"โอ๊ตปราโมทย์ปาทาน"นักร้องและดีเจอารมณ์ดีที่เรียกได้ว่ายิ่งมุกออกมาทีไรเป็นได้ฮาทุกครั้งแต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าแท้จริงแล้วหลังเวทีเขาเป็นคนที่นิ่งมากพร้อมเปิดเรื่องรักครั้งแรกแบบหมดเปลือกว่าตนเองไม่ได้ปิดเรื่องความรักอยากเป็นคนที่ถูกรักแต่เพราะเป็นคนหวงแหนพื้นที่ส่วนตัวแบบสุดๆและช่วงหลังมักร้องไห้คนเดียวบ่อยมากสาเหตุมาจากโรคแพนิก (Panic disorder) ที่กำลังเผชิญอยู่ทั้งหมดนี้ในรายการWOODY FM
ความรักของคุณตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
โอ๊ต :โสดครับพี่เพิ่งโสดจริงๆก่อนหน้านี้ก็มีเริ่มคุยเริ่มเปิดใจลองกลับมามีความสัมพันธ์ที่เป็นแบบใช้คำว่าแฟนจริงๆพอไปไม่ได้ก็ต้องแยกย้ายตอนนี้ก็โสดไม่ได้ปิดตัวเองแต่ว่าผมทำงานทั้งวันวันหนึ่ง 8-9 ชั่วโมงหรือวันหนึ่งมี 4 งานผมก็เลยถ้าคุยแล้วไม่โอเคหรืออยู่ด้วยแล้วรู้สึกอึดอัดผมจะแบบขอเราอยู่คนเดียว
ให้เวลาดูใจกันประมาณหนึ่งไหมหรือแค่ดูไปต่อถ้าไปต่อไม่ได้แล้วค่อยคุย?
โอ๊ต :ผมไม่ได้ไปจำกัดว่ามันจะนานหรือช้าบางคนถ้ามันใช่คลิกเดียวมันก็ใช่แต่คนมาอยู่ในพื้นที่ของเรายากมั้งผมเป็นคนน่าเบื่อผมดูเป็นคนสนุกนะแต่ผมโคตรน่าเบื่อเราอายุจะ 40 แล้วเวลาจะคุยหรือคบผมมองอนาคตถ้าจะคบคือเป็นคู่ชีวิตมันคือช่วงจังหวะแลนดิ้งของเราแล้วนะเราก็ต้องการคนที่มั่นคงด้วยหมายถึงว่าต้องมองไปในทิศทางเดียวกันมีแพชชั่นกับอะไรบ้างอย่างทำอะไรไปด้วยกันหรือถ้าไม่มีทุนทรัพย์เราสามารถให้ได้ แต่เธอต้องทำอะไรเป็นของตัวเอง ผมรู้สึกว่าคนที่ทำอะไรบางอย่างมันมีเสน่ห์
ได้เรียนรู้อะไรกับตัวเองบ้างเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของมนุษย์?
โอ๊ต :ไม่ชอบตัวเองเลยเวลามีความรักงี่เง่าเช่นอยากให้เขาเชื่อในตัวเราแววตาที่เขามองเราอยากให้เขาเห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำแต่ความไม่น่ารักของผมคือผมเป็นคนไม่พูดพลีสทุกอย่างทำทุกอย่างแต่พอสิ่งที่เราได้กลับมาไม่เท่ากับสิ่งที่เราทำจะเก็บไม่พูดถึงเวลาระเบิดเฮ้ย! เราพอแล้วมันไม่ได้แล้วมันไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วมันจะเสียใจทั้ง 2 ฝ่ายแน่ๆหยุดดีกว่าไม่ใช่ไม่รักนะ
ตอนนี้มีคนเข้ามาคุยด้วยหรือยัง?
โอ๊ต :มีคนเข้ามาคุยกับผมตลอดอยู่แล้วครับคนแนะนำมาบ้างเพื่อนของเพื่อนบ้างแต่ว่าผมเริ่มกลัวเป็นคนหวงพื้นที่ส่วนตัวมากๆโอเคมันอาจจะมีคนที่แวะเวียนมาแล้วออกไปแต่เขาได้แค่นั้นจริงๆแต่คนที่จะแบบมาลองอยู่ด้วยกันจริงๆโหน้อยมากพี่วู้ดดี้แล้วก็หวงพื้นที่ตัวเองคือไม่ได้หวงกับการให้เขานะให้เขาได้แต่ต้องเข้ามาแล้วกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของเรา
เอาจริงๆผมเป็นคนไม่ค่อยพูดเรื่องความรักเพราะเอาจริงๆคนเบะหน้าก็เยอะพอพูดถึง โอ๊ต ปราโมทย์แบบพี่โอ๊ตเหรอเจ้าชู้นะใช่ผมเจ้าชู้ผมก็ยอมรับสองเวลาผมพูดคนจะรู้สึกว่าพี่โอ๊ตพูดแต่ความต้องการตัวเองทำไมไม่ถามผู้หญิงบ้างว่าต้องการอะไรคือเราไม่ได้มีโอกาสอธิบายให้ทุกคนฟังมันไม่ใช่ผมไม่เปิดใจผมเปิดใจนะในวันที่ผมให้คนอื่นมากๆเชื่อเหอะพี่ผมอยากเป็นคนที่ถูกรักเหมือนกันอยากเป็นคนที่ถูกกอด
แต่ว่าในวันที่เราถูกรักเหมือนกันคำว่ารักอย่างเดียวก็ไม่พอไงผมดูแลคนเยอะผมรับผิดชอบคนเยอะคนเข้ามาอยู่ข้างๆเราต้องมองไปทางเดียวกับเราเพราะผมเป็นคนแอคทีฟมาก ผมทำงานตลอดเวลาฉะนั้นคนที่อยู่ข้างๆผมอยากให้เขาทำไปด้วยกันหรือส่งเสริมเราพัฒนาสิ่งต่างๆไปด้วยกัน ไม่ใช่เพื่อใครเลยเพื่อตัวเขา เพื่อเรา เพื่อพนักงานรวมไปถึงถ้าวันหนึ่งเรามีลูกผมก็อยากมีลูกที่โตมาในครอบครัวที่ขยันทำงานโหยหาความสำเร็จตลอดเพราะว่าผมมาจากที่ไม่มีอะไรเลยมาก่อนผมเป็นคนที่ไม่ได้ถูกใครสนใจเลยกว่าจะขวนขวายหาพื้นที่ตัวเองนิดหนึ่งได้ในวงการมันยากมากสำหรับผมเป็น 10 ปีฉะนั้นผมอยากให้ลูกผมดูพ่อเป็นตัวอย่างสู้ขนาดไหนฉะนั้นจะสำเร็จไม่สำเร็จไม่เป็นไรแต่ขอให้ได้สู้
แล้วถ้าจะต้องเลือกแฮปปี้มีลให้กับตัวเองเราจะให้เป็นอะไรดี?
โอ๊ต :คือที่ผ่านมาความสุขเราเป็นความสุขที่เห็นคนอื่นมีความสุขมันไม่ใช่แค่คนดูนะแต่หมายถึงลูกน้องด้วยกับคนรอบตัวเราทุกคนมีความสุขเราแฮปปี้แต่เพิ่งจะมามีคำถามกับตัวเองเมื่อไม่กี่สัปดาห์นี้ว่าเราอยู่หลังเวทีแล้วเรานิ่งจังเลยทำงานเยอะจนรู้สึกว่าเราต้องการขนาดนั้นเลยเหรอเลยในวันนี้ผมยังตอบไม่ได้ว่าแฮปปี้มีลของผมคืออะไรหาไม่เจอแต่หน้าที่เรารับผิดชอบมันได้เต็มที่แต่ว่าข้างในเรายังหาอยู่ว่าอะไรที่มันจะเป็นHappymealให้เรา
เรื่องโซเชียลคุณรู้สึกอย่างไรบ้างตอนนี้?
โอ๊ต :จริงๆผมถอยตัวเองออกมาเยอะครับไม่ค่อยเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงที่เรารู้สึกว่าจะเห็นอะไรที่เป็นเนกาทีฟหรืออะไรที่เรารู้สึกไม่ค่อยชอบเราก็จะถอยตัวออกมาเยอะมากขึ้น
อ่านแล้วมันยังรู้สึกทุกครั้งใช่ไหม?
โอ๊ต :ถ้าตอนนี้ผมจะเฉยๆมากแล้วแต่ว่าถ้าย้อนไปสัก 3 ปีก่อนอันนั้นอ่านทุกวันอ่านแล้วอ่านซ้ำอีกกดLike ให้ด้วยอันไหนด่าเราพอโตขึ้นเริ่มรู้สึกว่าคำด่าพวกนั้นไม่ค่อยส่งผลอะไรกับเราแล้วเพราะว่าเรารู้หน้าที่ตัวเองหน้าที่ของเราคือทำงานแล้วก็แบ่งปันสิ่งดีๆให้กับคนอื่นรอบตัวของเราโดยที่ไม่ต้องไปนั่งบอกคนอื่นว่าเราทำอะไรบ้าง พอมันออกมาได้ชำระสิ่งเหล่านั้นออกไปได้เราหันไปมองคำด่าต่างๆแล้วก็ตั้งคำถามว่าเราเป็นแบบนั้นจริงๆเหรอเราไม่เคยคุยกันคุณจะรู้จักเราได้แบบนั้นจริงๆเหรอแต่เมื่อก่อนไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเมื่อก่อนโมโหบางคนเขียนเหมือนนั่งอยู่ข้างๆเราทุกซีนที่เกิดขึ้นคนที่ควรจะรับรู้อย่างเช่น ครอบครัว หรือเลขาเรา เขายังไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย ทำไมเราถึงปล่อยให้คนอื่นมาตัดสินพอเราถอยออกมามันดีขึ้นเยอะเลย
เป็นโอ๊ตปราโมทย์ร้องไห้บ่อยไหม?
โอ๊ต :ร้องไห้ยากมากแต่เชื่อไหมพี่หลังจากที่ผมเป็นโรคแพนิก (Panic disorder) หลังจากนั้นผมร้องไห้ง่ายมากเลยแปลกมากเหมือนมันทำลายกำแพงความรู้สึกที่ผมกลั้นเอาไว้ออกไปหลังจากนั้นดูการ์ตูนเศร้าๆก็น้ำตาไหลอ่อนไหวมากขึ้นกว่าเดิมดูอะไรที่กระทบจิตใจหรือยินดีกับอะไรจะร้องไห้ง่ายแต่ผลพวงที่ตามมาคือเวลาไปเล่นคอนเสิร์ตแล้วเหนื่อยมากๆขึ้นรถมาแล้วร้องไห้เพราะความเหนื่อยพอทำงานเยอะๆแล้วรู้สึกว่าเราทำเพื่อใครต้องการเองจริงๆเหรอ แล้วพอรู้สึกว่าไม่มีทำไมเราไม่ทำเพื่อตัวเองบ้าง พอขึ้นรถมารู้สึกว่างเปล่าในความเป็น โอ๊ต ปราโมทย์ จริงๆ เวลาผมไม่ทำงาน ผมเป็นคนนิ่งมาก มีกรอบ มีพื้นที่ส่วนตัวสุดๆ แม้กระทั่งก่อนผมเล่นคอนเสิร์ตพี่เชื่อไหมผมไปหลังเวที ผมนั่งแม้กับวงผมยังไม่ค่อยคุยเลยพอเดินขึ้นไปร้องสวิตช์ตัวเองเป็นคนสนุกลงจากเวทีถ่ายรูปถอดหูฟังใส่แมสขึ้นรถนั่งน้ำตาไหลบ่อยมาก เพราะว่าสิ่งที่อยู่บนเวทีให้ไปหมดแล้ว ผมเอา Happymeal มาเสิร์ฟ พอขึ้นรถหมดว่างเปล่า
สามารถติดตาม Woody FMได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธเวลา 19.00 น.
คลิกชมย้อนหลัง :https://www.youtube.com/watch?v=0rtn-PVvgxE
#WoodFM#วู้ดดี้เอฟเอ็ม
สามารถติดตามและอัปเดตข่าวสาร รายการ WOODY FM
Facebook: Woody - Instagram: Woodytalk - YouTube: Woody - Twitter: @Woodytalk
TikTok: woodywoody- LINE: @woodytalk
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี