อีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่พร้อมนำเสนอผ่านบทละคร “ซุปตาร์ 2550” คงหนีไม่พ้นในส่วนของบทละคร ที่ผู้จัด “หน่อย-บุษกร” ส่งการบ้านให้คนเขียนบท “เอกลิขิต” นำเสนอมุมมองความรักใหม่ๆ ที่สังคมเริ่มเปิดกว้างขึ้น อย่างเรื่องราวความรักเท่าเทียมทุกเพศทุกวัย ละครเรื่องนี้เลยกล้าที่จะแตกต่าง มีตัวละครสำคัญอย่าง ริศา (ปูเป้-รามาวดี) อดีตภรรยาเก่า ริว-ธีรเดช (เคน-ธีรเดช) จบความสัมพันธ์กับแฟนซุปตาร์ ไปเริ่มต้นรักครั้งใหม่กับ หมอเฟี๊ยต (หมอเจี๊ยบ-ลลนา) สร้างความรัก LGBTQ ผ่านหน้าจอทีวีในยุค 2565 ด้านผู้จัดคนเก่ง “หน่อย-บุษกร” ตั้งใจถ่ายทอดมุมมองความรักไม่จำกัดเพศไว้ว่า
“เป็นความตั้งใจของทีมเราที่อยากจะนำเสนอความรักเท่าเทียมก็ต้องบอกว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะรัก ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน แบบไหนก็ได้ ความรักมันไม่จำกัดนิยาม อาจจะเริ่มจากเพื่อนก่อนและพัฒนากันไปเหมือน ซึ่งการทำงานละครเรื่องนี้เราเริ่มจากการคุยกันกับคนเขียนบท อยากนำเสนอจากเรื่องราวจริงๆ จากเรื่องของคนรอบตัวเรา เพราะว่าพี่สาว น้องสาวคนรอบตัวเรา เป็นแบบนี้ สำหรับชีวิตคู่วันนึงเค้าอยู่ด้วยกันมันก็อาจจะไม่ใช่จริงๆ พอวันนึงเค้าเปลี่ยน ก็อาจจะเจอในสิ่งที่ใช่สำหรับเค้า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกนึงที่เรานำเสนอ อย่างตัวละครในเรื่องเค้ามีอาชีพการงานที่ดี เค้ามีสิทธิ์ที่จะรักเพศเดียวกัน แฟนๆที่ได้ดูแล้วก็บอกว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกมันเป็นเรื่องที่มีอยู่จริงๆ ในสังคม และก็อย่ามองว่ามันเป็นเรื่องแปลก ตอนนี้มันเป็นเรื่องปกติแล้ว ก็อยากให้ทุกคนเปิดใจ ความรักเป็นสิ่งที่ดี อย่าไปปิดกั้น ถ้าปิดกั้นจะเป็นอะไรที่น่าสงสารนะ เค้าไม่ได้ผิดนะ เค้ารักกันได้”
ฟากอีกหนึ่งคนสำคัญ “ปูเป้-รามาวดี” เล่าว่าเล่นละครเรื่องนี้แล้วเขินมาก “ละครเรื่องนี้น่ารักมากค่ะละครมีการยอมรับและเปิดกว้างสำหรับ LGBTQในมุมของพี่มนุษย์อ่ะ มันต้องการ การยอมรับอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นเพศไหน สำหรับละครเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ซัพพอร์ตทางด้านจิตใจของกลุ่ม LGBTQ ด้วยเราไม่ได้ต่าง เราก็มีพื้นที่ เข้าใจกัน คุยกันได้ เล่นเองก็เขินเองอ่ะ โลกมันเปิดกว้างขึ้น อยากให้ทุกคนเห็นค่าของตัวเองเดี๋ยวคนอื่นก็จะยอมรับมันเอง ดีใจที่มีส่วนร่วมกับละครซุปตาร์2550
ปิดท้ายที่ “หมอเจี๊ยบ” ที่รู้สึกขอบคุณผู้จัดและทีมงานที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กลุ่มคนหลากหลายทางเพศ“ต้องขอบคุณพี่หน่อย ที่ทำละครช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กลุ่ม LGBTQ ยุคสมัยนี้มันเปลี่ยนไป บ้างกลุ่มก็อาจจะไม่ยอมรับ แต่ว่าอันนี้ก็อาจจะทำให้เค้าเปิดใจมากขึ้น เกิดการยอมรับจริงๆ มันอยู่ที่หัวใจ ความรักมันไม่สามารถดีไซน์ได้ มันจะเกิดขึ้นมันไม่มีเงื่อนไขค่ะ ผู้ใหญ่หลายๆ คน ชอบคิดว่าเดี๋ยวโตขึ้นก็หาย เดี๋ยวมีแฟนเป็นผู้ชายก็หาย มันไม่ใช่โรคอ่ะ การเป็น LGBTQ มันไม่ใช่โรคค่ะ ผู้ปกครองที่มีลูกอยู่แล้วเค้าเป็น LGBTQ หรือว่าไม่ใช่ชายจริงหญิงแท้ ยอมรับเค้าเถอะค่ะอย่าไปคาดหวังหรือว่าไปกดดันเค้า สักวันต้องหาย หรือเธอโตขึ้น หรือเธอย้ายโรงเรียนเดี๋ยวเธอก็เปลี่ยน เพราะเจี๊ยบก็เคยเจอแม่บอกว่าเดี๋ยวเจี๊ยบก็เปลี่ยน มีแฟนเป็นผู้ชาย แต่จริงๆ เจี๊ยบก็มีความสุขอย่างที่เจี๊ยบเป็น และประสบความสำเร็จในแบบเจี๊ยบ อย่ามองว่าเค้าเป็นโรค เค้าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน อย่าบังคับให้เค้าเปลี่ยนตัวเอง อยากให้ทุกคนรักในตัวเองและเห็นค่าของตัวเอง”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี