เปาวลี พรพิมล, โย-ทัศน์วรรณ และ ส้มเช้ง สามช่า แชร์โมเมนต์เชื่อมความรักความสัมพันธ์ในครอบครัวผ่านรายการ “เก่งอย่างเก๋า” โครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ประเภทเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Grant) ประจำปี 2566 ร่วมกับบริษัท จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ จำกัด (มหาชน) และ CHANGE2561 ช่วยให้ผู้ชมทุกวัยได้เรียนรู้ความแตกต่างทางความคิดและมุมมองของคนต่างวัยรวมถึงการลดปัญหาช่องว่างระหว่างวัย ผ่านประสบการณ์ของ 3 คู่แม่ลูกนักร้องนักแสดงชื่อดัง เปาวลี พรพิมล-คุณแม่บังอร, โย-ทัศน์วรรณ-ขวัญ และ ส้มเช้งสามช่า-หยก ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามมากมายในโลกออนไลน์ จากการสร้างคอนเทนต์โดนใจผู้ชมในหลากหลายสไตล์ ซึ่งทุกคู่แม่ลูกได้ปรับตัวทำงานร่วมกันโดยไม่มีกำแพงระหว่างวัย ช่วยให้ก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยดี โดยลูกๆ ได้จูงมือคุณแม่ก้าวทันโลกที่เปลี่ยนไป พร้อมกับคุณแม่ได้นำประสบการณ์ความเก่งและเก๋าในสายอาชีพมาปรับใช้ จนสามารถจับมือกันจนประสบผลสำเร็จและยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวอีกด้วย
เปาวลี พรพิมล นักร้องสาวลูกทุ่งเสียงใส บุกเบิกสร้างบ้านสวนให้กลายเป็น“เปาวลีฟาร์ม” สถานที่แห่งความสุขที่เกิดจากความรักและการร่วมแรงร่วมใจกันของคนในครอบครัว โดยมีคุณแม่บังอรผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ คอยช่วยดูแลฟาร์มทั้งหมดด้วยตัวเอง “ช่วงโควิดระบาดเลยให้พ่อกับแม่มาอยู่ที่บ้านสวนนี้ ทำฟาร์มเล็กๆ รอบบ้าน ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ทำนา กลายเป็นความสุขของเขา ฟาร์มทั้งหมดเป็นฝีมือของคุณแม่ เพราะแม่เคยเป็นเกษตรกรมาก่อน เวลากลับไปบ้านสวนเปาจะชวนแม่ร้องเพลงถ่ายลงTikTok คนดูถล่มทลายมาก เปาเลยถ่ายวิถีชีวิตที่บ้านสวนไปด้วย ทำให้คนได้รู้จักเปาวลีฟาร์มมากขึ้น เห็นเลยว่าคุณแม่มีความสุขมากเมื่อได้อยู่กับธรรมชาติ และสิ่งที่รักจริงๆ ส่วนเปาก็ได้ความรู้เรื่องการทำเกษตรจากคุณแม่ด้วยค่ะ แม้เราจะอยู่ไกลกันแต่ระยะทางไม่ใช่ตัวกำหนด เป็นความรัก ความเข้าใจ และการปรับตัวเข้าหากันเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของครอบครัวให้อบอุ่นค่ะ”
โย-ทัศน์วรรณ นักแสดงมากฝีมือที่พลิกบทบาทมาเป็นยูทูบเบอร์วัยเก๋าสร้างช่องยูทูบร่วมกับลูกสาว โดยถ่ายทอดเรื่องราวไลฟ์สไตล์ของแม่ลูกได้อย่างสนุกสนานและน่าติดตาม ถูกใจผู้ชมทุกรุ่นทุกวัย จนปัจจุบันมีผู้ติดตามหลายแสน“อากับลูกสาวอยู่ด้วยกันมาตลอด เป็นเหมือนเพื่อนมีอะไรปรึกษากัน ตลอดชีวิตอาเป็นนักแสดง มีหลายอย่างในโลกปัจจุบัน เช่น เรื่องโลกออนไลน์ อาจะเข้าไม่ถึง ก็ได้ลูกสาวช่วยสอน ช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ อาก็ต้องเปิดใจรับฟังเขาอาจะไม่คิดว่าเราเป็นแม่นะ เกิดมาก่อน อาบน้ำร้อนมาก่อนต้องเชื่อฉันสิ เพราะวัยเราต่างกันอยู่แล้ว ถ้าเราไม่หันหน้าเข้าหากัน พูดคุยปรึกษากัน จะทำให้ไม่เข้าใจกันและไปด้วยกันไม่ได้ ทุกคนทุกวัยก็มีข้อดีของเขา เราต้องเชื่อใจ เข้าอกเข้าใจกันและเห็นความสำคัญอีกฝ่าย จะทำให้ครอบครัวอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขค่ะ”
ส้มเช้ง สามช่า นักแสดงตลกชื่อดังที่ฝากผลงานไว้มากมาย ได้จับมือลูกสาวคนสวยลุยคอนเทนต์ออนไลน์สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชม ซึ่งนอกจากจะสร้างรายได้ให้ครอบครัวแล้ว ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์และเพิ่มความอบอุ่นในครอบครัวอีกด้วย“เริ่มจากลูกสาวเห็นว่าเราว่างงานช่วงโควิดเลยชวนทำยูทูบ ตอนแรกไม่เข้าใจ เราอยู่ในทีวีแล้ว ทำไมต้องไปอยู่ในมือถืออีก แต่ลูกบอกว่าเดี๋ยวนี้คนดูในมือถือมากกว่าและสร้างเงินได้ด้วย ตอนทำคลิปแรกยอดวิวน้อยมากไม่อยากทำต่อแล้ว แต่ลูกบอกว่าเรามาวางแผนกันใหม่ จนตอนนี้ทำมา 3 ปี สร้างรายได้ให้กับครอบครัวมากขึ้น เป็นรายได้ที่มีความสุข ซึ่งปัญหาการทำงานกับลูกต้องยอมรับว่ามีเยอะ เพราะพี่เป็นคนเป๊ะทุกรายละเอียด แต่ลูกเราไม่ใช่ เราก็ต้องยอมรับและมาเจอกันครึ่งทาง พี่ไม่ปิดกั้นความคิด คอยรับฟังเขา ถ้าเราผิดเราขอโทษ คนในครอบครัวเดียวกันต้องเปิดใจคุยกัน และหาจุดตรงกลางให้ได้ว่าจะไปให้ถึงเป้าหมายด้วยกันอย่างไร”
เรียนรู้พร้อมเข้าใจความต่างของทุกวัย เพราะคนรุ่นเก๋าสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่จากคนรุ่นใหม่และคนรุ่นใหม่ก็สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนวัยเก๋าได้เช่นกัน ในรายการ “เก่งอย่างเก๋า”ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 19.00 น. ทาง Facebook และ YouTube : CHANGE2561 ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/change2561
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี