ศาลประทับฟ้องเกรียนคีย์บอร์ดหมิ่น แมท ภีรนีย์ นักแสดงชื่อดัง แย่งสามีชาวบ้าน 3 คดี นัดสอบคำให้การ และตรวจพยานหลักฐานวันที่ 13 ก.ย. เวลา 09.00 น. ส่วนอีกคดีสั่งเลื่อนเนื่องจากรอฟังผลการชดใช้ค่าเสียหาย
14 พ.ย.64 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีหมายเลขดำอ. 2550-2557/2563 ที่ น.ส.ภิรมย์ คงไทย หรือ แมท นักแสดงสาวชื่อดัง อายุ 31 ปี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้ที่โพสต์ถ้อยคำลงในอินสตาแกรม ทำนองว่า โจทก์ชอบแย่งสามีชาวบ้าน ประกอบด้วย น.ส.ปิยวรรณ ราชพลแสน ,น.ส.จิดาภา เมธาเชาว์เลิศ ,น.ส.ศศิธร อยู่คง ,น.ส.อารยา การเร็ว เป็นจำเลย ในความผิดฐาน หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา
วันนี้ แมท ภีรนีย์ โจทก์และทนายความโจทก์มาศาล ส่วนจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา มีเพียง น.ส.ปิยวรรณ ที่เดินทางมาศาล
เมื่อถึงเวลานัด แมท ภีรนีย์ โจทก์แถลงว่า น.ส.ปิยวรรณ จำเลยตกลงยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตามบันทึกข้อตกลงเมื่อวันที่ 18 มี.ค.2564 ทนายโจทก์จึงขอเลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องออกไป เพื่อรอฟังผลการชำระค่าเสียหายให้แก่จำเลย
จากนั้น แมท ภีรนีย์ ได้เบิกความด้วยตนเอง เกี่ยวกับจำเลยคนอื่นๆ และส่งเอกสารประกอบจนเสร็จแล้วจึง แถลงต่อศาลว่าประสงค์จะไต่ส่วนพยานโจทก์เพียงเท่านี้
ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า คดีในส่วนของ น.ส.ปิยวรรณ นั้น มีทางตกลงกันได้ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อคู่ความทั้งสองฝ่าย กรณีมีเหตุสมควร จึงอนุญาตให้เลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องไปวันที่ 29 พ.ย. เวลา 09.00 น.
สำหรับจำเลยอื่นๆนั้น โจทก์เบิกความเป็นประจักษ์พยานยืนยันว่า เป็นเจ้าของบัญชีผู้ใช้แอพลิเคชั่น อินสตาแกรมชื่อ gig_jp_mechi กับ บัญชีใช่ชื่อ mattperanee ตั้งค่าเป็นสาธารณะ ปรากฏว่า จำเลยดังกล่าวได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นใต้รูปภาพในแอพลิเคชั่นอินสตาแกรมของโจทก์ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถพบเห็นและอ่านข้อความดังกล่าวได้ได้ ด้วยข้อความดูหมิ่นโจทก์ด้วยการโฆษณา และเป็นการกระทำให้ได้รับความอับอาย ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เห็นว่า คดีของโจทก์มีมูลตามป.อาญา มาตรา 393,397 ให้ประทับรับฟ้องไว้พิจารณา เรียกจำเลยมาสอบคำให้การ และตรวจพยานหลักฐานวันที่ 13 ก.ย.2564 เวลา 09.00 น.
ต่อมาภายหลังเวลา 10.30 น. นางพัชนีย์ คงไทย มารดาของแมท นางศรันยา หวังสุขเจริญ หรือ “ทนายนิด้า” ทนายความและ น.ส.ปิยวรรณ ราชพลแสน หนึ่งในจำเลยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
โดย นางศรันยา หรือ ทนายนิด้า กล่าวว่า คดีนี้แมทได้ฟ้องผู้ที่โพสต์หมิ่นประมาท เพื่อปกป้องแม่เพราะสำหรับแมทเองแล้วทนกับเรื่องนี้ได้ แต่เมื่อแม่ของแมท เริ่มมีอาการเศร้าเสียใจ จึงต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบ้างโดยออกมาเคลียร์ว่าเรื่องต่างๆ ไม่ใช่เรื่องจริง แมทต้องการให้คนที่โพสต์ข้อความต่อตัวเองได้มาขอโทษคุณแม่
นางศรันยา ขณะนี้ยังไม่ได้ฟ้องใครเพิ่มอีก เพราะแมทเองก็เหนื่อยที่จะต้องเดินทางมาขึ้นศาล และก็เสียใจที่จะต้องดำเนินคดี แต่ส่วนหนึ่งก็รู้สึกว่าตัดสินใจถูกที่ได้ลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง
สำหรับความผิดที่ฟ้อง มีอัตราโทษจำคุก 2 ปีปรับไม่เกิน 200,000 บาท แต่สำหรับเคสของน้องปิยวรรณ แมท ได้ตัดสินใจที่จะถอนฟ้องคดี เพราะตัวน้องปิยวรรณเองรู้สึกผิด และยอมรับว่าขณะที่ทำลงไปไม่มีสติ และยินดีที่จะขอโทษต่อแม่ แต่ยังคงต้องมีการเรียกชดใช้ค่าเสียหายและต้องให้จำเลยโพสต์ข้อความขอโทษผ่านโซเชียลมีเดียอีกเป็นเวลา 30 วัน เพราะต้องการสร้างบรรทัดฐานในสังคมและ หากจำเลยคนอื่นๆ มีการสำนึกผิดและพร้อมที่จะขอโทษก็อาจจะมีการไม่ส่งฟ้องเพิ่ม
ด้านนางพัชนีย์ มารดา กล่าวว่า น้องปิยวรรณ ได้พูดคุยตกลงกับแมทเรียบร้อยแล้วและรู้สึกสำนึกผิดจริง สำหรับทุกคนที่ด่าลูกของแม่พวกเขาไม่รู้เรื่องที่จริง แต่สำหรับแม่ให้อภัยตั้งแต่ครั้งแรกไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ น.ส.ปิยวรรณ ได้มีการยกมือขอโทษและสวมกอดแม่ของแมท เพื่อแสดงความขอโทษ เนื่องจากกระทำไปเพราะขาดสติ
สำหรับรายชื่อจำเลย ทั้ง 8 คน ประกอบด้วยนางสาวณัฐสินี เทาดี ,นางสาวภัทราภรณ์ เจริญรัตน์, นางสาวณิชนันทน์ เขมา, นางสาวรัฐชาดา ชะโนวรรณ ,นางสาวศศิธร อยู่คง, นางสาวอารยา การเร็ว, นางสาวจิดาภา เมธา และนางสาวปิยวรรณ ราชพลแสน ในข้อหา "หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา, ทำให้ได้รับความอับอาย"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี