หลังแต่งงานก็เผลอตัวจนรูปไม่เป๊ะเหมือนกับแต่ก่อน ทำให้ หญิง รฐาตัวแม่จินนี่จ๋าในตำนาน ถูกทักเรื่องหุ่นเสมอ แต่ล่าสุดเจอถามแรงมากจนเจ้าตัวเสียความมั่นใจเมื่อถูกทักว่าท้องทั้งที่ยังไม่ท้อง ซึ่งล่าสุดเธอได้เปิดใจโดยยืนยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งครรภ์อย่างที่มีข่าว แต่เพราะรูปร่างของตัวเองที่เป็นหุ่นตรงๆ แต่เอวใหญ่ทำให้มีพุงทำให้หลายคนเข้าใจผิด

ล่าสุดถูกทักแรง! รูปร่างเปลี่ยนไปจนมีคนทักว่าท้อง?

“ตอนนี้ไม่ได้ท้อง เรื่องนี้คนทักเยอะมาก ด้วยแต่ละคนก็มีสรีระไม่เหมือนกัน หุ่นเราจะเป็นแบบตรงๆ ไม่ได้มีเอวไม่มีสะโพกแบบผู้หญิง แต่หญิงเป็นคนแขนเล็ก ขาเล็ก แต่พุงป่อง เจนเนติกของหญิงเป็นคนตัวกลม เอวใหญ่ ต่อให้เรามีพุงนิดนึงเราก็ดูพอง สะโพกเราก็ไม่ได้เยอะ เวลาน้ำหนักขึ้นคือดูอ้วนง่ายมาก”

“ยิ่งพอเข้าเลข 4 แม้เราจะพยายามรักษารูปร่างตัวเองอย่างดีแค่ไหนแต่มันก็ไม่ใช่ว่าเราจะทำได้เหมือนแต่ก่อน มันก็มีความเครียด ความนอยด์ รู้สึกไม่มั่นใจที่จะรับงาน แล้วหุ่นเราต้องเป๊ะตลอด แต่เวลาไม่เอื้ออำนวย ทำให้ต้องหาตัวช่วยเสริม จนหญิงได้มารู้จักกับ KUT-L (คัทแอล) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควบคุมน้ำหนัก ในเครือ Shining ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ ทั้งปลอดภัย ไม่มีผสมสารกดประสาท และไม่มีเอฟเฟ็กที่ไม่ดีต่อร่างกายตามมาภายหลัง  ซึ่งตอนนี้ KUT-L เป็นเคล็ด(ไม่)ลับ ของหญิงไปแล้ว เพราะถ้าช่วงไหนไม่มีเวลาไปเวิร์คเอ้าท์ ก็รับประทานเสริมแทนได้เลย สะดวกมากๆ มันควบคุมน้ำหนักมี 3 กลไก ที่สามารถ เบรกหิว-บล็อกแป้ง-เบิร์นไขมันด้วยค่ะ กับอีกเรื่องที่หลายๆคนถามกันเยอะ คือเรื่องของทายาท หญิง รฐา เคลียร์ชัดเจนถึงเหตุผลไม่อยากมีลูก”

มีวางแผนเรื่องลูกบ้างหรือเปล่า?

“สำหรับเรื่องลูกหลายคนก็ถามกันเยอะ แต่ในความเป็นจริงการแต่งงานมีลูกก็คงเป็นเรื่องที่คนสองคนต้องตัดสินใจเป็นหลัก แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจในเรื่องนี้ คือ เรื่องเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม สภาพสังคม และอีกหลากหลายปัจจัย ที่มันส่งผลกระทบให้เรารู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยหรือไม่มั่นคงในการดำเนินชีวิตจนแนวโน้มที่คนยุคใหม่เริ่มมีความต้องการมีลูกลดลงเรื่อย ๆ เพราะถ้าเราลองคิดดูว่าการที่เราต้องพยายามหารายได้เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องในขณะที่ค่าครองชีพในตอนนี้ก็สูงเสียเหลือเกินจนทำให้ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงาน มันแทบจะจินตนาการถึงชีวิตที่ต้องดูแลรับผิดชอบเด็กอีกคนหนึ่งไม่ออกเลย”

“เพราะจากเดิมที่การทำงานก็กินเวลาส่วนตัวในการทำกิจกรรมอื่น ๆ ไปมากแล้วอย่างการใช้เวลากับตัวเอง และครอบครัว แล้วถ้าแต่งงานมีลูกก็เท่ากับว่าอิสระในการใช้ชีวิตก็จะหายไป เห็นเพื่อนมีแล้วชีวิตเพื่อนเปลี่ยน อิสระหลายอย่างหายไปด้วย หลายครั้งเราเจอเพื่อนๆ เขาจะบอกไม่มีลูกน่ะดีแล้ว เราก็เลยโอเค ตามนั้นเนอะ อยู่เลี้ยงลูกเพื่อนดีกว่า เราไม่อยากมีความรู้สึกว่าการมีลูกมันอาจจะเป็นภาระ เราได้เห็นชีวิตของเพื่อนที่เขามีลูก เขาก็เปลี่ยนกันไปจริงๆ อิสระหลายอย่างหายไป การที่เราจะดูแลคนๆ หนึ่งในยุคปัจจุบันนี้มันเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก มีเรื่องให้คนเป็นพ่อแม่ต้องคิดกังวลมากมาย รวมถึงเราเองก็ไม่อยากจะเป็นภาระของเขาในอนาคตด้วยไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตาม ทั้งทางความรู้สึกและชีวิตความเป็นอยู่”