Blue Again คือหนังไทยเรื่องเล็กๆ แต่คุณภาพคับแก้วหนังขนาดยาวเรื่องแรกของผู้กำกับหญิง ฐา-ฐาปณี หลูสุวรรณที่ถูกเลือกให้เข้าร่วมในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน ครั้งที่ 27(Busan International Film Festival : BIFF) ได้รับเลือกให้เข้าชิงในสาขา New Currents ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับผู้กำกับหน้าใหม่ ก่อนจะกลับมาเปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพฯ (World Film Festival of Bangkok) ครั้งล่าสุดฐาปณี หลูสุวรรณ เหมาทำหลายๆ หน้าที่ในหนัง โดยเฉพาะงานหลักๆ คือ กำกับและเขียนบทภาพยนตร์ ใช้เวลาในการปลุกปั้นงานชิ้นนี้ ค่อยๆ ทำไปนานกว่า 8 ปี จากหนังที่ตอนแรกวางไว้แค่ 1 ชั่วโมง จนได้หนังที่มีความยาว ยาวถึง 5 ชั่วโมง ก่อนที่จะตัดเหลือ 3 ชั่วโมงต้องชม ฐาปณี ที่ทำให้ Blue Again ออกมาเป็นหนังไทยที่ลงตัวในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านโปรดักชั่น งานด้านภาพ การตัดต่อการบันทึกเสียง บทหนัง ดนตรีประกอบ เครื่องแต่งกาย รวมไปถึงการแสดงที่ทำได้ดี ทั้งนักแสดงนำหรือสมทบ Blue Again ใช้วิธีการเล่าเรื่อง ตัดสลับไปมา 2 เหตุการณ์ ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยตั้งแต่ ปี 1-4 เน้นๆ ความสัมพันธ์กับ แพร สลับกับช่วงคริสต์มาสที่ เอ กลับไปบ้านที่สกลนคร ได้เจอกับ สุเมธ เพื่อนเก่าเพียงคนเดียวในหมู่บ้าน และรู้เรื่องราวปมในใจของแม่เธอ
สิ่งที่ Blue Again พูดถึงชัดเจนเน้นๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ คือ การบูลลี่ในสังคม ทั้งในชีวิตจริงและในโซเชียล หนังวางให้เกิดขึ้นในช่วงปี 2011-2014 นอกจากนี้ ยังแทรกประเด็นทางการเมืองใส่เข้ามาเป็นระยะๆ ใน Blue Again มีฉากดราม่า ขยี้อารมณ์ เรียกน้ำตา ที่มีทั้งปริ่มๆ ซึมๆ ไปจนถึงปล่อยโฮออกมาโดยไม่บีบคั้นอะไรมากมาย ใช้การแสดงที่ดูเป็นธรรมชาติ เนื้อเรื่องที่ค่อยๆ ทำให้เราผูกพัน ตามดูความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ พัฒนา มีการเปลี่ยนของแต่ละตัวละครมากระตุ้นต่อมน้ำตาของคนดู Blue Againเลือกใช้นักแสดงโนเนมที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยดูมาก่อนมารับบทในเรื่อง และทุกคนเล่นดี รับ-ส่งบทกันไปมา การแสดงร่วมกันเป็นทีมกลายเป็นจุดเด่นจุดแข็งของหนังเรื่องนี้
ตะวัน จริยาพรรุ่ง แบกหุ่นรูปร่างใหญ่แบบสาวลูกครึ่งรับบท เอ ได้อย่างมีพลัง แบกหนังเอาไว้คนเดียว แสดงเหมือนไม่ได้แสดง ทำได้ดี การแสดงภายนอกที่ชัดเจน หรืออินเนอร์ภายในที่ค่อยปล่อยออกมา อสมาภรณ์ สมัครพันธ์ สวมบทแพร หรือหมวยตลาดน้อย ดูธรรมชาติมาก มีทั้งความเป็นสาวติสๆ ในแนวเด็กอาร์ตเด็กศิลป์ มีความเป็นลูกไล่ของเพื่อนๆดูเป็นมิตรกับทุกๆ คน สบายๆ การแสดงกำลังดี ศรัณย์เมศรัตนพงษ์ ในบท สุเมธ แรกๆ ดูเฉยๆ ธรรมดาๆ แต่ยิ่งดูไปๆในความนิ่งนั้นกลับมีเสน่ห์ กลายเป็นดูดีขึ้นมา ณพรรธน์ตรีผลาวิเศษกุล ในบท กัน หนุ่มคอสเพลย์ในคณะที่อยู่คนเดียว ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อน แต่ไปๆ มาๆ กลับดูจริงใจ มีความเป็นเพื่อนมากกว่าคนอื่นๆ บทไม่เยอะแต่ออกมาทีไรเด่นทุกที Blue Again คือหนังไทยเล็กๆ ที่ดีงาม ดูสมบูรณ์ลงตัวไปในทุกๆ ด้าน นานๆ จะมีงานดีๆ งานหนังนอกกระแสที่โดนใจ ประทับใจออกมาให้ชอบสักเรื่องหนึ่ง Blue Again คือหนังไทยที่ดีที่สุดในรอบปี 2565ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองมาดูกันจริงๆ อยากจะให้ 10/10 คะแนน แต่ติดแค่ช่วงท้ายเกี่ยวกับเรื่องศาสนา ที่หนังขัดอกขัดใจ เหลือแค่9.5/10 คะแนน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี