“หนึ่งคนจะปกป้อง หนึ่งโคลนจะถูกทำลาย”
หนังไซไฟแอ็คชั่นจากฝั่งเกาหลี ที่โดนพิษโควิด19 เลื่อนแล้วแลื่อนอีก จาก โปรแกรมส่งท้่ยปลายปี63 มาจบลงช่วงสงกรานต์64มอนกีฮอน อดีตหน่วยสืบราชการลับ ที่ป่วยเป็นโรคร้ายในสมอง รับงานคุ้มกัน ซอบก มนุษย์โคลนนิ่งไปยังสถานที่ปลอดภัย เขาตัดสินใจ รับงานนี้ เพื่อแลกกับการได้รักษาตัวเองแต่งานนี้มี เยื้องหน้าเบื้องหลัง ทั้งคู่ถูกกลุ่มคนหลายกลุ่มตามล่า การหลบหนี การเอาชีวิตรอด การเรียนรู้ซึ่งกันและกันมิตรภาพจึงเริ่มต้นขึ้น
กงยู จับคู่กับ พัคโบกอม มารับบทสองหนุ่มสายลับมือดีกับโคลนนิ่ง ที่ต้องออกผจญภัยภัยไปด้วยกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ตัวหนังให้ความเด่นเฉลี่ยๆ ทั้ง ความสามารถ เสน่ห์ ความหล่อ และบทบาทที่เท่าๆ กัน พอฟัดพอเหวี่ยง สูสีกันดี ไม่มีให้ มากหรือน้อยกว่ากันทั้งสองหนุ่ม ก็ทำหน้าที่ได้ดี เล่นดี จนเหมือน ตลอดทั้งเรื่อง มีเขาเล่นกันอยู่ แค่ สองคน หนังทำมาเพื่อขายทั้งคู่โดยเฉพาะ กงยู มาในบท หนุ่มมีปม รอวันตาย ดิบๆ เถื่อนๆ ลุยๆ ดูเก่งประสบการณ์ความเก๋า ส่วน พัคโบกอม ใสๆ ดูเป็นเด็กที่รอการเรียนรู้ เก่งเกินมนุษย์ มีพลังจิต มีความสามารถในการต่อสู้ ซ่อมแซมอาการบาดเจ็บได้ เคลื่อนย้ายของได้
บทหนัง ยังคงเล่าเรื่อง แบบเดิมๆ เนื้อเรื่องโครงเรื่อง ไม่ได้มีอะไรใหม่ แนวโคลนนิ่งมนุษย์ทดลอง ผู้มีความสามารถพิเศษ เป็นความหวังเดียวของมนุษย์ ที่เกิดความผิดพลาด มีเหตุให้ต้องหลบหนี โดยมีตัวเอกอีกคนที่มีปม พาหลบหนีบทเดิมๆ แนวทางๆ เดิมๆ พอเดาเรื่องได้ เลยทำให้ หนังออกมา ดูสนุกสนุกเท่าที่ควรและที่น่าเสียดายๆ คือ บรรดา นักแสดงสมทบคนอื่น ดูอ่อนเปี้ยเพลียแรง ตัวร้ายก็ไร้ออร่าความเก่ง ความร้าย แค่แต่งตัวดีๆ เพื่อบอกว่าเป็นหัวหน้า หรือฝ่ายดี ก็ทำได้แค่ ตัวประกอบๆ ธรรมดาๆ เท่านั้น
หนังทำได้ดีเนียน ในส่วนที่เป็นสเปเชี่ยลเอฟเฟค ดูลื่นไหล เป็นธรรมชาติ เป็นที่ดี โชว์ และทำให้หนังดูสนุก ไม่น่าเบื่อยิ่งเป็นหนังที่มีวิทยาศาสตร์ พลังเหนือธรรมชาติ ด้วยแล้ว ยิ่งเอื้อให้โชว์อะไรต่างๆ มากมาย ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำได้ดีเพียงแต่..รู้สึกว่า มันน่าจะมีอะไรมากไปกว่านี้ รอจนลืม พอมาก็แทบจะไม่มีอะไรใหม่ พอเดาทาง พอนึกภาพ ออกว่าเดี๋ยวจะ โชว์อะไร จะได้เห็นอะไร ตัวหนังน่าจะใช้ ประโยชน์ จาก CG ได้ดีกว่านี้
เช่นเดียวกับ ฉากแอ็ตชั่น ที่มาเป็นระยะๆ มาแบบกระปริกระปอย มาแบบแปร้ยบๆ แล้วก็จากไป ผสมๆ ผสานกับ ตัวร้าย หรือคู่ต่อสู้ กลับไปคนธรรมดาๆ พอ ตัวเอก เก่งเกินคนปกติ เลยดูไม่สูสี ลดทอนความสนุกลดความตื่นเต้นไปมากมายทีเดียวฉากถล่มทะลาย ในช่วง ท้ายไคลแมกซ์เรื่อง ทำได้ อบังการงายทำลายล้าง จริงๆ และน่าจะเป็น เพียง ฉากเดียว ที่คุ้มค่า กับการรอคอย มาตลอดเรื่องและยิ่งดูไปๆ ยิ่งรู้ว่าว่า ซอบก ก็คือ หนูน้อยพลังเพลิง (Firestarter) ของ สตีเฟ่น คิง ที่พลังอัดแน่นอยู่ในตัว โดนแรงกระตุ้น กระทุ้ง กดดัน จนปลดปล่อยหลัง ทำลายล้าง แบบรุนแรง ในตอนท้าย
โดยรวมๆ แล้ว รู้สึกว่า ซอบก มนุษย์อมตะ (Seobok) น่าจะออกมาสนุก ตื่นเต้น ครบรส ทั้ง ดราม่า มิตรภาพของสองหนุ่ม การเดินทาง ฉากแอ็คชั่น CG ต่างๆ แต่เอาเข้าจริงๆ ตัวหนังกลับดูเนือยๆ ไม่สมราคา ไม่กลมกล่อม ไม่ชวนติดตาม รู้สึกว่า ได้เห็นทุกอย่าง ไปหมดแล้ว ในตัวอย่างหนัง หนังน่าจะมีอะไรๆ ที่สนุกได้มากกว่า ที่ทำออกมาให้ดูแม้ หนังจะไม่ยาวมากมาย แต่ทำไม!! กลับรู้สึกว่า หนังยาวก็ไม่รู้5/10 คะแนนครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี