เปิดหมดเปลือก "เจนนี่ - รัชนกสุวรรณเกตุ" เปรียบตัวเองเหมือนแมว9ชีวิตผ่านมรสุมดราม่ามากมายยอมรับอดีตเคยหลงตัวเองว่ามีอิทธิพลในโซเชียลตอนนี้ได้เรียนรู้แล้วเป็นเจนนี่เวอร์ชั่นใหม่ลูกคือลมหายใจทุกวันนี้อยากเป็นแม่ที่ดีมีชีวิตสู้ต่อไปเพื่อลูกและครอบครัวในรายการWOODY FM
ตั้งแต่วันแรกที่เราได้เจอกันคุณโดนมรสุมชีวิตผ่านอะไรมาเยอะมากจนกระทั่งวันนี้ให้นิยามชีวิตตัวเองว่ายังไง?
เจนนี่ :แมว9ชีวิตมันผ่านอะไรมาเยอะมากๆมาวันนี้เหมือนเป็นเจนนี่เวอร์ชั่นใหม่พี่ก็เหมือนพี่ชายคนหนึ่งที่หนูอยากให้รู้ว่าวันนี้หนูโตขึ้นแล้วนะคะจะบอกว่าไม่ร้องไห้ก็คงไม่ได้แต่อยากให้รู้ว่าหนูดีขึ้นมากๆค่ะ
สัมผัสได้เลยพี่ว่าเราไม่มีวันจบในการเรียนรู้เพราะโลกมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆแต่เรารับมือเป็น?
เจนนี่ :มันไม่ใช่เมื่อก่อนที่เจอดราม่าก็ร้องไห้ถ่ายวีดีโอโวยวายงี่เง่าเป็นเด็กเดี๋ยวนี้พอเจอดราม่าก็คิดวิเคราะห์แยกแยะตั้งสติก่อนทุกครั้งไม่ใช่ว่าจะมองข้ามหรือมองผ่านไม่ตอบไม่สนนะคะแต่แค่ตั้งสติก่อนว่าแบบไหนดีที่สุด
ตอนนั้นมีน้องหลังจากนั้นก็เข้าใจว่าคงต้องมีสมาชิกเพิ่มในครอบครัวปรากฎว่าไม่เป็นอย่างที่คิดก็คือแท้งไป2ครั้งความรู้สึกหัวอกคนที่คาดหวังที่จะมีลูกน้อยแต่ก็หลุดไปตอนนั้นเป็นยังไงบ้างเยียวยาจิตใจตัวเองยังไงทั้งพ่อและแม่?
เจนนี่ :แต่มันก็ติดอยู่ในใจนิดหนึ่งเสียใจค่ะเพราะว่าบอกทุกคนตลอดว่าอยากมีครอบครัวที่ถ้ามีรูปติดฝาผนังก็คือ5-6คนขึ้นอยากมีลูกเยอะๆอยากให้ตัวเองมีความสุขที่แท้จริงจากคนที่เป็นลูกจากเด็กที่เกิดมาจากเราเหมือนร่างกายของเรามันสะสมความเครียดเกินไปคือคนแรกหนูรู้เลยว่าเขาเสียไปเพราะหนูร้องไห้ทุกคืนตั้งแต่รู้ว่าท้องเจอร้องทางบ้านหนักมากร้องเช้าเที่ยงเย็นเราก็รู้เพราะมีเลือดไหลสุดท้ายไปหาหมอน้องก็หลุดก็ได้แต่โทษตัวเองว่ามันเป็นเพราะเครียดบางสถานการณ์ที่เราไม่เคยมันก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ที่จะร้องไห้ออกมาก็ยังโทษตัวเองที่ทำให้คนที่เรารักอีกคนเสียใจมากคือแฟนคือเขาร้องไห้เป็นเดือนเลยผ่านมาได้เพราะเข้มแข็งเพราะว่ายูจินเขาไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลยแต่เราร้องไห้ทุกวันลืมแม้กระทั่งสั่งข้าวให้ลูกลืมแม้กระทั่งให้ความรักเขาในเมื่อสิ่งที่มีค่าที่สุดก็นั่งอยู่ตรงนี้เราก็ควรที่จะโฟกัสเขาหนูถึงบอกทุกคนว่ายูจินคือลมหายใจของหนูถ้าวันนี้หนูไม่มียูจินอาจจะไม่ได้มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้เพราะว่าสิ่งที่เจอในชีวิตมันหนักมากที่จะใช้ชีวิตต่อแต่ทุกวันนี้หนูใช้ชีวิตเพราะอยากเห็นเขาเติบโตอยากรู้ว่าเขาโตมาแล้วจะเป็นอะไรเป็นนักร้องเป็นดาราไหม
พอผ่านเรื่องวัตถุต่างๆนาๆมาค้นพบว่าสุดท้ายแล้วชีวิตก็คือแค่ความรักในครอบครัว?
เจนนี่ :ใช่ค่ะต่อให้คุณมีเงินเป็นร้อยล้านพันล้านถ้าคุณโดนคนที่คุณรักเสียใจก็จบเลยบอกเลยว่าชีวิตหนูอยู่ต่อได้เพราะคนรอบข้างไม่ใช่เงินทองหรือของรอบกายไม่ใช่บ้านหลังใหญ่ที่หนูมีต่อให้วันนี้หนูมีบ้านหลังใหญ่แต่ถ้าไม่มีลูกไม่มีสามีที่ดีอยู่ข้างๆเราก็คงไปต่อไม่ไหวหนูบอกกับสามีทุกวันว่าคิดถึงวันที่หนูขายรองเท้ามากๆเลยค่ะพูดจากใจเลยเพราะวันนั้นหนูขายรองเท้าโดยไม่มีแรงกดดันอะไรเลยสนุกกับการได้ขายของขายเท่าไหร่ก็ไม่มีดราม่าจะพูดแหกปากยังไงคนก็ไม่ด่าแต่ทุกวันนี้หนูจะพูดอะไร1คำเป็นข่าวทั้งประเทศผิดนิดเดียวคือชีวิตโดนทัวร์ลงเลยแต่ถามว่าอยากกลับไปไหมไม่อยากกลับไปค่ะ (หัวเราะ) เป็นวันนี้ดีแล้ว
มันก็มีข้อดีทุกอย่างดีเสมอถูกไหมวันนี้คุณมีผู้ติดตามที่รักคุณเยอะมากและเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆคน?
เจนนี่ :วันนี้หนูตั้งใจมาจากบ้านเลยว่าจะเป็นพลังบวกให้พี่และให้ทุกคนให้ได้คือหลังจากที่ข่าวดราม่ามันเยอะจนทุกคนอคติเจอเจนนี่เมื่อไหร่ทุกคนรู้สึกลบรู้สึกToxic หนูอยากให้ทุกคนได้รับพลังงานใหม่ค่ะเป็นพลังงานที่ประสบความสำเร็จและพลังงานที่มีแต่ความสุข
ได้เรียนรู้การปล่อยวางยังไงเพราะสมัยก่อนคุณแบกไว้เยอะมาก?
เจนนี่ :ควบคุมทุกอย่างค่ะเมื่อก่อนคิดว่าทุกคนคือเราควบคุมได้ใครด่าก็คือฉันสามารถพูดกลับไปเพื่อควบคุมคุณได้ว่าอย่ามามีสิทธิ์ด่าฉันมีปัญหาภายในค่ายในครอบครัวศิลปินในค่ายก็คิดว่าตัวเองควบคุมได้ว่าต้องเป็นอย่างนั้นๆจนทุกวันนี้รู้แล้วว่าเราควบคุมไม่ได้และเราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้สิ่งที่เปลี่ยนได้คือตัวหนูเองเท่านั้นค่ะต้องเปลี่ยนตัวเองเยอะมากเพื่อที่จะอยากทำงานในวงการอยากทำงานที่เรารักต่อสอนให้ตัวเองปล่อยวางเข้าใจแล้วว่าอะไรที่ควบคุมไม่ได้คือให้เปลี่ยนที่ตัวเอง
กับน้องลิลลี่ความสัมพันธ์เป็นยังไงบ้างช่วงที่มีครอบครัวเวลาที่ใช้ด้วยกันก็คงจะน้อยลง?
เจนนี่ :ใช่ค่ะกว่าจะรับได้ก็มีปากเสียงกันเยอะมากค่ะเพราะว่าโตมาด้วยกันลิลลี่อยู่กับหนูมาทั้งชีวิตจนวันที่หนูแต่งงานแล้วตัดสินใจมาอยู่กรุงเทพฯนั่นก็เป็นวันที่เขารู้สึกเสียใจและร้องไห้เยอะที่สุดในชีวิตทำใจไม่ได้ไม่กินข้าวไม่ลงจากห้องไม่อะไรเลยเพราะรู้สึกว่าหนูทิ้งเขาไปรักคนอื่นมากกว่าหนูพยายามส่งข้อความหาเขาบอกว่าถ้าวันหนึ่งลิลลี่มีครอบครัวจะเข้าใจซึ่งมันไม่ใช่วันนี้พี่ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ใกล้ลิลลี่แต่สัญญาว่าจะซัพพอร์ตเราพยายามอธิบายแรกๆเขาก็ไม่ฟังหรอกค่ะเพราะรู้สึกว่าพี่เจนรักพี่ยิวมากกว่าจนกระทั่งเขารู้ว่าพี่เหนื่อยมากนะคือไหนจะน้องไหนจะลูกไหนจะแฟนครอบครัวงานร้องไห้ใส่เขาเยอะมากแล้วเขาก็เริ่มสงสารหนูและเข้าใจก็พูดได้แค่ว่าถ้าว่างก็มาหาน้องนะนี่ก็บอกว่าถ้าว่างก็ขึ้นมาอยู่กับพี่สิก็ไม่มาอยู่ดีเพราะว่าชอบอยู่ใต้ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะแล้วก็แอบชอบชีวิตอิสระแล้วด้วยซ้ำไม่มีพี่คอยตามคอยห้าม
ทำให้สามีก้าวผ่านความทุกข์ได้ยังไง?
เจนนี่ : หนูเกือบเลิกกันเพราะคนอื่นเยอะมากหนูขอโทษเขาทุกครั้งที่หนูมีโอกาสเลยตั้งแต่เขาเข้ามาในชีวิตคือเขาเครียดจากเขาพลังบวกเยอะกลายเป็นว่าชีวิตเขามีแต่เรื่องToxic คนภายนอกอาจจะเจอนานๆทีแต่เขาอยู่กับหนูทุกวันเขาเครียดไปกับหนูอะไรก็ไม่รู้ปัญหาเยอะมากกับดราม่าของการเป็นเจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่นมันไม่ได้สนุกไม่ได้เรียบง่ายขอโทษเขาเยอะมากจนกระทั่งเขาก็ตกผลึกไปแล้วว่าเขาเคยถามตัวเองว่าเขาอยากไปจริงๆไหมอยากเลิกกับหนูจริงๆหรือเปล่าแล้วเขาบอกว่าสุดท้ายไม่อยากเลิกเพราะรักหนูมากคิดไม่ออกว่าถ้าวันหนึ่งไม่มีเขาหนูจะอยู่ตรงไหนหนูจะอยู่ยังไงจะร้องไห้กับใครกินข้าวกับใครจะปรึกษาเรื่องที่คนอื่นไม่รู้ยังไงเขาเลยบอกว่าขออย่างเดียวคือต่อไปนี้อย่าให้เรื่องของคนรอบตัวหรือคนอื่นมาทำให้เรามีปัญหาซึ่งกันและกันเข้าบ้านช่วยเป็นเจนนี่ที่เป็นแฟนเขาคนเดียวได้ไหมที่แบบไม่ใช่ไปเอาพลังลบหรือไปทะเลาะกับใครมาแล้วมาลงกับเขาไปเจอเรื่องอะไรมาก็มาใส่ที่เขาก็ตกลงกันจนกระทั่งเขาบอกว่าหนูทำได้และหนูก็ทำได้ดีจริงๆตั้งแต่หนูตัดทุกอย่างออกจากชีวิตเหลือแค่เราและลูกหนูรู้สึกว่าเรามีความสุขมากขึ้นและหนูต้องขอบคุณที่เขายังอยู่
ยูจินเป็นยังไงบ้าง?
เจนนี่ :น่ารักมากค่ะขอบคุณที่เกิดมาขอบคุณที่มาได้ทันเวลาไม่รู้ว่าถ้าไม่มีเขาเราอาจจะตายไปแล้วจริงๆเขาคือลมหายใจของหนูที่ทำให้อยากจะมีชีวิตในทุกๆวันอยากตื่นมาทำงานเพื่อเขาอยากเป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อเขาอยากเป็นแม่ที่ดีอยากเป็นเจนนี่เวอร์ชั่นใหม่อยากให้สังคมเปิดใจก็เพราะเขาเพราะไม่อยากให้ลูกโตมากับแม่ที่โดนทัวร์ลงบ่อยๆทุกวันนี้ตั้งแต่มียูจินจากที่เมื่อก่อนถ้าลงคลิปหรือลงรูปอะไรก็ช่างคนด่า80%แต่ทุกวันนี้แทบไม่มีเลยแถมมีคนมาปกป้องด้วยซ้ำถ้ามีใครมาด่าเรารู้สึกว่านี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นระยะเวลามันพิสูจน์แล้วว่าตั้งแต่เรามีลูกเราดีขึ้นจริงๆชีวิตนี้หนูสามารถทำทุกอย่างเพื่อเขาได้สามารถตายแทนเขาได้คำนี้ที่พ่อแม่เขาพูดกันเราไม่รู้ว่ารู้สึกยังไงแต่วันนี้เรารู้แล้ว
คนติดตามคุณได้แรงบันดาลใจจากคุณเยอะมากก่อนจะมาถึงวันนี้มันก็ต้องผ่านวันนี้คนเห็นตัวจริงที่ผ่านมาหมดความจริงคือสิ่งที่ทำให้เราอยู่ได้?
เจนนี่ : ความจริงพูดกี่ครั้งก็เหมือนเดิมความจริงเป็นสิ่งไม่ตายด้วยแต่ความจริงที่ว่าต้องออกมาจากสติปัญญาที่จะสื่อให้คนรู้เมื่อก่อนก็คือความจริงแต่สื่อออกไปแล้วมันดูเหมือนโกหกเพราะว่าเราไม่มีสติปัญญาในการใช้ชีวิตเราใหม่เราเพิ่งดังเรากำลังรวยมีอำนาจบารมีของโซเชียลมากหลงตัวเองช่วงแรกๆก็ยอมรับแต่ความจริงวันนั้นกับวันนี้ยังเหมือนเดิมค่ะแค่สื่อออกมาคนละแบบซึ่งแบบนี้มันเพอร์เฟคมากกว่าหนูได้เรียนรู้แล้วการใจเย็นมีสติต้องถามตัวเองก่อนว่าจริงหรือเปล่าเพราะบางทีที่เขาด่ามันคือความจริงแต่เราแค่รับไม่ได้ถ้ามันจริงก็ไม่เป็นไรก็ขอโทษแล้วกันนะ
สามารถติดตาม Woody FMได้ที่ช่องทาง Podcast : WOODY FM , Facebook: Woody, Youtube: Woody ทุกวันพุธเวลา 19.00 น.
คลิกชมย้อนหลัง :https://www.youtube.com/watch?v=z8FSuXzcI0A&t=4s
#WoodFM#วู้ดดี้เอฟเอ็ม
สามารถติดตามและอัปเดตข่าวสาร รายการ WOODY FM
Facebook: Woody - Instagram: Woodytalk - YouTube: Woody - Twitter: @Woodytalk
TikTok: woodywoody- LINE: @woodytalk
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี