เป็นพระเอกที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก สำหรับ “วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร”พระเอกลูกรักทางช่อง GMM25 ทั้งฝีมือการแสดงและรูปลักษณ์ที่ชวนให้หลงใหล ถึงแม้ “2gether The Series” จะจบลงไปนานแล้วแต่เขาก็ยังยืนหนึ่งทั้งผลงานการแสดงและโซเชียลที่มีกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม ล่าสุดกับผลงาน “Enigma คน มนตร์ เวท” ทาง Prime VDO ที่ประกบนางเอกหน้าสวย “พรีม-ชนิกานต์” และที่น่าจับตามองกับอนาคตพระเอกคนนี้ที่จะโลดแล่นสู่อินเตอร์ จากการเป็นนักแสดงไทยคนแรกที่ถูกแต่งตั้งให้เป็น Brand Ambassador ของแบรนด์หรู Prada เรียกได้ว่ายืนหนึ่ง ยืนสุด ตัวตึงลูกรัก ของตึกดังย่านอโศกจริงๆ
ทำไมถึงตัดสินใจรับเล่นซีรี่ส์เรื่องนี้
จริงๆ ตอนแรกผมมีโอกาสได้อ่านทรีตเมนต์ (โครงเรื่อง) ก่อนครับ ทางทีมงานส่งมาให้ผมดูก่อนว่าคิดเห็นยังไง พอเราได้อ่านตั้งแต่ตัวทรีตเมนต์แล้วเรารู้สึกว่า เฮ้ย มันสนุกมากเลย ขนาดตัวบทยังไม่ออกมายังขนาดนี้ แล้วด้วยความที่มันมีแค่ 4 ตอน แต่ผมคิดว่ามันเป็น 4 ตอนที่เข้มข้นมากจริงๆ มันน่าติดตามไปหมดเลย คือเราไม่สามารถพลาดช่วงใดช่วงหนึ่งของเรื่องได้เลยเพราะว่าทุกอย่างมันร้อยเรียงมาได้น่าติดตาม น่าค้นหา น่าตื่นเต้นตลอด ทำให้เราคิดอยู่ตลอดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อ ผมคิดว่านั่นคือจุดที่น่าสนใจของมัน เรารู้สึกว่าถ้าเราอ่านเรื่องไหนแล้วเราเองยังรู้สึกว่าน่าติดตาม มันก็น่าจะออกมาดี ก็เลยตัดสินใจรับเล่นเรื่องนี้ อีกเหตุผลนึงก็น่าจะเป็นเรื่องคาแร็กเตอร์ที่เราไม่เคยรับบทบาทแบบนี้มาก่อนเลยด้วยครับ
Enigma คน มนตร์ เวท ดูเป็นผลงานที่ฉีกจากเรื่องก่อนๆ ในเรื่องนี้ทำให้วินพัฒนาขึ้นยังไงบ้าง
ผมว่าผมพัฒนาขึ้นในเรื่องของการแสดงอย่างเรื่องก่อนหน้านี้มันเป็นอะไรที่เราสามารถเชื่อมโยงกับชีวิตจริงได้ สามารถดึงเรื่องราวในชีวิตจริงมาใช้ในการแสดงได้ แต่พอเป็นเรื่องนี้ผมรู้สึกว่ามันคนละโลกกับโลกที่เราอยู่เลยเพราะฉะนั้นเราก็เลยต้องทำแบ๊กกราวนด์ของตัวละคร แล้วก็สร้างคาแร็กเตอร์ของตัวละครให้ชัดเจนมากๆ ก็เลยรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่ทำให้เราพัฒนาขึ้นในเรื่องการแสดงขึ้นไปอีกขั้นนึง
วินมีชื่อเสียงจากซีรี่ส์วาย มาถึงซีรี่ส์เรื่องล่าสุดนี้ เป็นยังไงบ้าง
สำหรับผม ในเรื่องการแสดงผมมองว่าไม่ต่างกันนะครับ เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ทำการแสดงเหมือนๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ส์วาย ซีรี่ส์ชาย-หญิง หรือซีรี่ส์หญิง-หญิง ผมมองว่ามันไม่ได้แตกต่างกัน ไม่ได้ต้องมองว่าอันนี้เป็นซีรี่ส์วาย เราต้องรู้สึกอีกแบบนึงนะ เพราะว่ามันเป็นการแสดงที่เราเข้าไปเป็นตัวละครนั้นเหมือนกัน
ได้กลับมาร่วมงานกับพรีมอีกครั้ง
ดีใจครับที่ได้กลับมาร่วมงานกับน้องพรีมอีกครั้งครับ เพราะจริงๆ เราเคยเล่นด้วยกันมาแล้วหนึ่งเรื่อง แล้วก็รู้สึกว่าเคมีของเราสองคนเป็นไปในทิศทางที่ดีมากๆ ครับ แล้วพอได้กลับมาเล่นอีกครั้งนึงมันเหมือนเรารู้จังหวะ รู้วิธีการเล่นของกันและกันอยู่แล้ว มันเลยทำให้การทำงานลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
วิน รับบทเป็น อาจิน
อาจิน เป็นคนที่มีเป้าหมายชัดมากว่าฉันใช้ชีวิตอยู่ทุกวันนี้เพื่อทำอะไร เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาทำ สิ่งที่เขาเจอ มันก็จะมุ่งตรงไปที่เป้าหมายนั้น เขาจะเป็นคนเป้าหมายชัดเจน จริงจัง ดุดัน แล้วก็อาจจะมีพาร์ทที่ปากร้ายนิดหน่อย เพราะว่าเรื่องราวที่เขาเจอมามันอาจจะไม่ได้สวยงามสักเท่าไรเพราะฉะนั้นในเรื่องทัศนคติของเขา ในบางเรื่องเขาอาจจะไม่ได้มองโลกในแง่ดีขนาดนั้น
รู้สึกยังไงบ้างกับบทนี้
ผมรู้สึกว่าเขามีเสน่ห์และน่าดึงดูดมาก อย่างที่บอกว่าโลกที่เขาอยู่ เป้าหมายที่ชัดเจนในความจริงจังดุดันของเขา แต่ว่าเขาก็มีมุมที่อ่อนโยนกับคนใกล้ตัวเขา มันก็ดูเป็นความต่างที่น่าสนใจ
เรื่องนี้เกี่ยวกับไสยศาสตร์ มีการเตรียมตัวในการรับบทนี้ยังไงบ้าง
ตอนแรกผมได้คุยกับผู้กำกับด้วยเหมือนกันครับ ว่ามันพอจะมีหนังเรื่องไหนไหมที่ใกล้เคียงกับบทนี้ เราจะได้เห็นภาพคร่าวๆในหัวก่อนว่ามันจะเป็นประมาณไหน เราก็ลองไปดูเรื่องเหล่านั้น แล้วก็มีการทำเวิร์กช็อปเยอะมากก่อนที่จะเข้าเป็นตัวละครตัวนี้ แล้วก็มีการไปหาข้อมูลเกี่ยวกับไสยศาสตร์ ได้มานั่งคุยกันเกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นว่าจริงๆ แล้วไสยศาสตร์มันเป็นยังไงบ้าง
ส่วนตัวเป็นคนเชื่อเรื่องไสยศาสตร์หรือเปล่า
เชื่อนะครับ แต่ว่าไม่ได้งมงาย ไม่ได้อยู่ในทุกส่วนของชีวิตขนาดนั้น ยังเป็นคนเชื่อในวิทยาศาสตร์ด้วย แล้วก็เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ด้วยนิดหน่อย เช่นเรื่องเบอร์โทรศัพท์ ทะเบียนรถ หรือว่าเลขที่ห้อง เริ่มไม่นิดหน่อยแล้ว (หัวเราะ) ผมก็จะซีเรียสกับมันนิดนึง เพราะรู้สึกว่าพอเราใช้เลขที่มันถูกกับเราแล้วมันดี
ระหว่างถ่ายทำเจออะไรลึกลับบ้างหรือไม่
ต้องบอกว่าไม่มีเลยครับ แล้วก็โชคดีแล้วที่ไม่มี (หัวเราะ) เพราะเวลาเราไปถ่ายทำแต่ละโลเกชั่นเราก็จะมีการไหว้ขอพื้นที่ทุกครั้ง ก่อนเปิดกล้องเราก็มีโอกาสได้มารวมกันทำพิธีเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยในการเปิดกล้องด้วย
อยากให้คนจดจำการแสดงของ ‘วิน’ ครั้งนี้ และบท ‘อาจิน’ ยังไง
สำหรับบทอาจิน คือต้องบอกว่าด้วยเนื้อเรื่องทั้งหมดในซีรี่ส์นี้มันน่าสนใจมากๆ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่คนไม่ค่อยได้เจอ แล้วก็ไม่รู้ว่ามันอาจจะมีอยู่จริงก็ได้ ดังนั้นเนื้อเรื่องมันน่าสนใจของมันอยู่แล้ว แต่ถ้ามองในมุมตัวละครผมว่าด้วยคาแร็กเตอร์ที่ดุดัน เอาจริง แล้วก็ฉลาดของเขา ในการคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าไปก่อนหนึ่งสเต็ป ผมคิดว่านั่นก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับอาจิน เพราะว่าเขาฉลาด ส่วนเรื่องการแสดง ด้วยความที่ตอนนี้คนเชื่อว่าผมเป็น “ไทน์” ในเรื่อง 2gether The Series ไปแล้วเพราะว่าคนได้ดูเรื่องนั้นเยอะ ทำให้คนรู้สึกว่าถ้าเป็นบทไทน์ คนเล่นก็ต้องเป็นวิน ดังนั้นเป้าหมายที่ผมอยากทำคือ ผมอยากจะสร้างอีกหนึ่งบทบาทหรืออีกหลายบทบาท ที่พอคนเห็นคาแร็กเตอร์นี้ปุ๊บก็คิดเลยว่าคนเล่นต้องเป็นเรา ไม่มีใครเหมาะสมเท่าเราแล้ว ทุกเรื่องที่เราเล่น แน่นอนครับว่าคาแร็กเตอร์มันจะต้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่เราถ้าเราสามารถทำให้ทุกเรื่องที่เราเล่น คนจำได้ว่าคาแร็กเตอร์นี้ต้องเป็นวินเท่านั้นที่เล่น ก็แปลว่าเราประสบความสำเร็จในการแสดงเรื่องนั้น
คิดว่ากระแสตอบรับของซีรี่ส์เรื่องนี้จะเป็นยังไง และคาดหวังกับผลงานเรื่องนี้แค่ไหน
ผมว่าทั้งทีมงานและนักแสดงทุกคน เราตั้งใจทำงานกันมากๆ เต็มที่กับมันมากๆ เราใส่ใจในทุกรายละเอียดของเรื่องนี้มากๆ แน่นอนว่าเราก็อยากให้คนดูมีความสุขกับสิ่งที่เราผลิตให้ทุกคนได้รับชมกันครับ หลักๆ คือผมอยากให้ทุกคนสนุกไปกับซีรี่ส์ที่เราตั้งใจทำมากๆ ครับ
รู้สึกว่าตัวเองเติบโตขึ้นยังไงบ้างในแง่มุมการแสดง กล้าออกจากเซฟโซนมากขึ้นไหม มีวิธีเลือกรับบทบาทยังไง
คือก่อนหน้านี้ที่ผมเล่นเรื่อง “2gether The Series” กับเรื่อง “Devil Sister” คาแร็กเตอร์ในเรื่องจะใกล้เคียงกัน คือเป็นผู้ชายน่ารักๆอ่อนโยน นุ่มนิ่ม แต่การที่เราได้ลองพยายามเข้ามาในคาแร็กเตอร์ใหม่ๆ มากขึ้น ก็ทำให้รู้สึกว่าจริงๆ แล้วเราสามารถเล่นบทที่มีความจริงจังและดุดันได้ คนดูก็จะได้เห็นคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างไปจากภาพที่เขาคิดในเรื่องนี้เลย ส่วนเรื่องวิธีเลือกรับบท ผมว่าอย่างแรกเลยคือต้องอ่านแล้วสนุกก่อน ถ้าขนาดแค่เราอ่านแล้วรู้สึกว่าน่าติดตาม น่าสนุก ก็ถือว่าน่าสนใจ แล้วเราก็ไปดูองค์ประกอบต่างๆ ว่าทีมงานเป็นใครบ้าง รวมถึงช่องทางต่างๆ ที่จะออนแอร์ ก็เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เราอยากรู้ว่าแพลนใหญ่ทั้งหมดเป็นยังไง แต่ผมว่าเรื่องหลักคือต้องอ่านแล้วสนุกก่อน
คิดยังไงกับซีรี่ส์ในยุคที่ออนแอร์ทางแอปที่มีตัวเลือกนอกเหนือจาก TV
รู้สึกดีครับที่ซีรี่ส์มันจะไปอยู่บนแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อการเข้าถึงของคนดูทั้งในและต่างประเทศเพราะว่ายุคสมัยนี้คนก็จะอยู่กับแพลตฟอร์มค่อนข้างเยอะ ก็คิดว่าเป็นเรื่องดีครับที่ต่างประเทศจะได้เห็นซีรี่ส์คุณภาพดีๆ แบบนี้ของไทย
วางอนาคตในวงการบันเทิงไว้ยังไงบ้าง
ผมรู้สึกว่า ณ ตอนนี้คอนเทนต์ของประเทศไทยมีคุณภาพมากๆ แล้วก็เป็นที่ยอมรับของต่างชาติมากยิ่งขึ้นมากๆ ผมเลยรู้สึกว่าในอนาคตเราอยากจะได้ร่วมงานกับต่างประเทศมากขึ้น ทำให้เขาได้เห็นผลงานของเราและรู้จักเรามากยิ่งขึ้นครับ นี่คือแผนใหญ่ๆ ที่วางไว้
มองอนาคตสู่ระดับอินเตอร์
ผมอยากจะร่วมงานกับต่างชาติ ทั้งในส่วนของซีรี่ส์ ภาพยนตร์ รวมถึงเพลงด้วยครับ เป็นเป้าหมายหลักที่บอกไปตั้งแต่แรกเลยครับว่าอยากจะทำงานร่วมกันกับคนต่างชาติ
อยากทำอะไรอีกบ้างที่ยังไม่ได้ทำ
ถ้าเป็นเรื่องในวงการ ผมคิดว่าได้ทำมาเกือบหมดทุกอย่างแล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องนอกวงการ จริงๆ ผมเป็นคนที่ชอบธุรกิจ ผมรู้สึกว่าถ้าไม่ได้ทำงานในวงการ ก็คงจะไปสายธุรกิจ ทั้งในส่วนที่เรากำลังทำอยู่เอง ทั้งเสื้อผ้า ขนมมาการอง ไอศกรีม ก็คงจะไปโฟกัสตรงนั้นมากขึ้นแล้วก็ถ้ามันมีโอกาสหรือช่องทางอะไรในการทำธุรกิจมากขึ้น ก็อาจจะกระโดดเข้าไปในธุรกิจนั้นด้วย
สุดท้ายอยากให้ ‘วิน’ ฝากผลงาน
ผมว่ามันเป็นซีรี่ส์ที่ทันสมัยในเรื่องของไสยศาสตร์มากๆ ครับ คือมันไม่ใช่ไสยศาสตร์รูปแบบเก่าๆ ที่มีการนั่งสมาธิ สวดมนต์ อะไรแบบนี้ แต่นำเสนอออกมาในรูปแบบใหม่ ทำให้คนสามารถเข้าใจโลกของไสยศาสตร์มากยิ่งขึ้น ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้เลย แต่พอได้อ่านบท ได้มาทำการบ้านเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้เรารู้สึกว่า เฮ้ย !! บางทีมันก็อาจจะมีโลกแบบนี้อยู่จริงๆ ก็ได้นะ มันอาจจะมีคนแบบนี้อยู่จริงๆ เพียงแต่ว่าเราไม่ได้รู้จักคนกลุ่มนั้น อีกเรื่องนึงคือซีรี่ส์เรื่องนี้ทุกคนตั้งใจและเต็มที่มากๆ ถึงแม้จะมีแค่ 4 ตอน แต่คิวที่เราถ่ายมันเหมือนถ่ายซีรี่ส์ 10 กว่าตอนเลย เพราะว่าเราใช้เวลาถ่ายแต่ละซีนกันนานมากๆ เราพยายามทำมันออกมาให้ดีที่สุด ทั้งในเรื่องของภาพ เรื่องของการแสดง องค์ประกอบทุกอย่าง เราเต็มที่กันทุกคนเลยครับ
@jeffmarajeff
เจฟฟ มารา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี