เปิดฉากบู๊ระห่ำ กระหน่ำฮา ฝ่าดงกระสุนและระเบิด ไปกับทีมพระเอก 4 สายลับสุดหล่อ ใน #ละครเวิร์คพอยท์ ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์-พุธ เวลา 1 ทุ่มตรง ทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 กับแนวแอ๊กชั่น ดราม่า ฮาสาดกระสุน คอเมดี้ ที่กำลัง เป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ สำหรับ “เสือตัดสิงห์ลิงหลอกเจ้า” ผลงานละครเรื่องที่ 5 ที่เป็นแนวบู๊เรื่องแรกของปีนี้ ที่บริษัท เวิร์คพอยท์เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ทุ่มทุนสร้าง และตั้งใจทำเพื่อแฟนละครคอบู๊ ที่การันตีความบู๊สนั่นหน้าจอทีวี โดยผู้กำกับฯ มากฝีมือ“สโนวี่-สพัฌ วิไชยเมธา” ซึ่งหลังจากที่ออกอากาศไปเพียง 2 สัปดาห์ ก็สาดความมันส์กันแบบเต็มที่ โดยแอบกระซิบมาว่า นอกจากคิวบู๊สุดมันส์แล้ว ยังมีความสนุกอีกหลากแง่มุมที่จะทวีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อยๆ จนจบ
ซึ่งงานนี้ “ผู้กำกับฯ สโนวี่” เผยว่า... ต้องขอบอกก่อนเลยครับว่า ละครเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนทำงาน เตรียมงานถ่ายทำ หรือแม้แต่ตอนที่ตัดต่อออกมาเป็นละครให้แฟนๆ ได้ชมกัน ผมรู้สึกแฮปปี้กับทุกโมเม้นท์มากครับ แถมยังได้รับเสียงตอบรับอย่างดีมากๆ ได้รับคำชมจากผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน ทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจและปลื้มใจมาก อย่างตอนถ่ายทำเราก็เต็มที่กันหมดทุกฝ่าย นักแสดงเองก็มีส่วนสำคัญอย่างมาก เป็นการทำงานที่สนุก และฮามากๆ หลายคนในเรื่องนี้ผมเองก็เพิ่งจะมีโอกาสได้ร่วมงานด้วยเป็นครั้งแรก แต่ทุกคนก็คือมืออาชีพหมด ได้แลกเปลี่ยนไอเดียกันตลอดการทำงาน ทำให้งานออกมาดีและรวดเร็วมาก ตอนนั้นพวกเราก็ค่อนข้างลุ้นนะครับ ว่าคนดูจะชอบไหม นักแสดงทุกคนก็เต็มที่มากๆ ฉากแอ๊กชั่นต่างๆ เราก็เต็มที่กันจริงๆ ใช้กระสุนและระเบิดเยอะมาก ผมเองก็ได้รับโอกาสจาก “พี่ฉะ-ชยานนท์ อุลิศ” บริษัท แม็ทชิ่งแม็กซิไมซ์ โซลูชั่น จํากัด (มหาชน) ให้มาเป็นผู้กำกับละครเรื่องนี้ ก็รู้สึกดีใจมากๆ แล้ว ยิ่งได้มาร่วมงานกับทาง เวิร์คพอยท์ฯ เป็นครั้งแรกด้วยยิ่งรู้สึกเป็นเกียรติมากขึ้นไปอีกครับ
ความสนุก ‘เสือตัดสิงห์ ลิงหลอกเจ้า’อยู่ตรงไหน?
ถ้าพูดถึงความสนุก ผมว่าละครเรื่องนี้คือแตกต่างจากละครแนวแอ๊กชั่นเรื่องอื่นๆ เลยนะเพราะมีครบทั้งแอ๊กชั่น ดราม่า และคอเมดี้ แค่การจับพระเอกทั้ง 4 คน ไม่ว่าจะเป็น นิว-วงศกร ปรมัตถากร, ไนกี้-นิธิดล ป้อมสุวรรณ, โก๊ะตี๋อารามบอย และ นาย-มงคล สะอาดบุญญพัฒน์ มารวมกัน และฟอร์มทีมใหม่ในคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างผมว่าก็สนุกแล้ว เพราะแต่ละคนเขามีความสามารถที่แตกต่างกันอยู่ ซึ่งเรื่องนี้เราจะเน้นแอ๊กชั่นเป็นหลัก ในเรื่องการโชว์ภาพโชว์ฉากบู๊ เรื่องดราม่าเราก็เน้นครับ แล้วก็มีเรื่องของตลกด้วย เพื่อให้มันครบรสเป็นสีสันแล้วก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
แปลว่าคนดูจะได้ตื่นเต้นไปกับภารกิจที่ 4 พระเอก ได้รับมอบหมาย?
ใช่ครับ ภารกิจของ 4 พระเอกนี้เราเรียกว่า“Golden Bull” ซึ่งเป็นองค์กรลับที่เรียกรวมตัวเหล่าพระเอกที่เป็นยอดฝีมือระดับพระกาฬจากทั่วประเทศ ให้มาร่วมปฏิบัติการลับพิเศษที่ห้วยกระทิงทอง โดยแต่ละคนจะต้องปลอมตัวเข้าไปสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำสิ่งที่ผิดกฎหมายในอาณาจักรของ ป๋าสิงห์ (หมู-กลศ อัทธเสรี)ด้วยอาชีพที่แตกต่างกัน โดย นิว-วงศกร ที่เป็นนายตำรวจสายบุ๋น จะปลอมตัวเป็นนายสถานีรถไฟไนกี้-นิธิดล ที่เป็นนาวิกโยธินสายบู๊ มาเป็นคนขับเรือข้ามฟาก เพื่อพาลูกค้ามายังบ่อนกาสิโนของป๋าสิงห์ส่วน นาย-มงคล เป็นตำรวจชั้นผู้น้อยที่ปลอมตัวมาเป็นพระเอกลิเก ส่วน โก๊ะตี๋ อารามบอย เขามีความชำนาญในการเล่นกล หยิบจับอะไรรวดเร็วก็เลยปลอมตัวเข้ามาเป็นตลกในคาเฟ่ที่อยู่ในกาสิโนของป๋าสิงห์ ทั้ง 4 คน เลยได้มาเจอกัน
เล่าถึงความทุ่มเทในการถ่ายทำเรื่องนี้ของเหล่านักแสดงหน่อย?
ต้องบอกว่า นิว เขามีพื้นฐานทางด้านบู๊มาดีมากนะครับ แต่เขาบอกว่าเขาเล่นดราม่ามาเยอะ เลยต้องมาฟิตร่างกายมากกว่าเดิม แรกๆ ก็เจ็บไหล่เจ็บเข่า ซึ่งเขาเคยบาดเจ็บมาก่อนอยู่แล้วในการทำงานก็ต้องพยายามเลี่ยงฉากที่มันเสี่ยงมากๆ หรือว่าให้สแตนด์อินเล่นแทน แต่เขาก็ไม่ยอมนะ เขาขอเล่นเองแล้วให้สแตนด์อินยืนดู (หัวเราะ) เราก็สบายใจ ได้ภาพที่เป็นเขาจริงๆ ซึ่งเขาก็คงอยกให้มันเป็นแบบนั้นนั่นแหละ ส่วนไนกี้ นี่ก็ทุ่มเทเต็มที่สุดๆ ต้องขี่เจ็ทสกีเอง ขี่ไปช่วยนางเอก น้องมายด์-วรัทยา ว่องชยาภรณ์แล้วต้องยิงปืนสู้กับผู้ร้ายไปด้วย ฉากนี้การถ่ายทำค่อนข้างยาก เพราะว่าเป็นการถ่ายทำในน้ำทุกอย่างต้องเซฟ เพื่อให้นักแสดงปลอดภัย ซึ่งผมรู้สึกประทับใจ ไนกี้ กับ นิว มากจริงๆ เก่งมากทุ่มเทมากส่วน โก๊ะตี๋ ด้วยความที่เขาเป็นตลกอยู่แล้ว เราก็จะไม่ยัดเยียดมุขอะไรให้ แต่ให้เขาเล่นตามฟีลลิ่งไปเลยเน้นให้ดูตลกแบบเป็นธรรมชาติเพื่อไม่ให้รู้สึกอึดอัดแต่ในจังหวะที่ดราม่าเราก็ดราม่ากันจริงจังไปเลยร้องไห้จริง ตลกจริง ซึ่ง โก๊ะตี๋ กับ นาย ในเรื่องนี้ก็ต้องบู๊ด้วยครับ สนุกแต่จริงจังเอาให้ให้มันครบรสทั้ง 4 คน เลยถ่ายทุกคิว มีบู๊ทุกคิว
ซึ่งผมมองว่าละครเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากเรื่องหนึ่งในการกำกับเลยครับ เพราะกังวลเรื่องความเสี่ยงของนักแสดงในการแสดง เพราะว่าฉากบู๊ของเรามีแต่ใหญ่ๆ มีเยอะมาก ทั้งในป่าบนรถไฟ ในน้ำ บนบก เพราะฉะนั้นต้องเซฟให้มากที่สุด แต่ขณะเดียวกันก็ต้องให้ภาพออกมาดูยิ่งใหญ่ ดูแกรนด์ และดูสมจริงสมจังให้มากที่สุดด้วย อยากให้ผู้ชมดูแล้วรู้สึกคุ้มค่าที่ได้เห็นพวกเขาทุ่มเททั้งร่างกาย จิตใจและเวลาในการทำงาน เขายอมเจ็บตัวจริง โดนแดดกันจนไหม้จริงๆ ทุกคนคือเจ็บตัวกันหมด แค่มาดูความตั้งใจของนักแสดงก็คุ้มแล้วครับ
การทำงานกับ ‘น้องน้ำตาล’ นางเอกใหม่ที่เขาเป็นนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งทีมชาติไทยล่ะ?
สำหรับ น้องน้ำตาล-วิลาสินี รัตนนัย เป็นผู้หญิงที่แกร่งมากคนหนึ่งเลยครับทั้งชีวิตจริงและในละคร คือในเรื่องแม่เขาเสียไปแล้ว อยู่กับพ่อสองคน ก็เลยใช้ความเป็นตำรวจมาแก้แค้นด้วยกฎหมายกำจัดคนไม่ดีอย่างป๋าสิงห์ ในเรื่องนี้น้องรับบท กะทิ ผู้หญิงที่แข็งแกร่งในเรื่องของอารมณ์แต่มีประสบการณ์น้อย การต่อกรกับผู้ร้ายในเรื่องก็จะมีปัญหาหน่อย พระเอกต้องมาช่วยตลอด ซึ่ง น้ำตาล ก็ค่อนข้างมีประสบการณ์ด้านการแสดงน้อยด้วย เรียกว่าเป็นน้องใหม่เลยก็ว่าได้เพราะเป็นละครเรื่องแรกของน้องด้วย ซึ่งทางเวิร์คพอยท์ฯ ก็คงจะมองว่าคาแร็กเตอร์นี้เหมาะกับน้องเพราะน้องมีความแข็งแกร่งในตัว และสามารถเล่นบู๊ได้ ตัวน้ำตาลเองเขาก็เป็นนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้อยู่แล้วด้วย ในเรื่องของการปรับตัวสำหรับบทนี้เลยไม่ยากมาก แต่ว่าต้องมาเรียนคิวบู๊เพิ่ม แล้วก็เพิ่มในเรื่องของความเป็นตำรวจ เรื่องทักษะด้านร่างกายและความแข็งแรงเขามีเยอะ เพราะว่าถ้าเป็นตำรวจจริงๆ ก็ต้องเป็นกีฬาแทบจะทุกประเภทเช่นกันแต่ด้วยความที่เป็นนางเอกเรื่องแรก เขาก็จะรู้สึกกดดันนิดนึง เราในฐานะผู้กำกับฯ ก็คอยปลอบและให้กำลังใจเขาไปซึ่งเขาก็ตั้งใจมากครับ อยากให้ทุกคนช่วยเชียร์และเอาใจช่วยน้องครับ
‘นิว-น้ำตาล’ คู่พระ-นางเคมีใหม่ลงตัวไหม?
เขาก็เล่นกันน่ารักดีนะครับ แต่น้ำตาลเขาจะตื่นเต้นกับการทำงานร่วมกับพี่นิวสักหน่อยเพราะว่าเขาเคยปลื้มพี่นิวมาก่อน เวลาเจอกันก็จะประหม่านิดนึง แต่พี่นิวเขาก็จะคอยช่วยและให้กำลังใจ ให้ความเป็นกันเองกับน้อง เวลาเล่นด้วยกันก็เลยออกมาน่ารักและเข้ากันดี บางทีหลุดก็ดึงอารมณ์กลับมาได้ ถือว่าเป็นคู่พระ-นางเคมีใหม่ที่ลงตัวอีกคู่นึงเลยครับ
สิ่งที่คนดูจะได้รับจากละครเรื่องนี้ล่ะคือ อะไร?
ความบันเทิงมีแน่นอนครับ แต่ก็แฝงด้วยสาระและแง่คิดนะ “เสือตัดสิงห์ ลิงหลอกเจ้า” เป็นเรื่องขององค์กรของภาครัฐที่จะมีทั้งด้านดีและไม่ดีแต่เจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นคนดีที่จะช่วยเหลือสังคมก็มีเยอะเหมือนกัน แล้วก็เรื่องของความชั่ว คนชั่วก็มีอยู่เกลื่อนไปหมด ตัวละครในเรื่องนี้มันเหมือนกับการเปรียบให้เห็นว่า ท้ายที่สุดแล้วการช่วยและร่วมมือกัน ก็สามารถทำให้เราเอาชนะความชั่วร้ายได้นะ คือถ้าสู้คนเดียวมันสู้ไม่ได้อยู่แล้ว ต้องมีทีมต้องช่วยกัน ส่วนความสนุกเรามีให้เต็มร้อยแน่นอน ด้านการทำงานในเรื่องนี้ผมเหมือนได้ออกจากเซฟโซนนะ ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ได้ไอเดียใหม่ๆ ทัศนคติใหม่ๆ ได้เปิดโลกเปิดสมอง ได้คิดงานที่แปลกและแตกต่างไปจากที่เคยทำมา เพราะว่าทางเวิร์คพอยท์ก็เปิดโอกาสให้เราเต็มที่ เราก็เลยตั้งใจทำมันอย่างเต็มที่เช่นกันครับ นักแสดง และทีมงานทุกคนก็เต็มที่กันมากๆ ผมเห็นทุกคนมีความสุข และสนุก ในฐานะผู้กำกับฯ ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ผมว่ามันเยี่ยมที่สุดเลยครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี