แบรนด์ It’S SKIN เดินหน้าจัดกิจกรรมต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับได้สนุกสุดฟินกับพรีเซนเตอร์คู่แรกในไทย “มีน -นิชคุณ ขจรบริรักษ์ -ปิง-กฤตนัน อัญชนานันท์”   แบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ กับงาน It'S SKIN x MeenPing Color on You เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566 ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ห้างสรรพสินค้าสยามสแควร์วัน ชั้น 7 พร้อมเชิญชวนให้สัมผัส  Power 10 Formula Effector Advanced เซรั่ม 10 สูตรใหม่ ที่ตอบโจทย์ได้ครบ จบทุกปัญหาผิว  คาดหวัง 2 พรีเซนเตอร์หน้าใส หนุ่ม “มีน-ปิง"  กระบอกเสียงช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ ดันยอดขายปีนี้ โตก้าวกระโดด 50%  

นางสาวศศิบุษย์ มานะนาวิกผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(CEO) บริษัท โคเรีย กู๊ดส์ จำกัด กล่าวว่า   ตนเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำหน้าที่ได้ประมาณ 2 ปี แต่บริษัท โคเรีย กู๊ดส์ จำกัด เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ It’S SKIN ผลิตภัณฑ์กลุ่มสุขภาพความงามจากประเทศเกาหลี แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยมานานกว่า 10 ปี โดยตนและพนักงานกว่า 50 ชีวิตพร้อมร่วมมือไปสู่เป้าหมายเดียวกันเพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทและแบรนด์ It’S SKIN  ซึ่งได้รับความนิยมในกลุ่มชาวไทย จากการมีผลิตภัณฑ์หลากหลายให้ใช้ได้ครอบคลุมตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น  นักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงานไปจนถึงผู้สูงวัย โดยเฉพาะในกลุ่มเซรั่มบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30-40%

“ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์สุขภาพ-ความงามในปัจจุบัน จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ต้องใส่หน้ากากอนามัย ทำให้หลาย แบรนด์หันมาให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ทำให้เทรนด์ผลิตภัณฑ์มุ่งไปทางด้านดูแลผิวบอบบาง เป็นสิว แพ้ง่าย ขาวใส สำหรับเซรั่มเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมหลากหลายและค่อนข้างบูมมากในไทย ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ”  
เดิม It’S SKIN มีเซรั่ม 13 สูตร แต่ต่อมาได้มีการปรับสูตรใหม่ เป็นเซรั่ม 10 สูตรใหม่  Power 10 Formula Effector Advanced โดยที่ 13 สูตรเก่าไม่มีการผลิตแล้ว  เป็นการปรับให้ดียิ่งขึ้น มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มส่วนผสมสำคัญลงไป มีโมเลกุลละเอียด ทำให้สามารถซึมผ่านผิวได้เร็วขึ้น แม้อยู่ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นหรือร้อนมาก ๆ  ตัวอย่างส่วนผสมในเซรั่มใหม่ อาทิ สูตร VC  มีสารจากมะเขือเทศอ่อนสีเขียวที่มีอายุยังน้อยก่อนเก็บเกี่ยว มีวิตามิน C ,E และสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ ช่วยทำให้ผิวแลดูขาว ใส ,สูตร YE เป็นบูสเตอร์ เซรั่มปรับสภาพผิว สมานผิว  ทำให้ผิวแข็งแรง นุ่ม อิ่มฟู สูตรนี้มีส่วนผสมของจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส และสูตร LI มีส่วนผสมของสาร Licorice Extracts จากรากชะเอมเทศ สำหรับผิวแพ้ง่าย เป็นต้นการปรับสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ สอดคล้องกับการที่ทางบริษัทมีความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้ผลิตในเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ชาวไทย ความเหมาะสมกับสภาพอากาศที่ร้อนในไทยและสภาพผิวที่มีสิวขึ้นง่าย มลภาวะ ฝุ่นPM2.5 และกระแสนิยมผิวขาว ใส อีกทั้งเป็นไปตามเทรนด์หรือทิศทางของตลาด  

คุณศศิบุษย์  กล่าวต่อว่า  แบรนด์ IT's SKIN มีจุดเด่นที่มีความคลีน และเห็นผลรวดเร็ว มีส่วนผสมจากธรรมชาติและผลิตจากโรงงานที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน การดึง 2 หนุ่มน้อยหน้าใส “มีน -นิชคุณ ขจรบริรักษ์ -ปิง-กฤตนัน อัญชนานันท์”  มาเป็นพรีเซนเตอร์ของไทยครั้งแรก เนื่องจากมีภาพลักษณ์ที่เหมาะสมเป็นตัวแทนของแบรนด์ ด้วยดูสะอาด สุขุม เรียบร้อย และมีความน่ารัก สดใส และคาดหวังว่า ทั้ง 2 คนนี้จะช่วยเป็นกระบอกเสียง ทำให้เกิดการบอกต่อให้ผลิตภัณฑ์เซรั่มสามารถขยายฐานเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มแฟนคลับของมีน-ปิงและคนรู้จักอื่น ๆ  ซึ่งจะช่วยชดเชยการสูญเสียกลุ่มลูกค้าเดิมที่หันไปหาแบรนด์อื่น ๆจากการที่ไม่คุ้นชินกับเซรั่มสูตรใหม่ได้

ด้าน "มีน-ปิง" กล่าวแสดงความยินดีที่ได้รับเลือกเป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ It’S SKIN ยอดนิยมและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมจัดเต็มโชว์สุดพิเศษให้กับแฟนคลับที่เข้าร่วมงาน  และเชิญชวนให้สนับสนุนผลิตภัณฑ์ของ It’S SKIN ซึ่งทั้งสองคนได้ทดลองใช้เซรั่มสูตรใหม่ช่วยดูแลผิวหน้าของตัวเองแล้วถูกใจ โดย ปิงใช้สูตร VC  มีนใช้สูตร YE เซรั่มขวดสีส้ม และ LI สำหรับผิวแพ้ง่ายนอกจากเซรั่ม 10 สูตรแล้ว ในสัปดาห์หน้า It’S SKIN เตรียมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 อย่าง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์คอลลาเจนเปปไทด์ ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้น ดูแลผิวให้แลดูอ่อนวัย ,ผลิตภัณฑ์ไฮยาลูรอนิก ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น แข็งแรง ขาวใสและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากเมือกหอยทากที่อุดมด้วยคอลลาเจนและสารมิวโคโพลีแซคคาไลด์ ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน ส่วนผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่จะเปิดตัวตามมาอีกในปีนี้มีอีก 3-4 อย่าง รวมถึงโฟมล้างหน้า ที่จะออกมาราวไตรมาสที่ 4 สำหรับแผนการรุกตลาดในครึ่งหลังของปี 2566 นั้นคุณศศิบุษย์กล่าวว่า ได้จัดงบประมาณด้านการตลาดจากเดิม 40%  โดยจะพยายามรุกคืบทำการตลาดอย่างเข้มข้นขึ้นเพื่อเข้าถึงลูกค้าเพิ่ม เน้นด้านออนไลน์และโซเชียลหลังจากมองว่า  2 ปีที่ผ่านมาในช่วงสถานการณ์โควิด-19 การทำตลาดยังไม่เพียงพอ ยังต้องปรับเนื้อหาให้หลากหลาย พร้อมเพิ่มเทคนิคใหม่ ๆ ผ่านทางโซเชียล รวมTIK TOK แต่ขณะเดียวกัน ไม่ได้ทิ้งด้านออฟไลน์  โดยจะจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ กิจกรรมหน้าร้านมีตัวอย่างสินค้าให้ลูกค้าไปทดลองใช้ก่อน จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่  ลูกค้าเดือนเกิดให้ส่วนลด50% กิจกรรมเวิร์คช้อป นวดหน้าที่สาขา เป็นต้น  โดยตั้งเป้าว่า ในปี 2566 นี้จะมียอดขายรวมที่ 150 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 50%   ผู้สนใจผลิตภัณฑ์สามารถสั่งซื้อได้ผ่านทางช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีร้านอยู่ในห้างสรรพสินค้า 7  สาขา