันเต็มอัลบั้มในวันที่ 2เมษายนนี้ ซึ่งนักร้องคนดังอยากใช้เพลงนี้เป็นสื่อกลางในการเตือนทุกคนให้เห็นถึงโทษและอันตรายจากยาเสพติด และทำลายชีวิตเราได้มากแค่ไหน เหมือนกับเรากำลังเต้นรำและใช้ชีวิตอยู่กับปีศาจร้ายก็ว่าได้ หากชีวิตของใครกำลังดิ่งลงเหว แบบที่เธอประสบมาแล้ว
O นักแสดงคนสวย ฮิลารี ดัฟฟ์ วัย 33 ปี ที่คลอดลูกสาวคนที่ 2 ที่เกิดกับ แมทธิว โคมา สามี เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา โดยตั้งชื่อเบบี๋ว่า เมย์ เจมส์ แบลร์ และโพสต์รูปครอบครัวของเธอเมื่อบ่ายวันเสาร์ที่แล้ว ขณะที่เธอและแบงค์ ไวโอเล็ต ลูกสาวคนโตนั่งอยู่ในอ่างสำหรับคลอดลูกในน้ำพร้อมกับอุ้มเบบี๋แรกเกิดในอ้อมกอด ซึ่งก็มีแมทธิว และลูก้า ลูกชายวัย 8 ขวบ ที่เกิดกับอดีตสามีนักฮอกกี้ อยู่ในช่วงเวลาที่แสนอบอุ่นอยู่ด้วยกัน ดัฟฟ์ประกาศว่าเธอตั้งท้องในเดือนตุลาคม 2020 โดยหลังจากนั้นไม่กี่เดือนเธอบอกว่าเธอติดเชื้อโควิด-19 และต้องกักตัวเองออกมาจากครอบครัวนักแสดงสาวจากเรื่อง Younger หมั้นหมายกับสามีคนปัจจุบันเมื่อเดือนพฤษภาคม 2019 และเข้าพิธีวิวาห์ในอีก 7 เดือนต่อมา
O คริสซี่ ทีเกน ประกาศเลิกเล่นทวิตเตอร์ และลบบัญชีที่มีผู้ติดตามกว่า 13.7 ล้านคนไปแบบไม่ไยดี ซึ่งก่อนปิดบัญชี คริสซี่ ชี้แจงยาวเหยียดว่า มันถึงเวลาบอกลา เพราะช่องทางนี้ไม่สามารถมอบพลังในแง่บวกให้ได้เท่ากับพลังลบ และเธอคิดว่านี่คือเวลาที่เหมาะสมที่จะพูดอะไรสักอย่างที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ของคริสซี่ ได้รับความนิยมอย่างมากจากชาวเนต เพราะเธอมักจะเผยภาพโก๊ะๆ หรือมุขตลกเกี่ยวกับตัวเอง และสามีนักร้อง จอห์น เลเจนด์ และลูกๆ อยู่ตลอด แต่มีหลายครั้งที่เสียงตอบรับกลับไม่ขำ แถมยังถูกโจมตีอย่างรุนแรง แม้แต่คริสซี่ แชร์เรื่องที่เธอแท้งลูกคนใหม่ลงทวิตเตอร์เมื่อปีก่อน ก็ยังมีหลายคนมาหาว่าเธอขายดราม่าเกินไปอีกด้วยเจ้าตัวเลยตัดสินใจว่า พอกันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี