หนังชนโรง : คุยกับ ‘แซค เอฟรอน’ เสี่ยงชีวิตท่ามกลางพายุทรายสุดร้อนระอุ

หนังชนโรง : คุยกับ ‘แซค เอฟรอน’ เสี่ยงชีวิตท่ามกลางพายุทรายสุดร้อนระอุ

วันพุธ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2565, 02.00 น.

“แซค เอฟรอน” เป็นหนึ่งในดาราหนุ่มของวงการฮอลลีวู้ดที่มีความสามารถที่หลากหลายโดยมีผลงานที่น่าประทับใจทั้งทางภาพยนตร์จอแก้วและภาพยนตร์จอเงิน ผลงานของเอฟรอน ได้แก่ ภาพยนตร์เพลงยอดฮิตเรื่อง Hairspray และเป็นส่วนหนึ่งของทีมนักแสดงที่เขาได้ร่วมรับรางวัล Critics Choice Award ในฐานะ Best Acting Ensemble ในงานเทศกาลภาพยนตร์ 2007 Hollywood Film Festival Award for Ensemble of the Year และได้รับเกียรติโดยการได้รับการเสนอชื่อสำหรับรางวัล Screen Actors Guild Award ในฐานะ Outstanding Motion Picture Cast นอกจากนี้ เอฟรอนยังได้รับรางวัล MTV Movie Award ในฐานะ Breakthrough Performance อีกด้วย


ล่าสุดกับ ภาพยนตร์ “GOLD ทองกู”ภาพยนตร์แอ๊กชั่นเขย่าขวัญที่มีฉากหลังเป็นโลกทะเลทรายสุดอ้างว้าง ที่ได้คิวชนโรงในประเทศไทย วันที่ 28 เมษายนในโรงภาพยนตร์

อยากให้อธิบายถึงหนังเรื่อง Gold หน่อย

Gold เป็นเรื่องราวของความยั่วยวน ความโลภของคนที่เราต่างมีไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพื่อไขว่คว้าสิ่งที่ต้องการมาครอบครอง ตัวละครของผมถลำลึก ฝ่าฟันสภาพอากาศที่เลวร้ายมาก เพียงเพื่อจะได้ครอบครองในสิ่งที่ตัวเขาคิดว่าต้องการ

อะไรที่ทำให้คุณหลงใหลในหนังเรื่องนี้

ตอนที่ผมอ่านบท ผมรู้สึกหลงใหลในความแตกต่างของหนัง มันแทบไม่มีบทสนทนาอยู่เลย แต่ผมตกหลุมรักมันอย่างจัง คอยจินตนาการถึงคนที่เราไม่ได้รู้จักเท่าไหร่นัก
ที่ต้องตัดสินใจที่ซับซ้อนตลอดทั้งเรื่อง และต้องปรับตัวตลอดเวลาเพื่อเอาตัวรอด มันทำให้ผมคิดถึงหนังคาวบอยเก่าๆ เรื่องหนึ่งมันมีความคลาสสิกแฝงอยู่ มันอาจไม่มีบทสนทนาเยอะนัก และเราไม่ได้รู้เรื่องราวภูมิหลังของตัวละครเท่าไหร่ ซึ่งเปิดให้ผู้คนตีความอย่างกว้างขวาง เป็นสิ่งที่ผมชอบมากๆ มันเป็นหนังที่ซับซ้อน และเฉลียวฉลาดมากในเวลาเดียวกัน

ผมยังชอบเรื่องราวการเอาตัวรอด และความเรียบง่ายของการดูคนคนหนึ่งพยายามขบคิดว่าจะใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติอย่างไรให้รอด ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ ทำให้ผมสนใจหนังเรื่องนี้มากๆ

การถ่ายทำในช่วงฤดูร้อน กลางทะเลทรายของเซาท์ออสเตรเลียเป็นอย่างไรบ้าง

สุดจะเหลือเชื่อเลย ผมไม่เคยไปที่ไหนแบบนี้มาก่อน บอกตามตรงเลย ผมไม่รู้ว่าจะคาดหวังอะไร แต่มันสวยและน่าตื่นตะลึงแบบเหลือเชื่อจริงๆ แต่ก็ยังว่างเปล่า แห้งแล้งและโหดร้ายเหมือนกัน การถ่ายหนังในสถานที่ห่างไกลมักจะมาพร้อมกับความยากลำบาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีเรื่องง่ายๆ เกิดขึ้นด้วย ถ้าตัดสินใจลงหลักปักฐานเมื่อไหร่ จะไม่มีทางติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอกได้เลย ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ด้วยซ้ำ ไม่มีไวไฟ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ผมชอบนะเพราะมันได้ตัดขาดกับโลกภายนอกจริงๆ เพื่อจะได้มีสมาธิกับงานที่ทำ มันสนุกจริงๆ

หนักเอาเรื่องเลยสำหรับโลเกชั่นที่นั่น

องค์ประกอบต่างๆ มันโหดมากๆ ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นหนังที่มีสภาพแวดล้อมการถ่ายทำที่หนักหนาสาหัสสุดเท่าที่ผมเคยมีส่วนร่วมมันร้อนทั้งวันทั้งคืน ดวงอาทิตย์แผดเผาพื้นทรายก็ร้อนมาก แต่ก็มีความท้าทายอื่นๆ อีกเช่น เราเจอกับพายุทรายลูกใหญ่ ซึ่งโชคดีมากๆ ที่เราเก็บภาพเอามาใช้ในหนังเรื่องนี้ได้การทำหนังเรื่องนี้ เราได้ทดสอบขีดความสามารถของตัวเอง มันผลักเราให้ไปสุดถึงลิมิตเราถ่ายทำท่ามกลางสภาพอากาศสุดโหดที่สุดที่ผมเคยเจอ และมันสุดยอดมากๆ เลย

การร่วมงานกับ “แอนโทนี่ เฮเยส” เป็นอย่างไรบ้าง

แอนโทนี่ น่าอัศจรรย์มากครับ ผมปลื้มมากๆ ที่ได้ทำงานกับคนที่เขียนบทแล้วรู้ดีถึงสิ่งที่มีอยู่อย่างลึกซึ้ง และทุ่มเททุกอย่างในหนังเรื่องนี้ไปพร้อมกับทุกๆ คน การดูเขาทำงานเป็นอะไรที่เจ๋งมากครับ ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก และเขายังให้แรงบันดาลใจผมเพื่อผลักดันตัวเองด้วย ไม่เพียงแค่เป็นนักแสดง แต่ยังคิดถึงว่าการเป็นคนเขียนบทและกำกับต้องเป็นอย่างไร การดูเขาแก้ปัญหาต่างๆ ขณะที่สวมชุดสวมวิญญาณตัวละครและกำกับหนังไปพร้อมกันถือว่าสนุกทีเดียวครับ ผมว่านี่น่าจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่เจ๋งมากๆ ของเขาเลย ซึ่งบ่งบอกอะไรๆ ได้เยอะทีเดียวครับ

การทำงานกับ ซูซี่ พอร์เตอร์ ล่ะ

“ซูซี่” เป็นคนน่ารักและทำงานด้วยสนุกมากครับ ตัวละครที่เธอเล่น มีความน่าสนใจจริงๆ เธอรับบทเป็น 2 ตัวละครที่พาหนังเรื่องนี้ไปในจุดที่ผมไม่ได้คาดคิดมาก่อน ไปสู่สถานที่ซึ่งสวยงามมากๆ ซูซี่คือมืออาชีพตัวจริง และผมคิดว่าบางที เธอพาตัวละครเดินทางไปไกลสุดเท่าที่เธอจะสามารถพาไปได้เลยทีเดียวด้วยเหตุนี้ มันเลยสนุกมากๆ ครับที่ได้ดูเธอทำงาน และทำงานร่วมกับเธอ เธอเป็นคนที่น่ารักมากๆ นอกจอหนังเรื่องนี้

คาดหวังว่าคนดูจะได้อะไรกลับไปจากหนังเรื่องนี้

ผมคิดว่าหนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในหนังเรื่องนี้ และผมหวังว่าคนดูจะสัมผัสได้คือธรรมชาติมีวิธีในการทวงคืน และปรับเปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้ให้กลับสู่สมดุล ถ้าเรายังปรารถนาในสิ่งต่างๆ ตามความเป็นมนุษย์ ทั้งเงินตรา อำนาจ และสิ่งต่างๆ สุดท้ายแล้วเราก็จะเป็นฝ่ายกอบโกยสิ่งต่างๆ จากโลกนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ผมหวังว่าเราจะได้เรียนรู้เพื่อเป็นหนึ่งเดียวกันกับโลกใบนี้ เป็นหนึ่งเดียวกันกับธรรมชาติ และใช้ชีวิตท่ามกลางสรรพสิ่งทั้งหมด แทนที่จะพยายามหยิบฉวยจากมันจนมากเกินไป

สิ่งที่ผมหวังว่าคนดูจะได้เรียนรู้จากหนังเรื่องนี้ คือสิ่งที่ได้เรียนรู้จาก คนพื้นเมืองที่ออสเตรเลียจริงๆ นั่นคือ…“ถ้าเรายังไม่หยุดท้าทายธรรมชาติ เพื่อความร่ำรวยมั่งคั่ง โลกทั้งใบก็จะเอาคืน สภาพแวดล้อมของโลกจะเอาคืน ผู้กระทำชำเราจะถูกกำจัด ทุกสิ่งทุกอย่างจะหมุนเวียนตามวัฏจักร แล้วกลับมายังจุดเดิม นี่คือคำทำนายของคนพื้นเมืองที่นี่”

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top