อย่ากลับบ้าน (Don’t Come Home) ซีรีส์แนวลึกลับระทึกขวัญ ภายใต้ความร่วมมือกับหับโห้หิ้น บางกอก ซึ่งถ่ายทอดผ่านฝีมือของทัพนักแสดงหญิงแถวหน้าของไทยอย่าง นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี, แพร-พิชชาภา พันธุมจินดา และซินดี้-สิรินยา บิชอพ พร้อมเผยภาพเซ็ตแรกจากซีรีส์ บอกใบ้ให้ผู้ชมได้แกะรอยปริศนาลึกลับว่าเกิดอะไรขึ้นหลังรั้ว “บ้านจารึกอนันต์” แห่งนี้ ก่อนจะไปร่วมลุ้นและหาคำตอบพร้อมกัน ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ในกว่า 190 ประเทศทั่วโลกบน Netflix

โดยตัวซีรีส์เรื่องนี้จะพาผู้ชมไปติดตามเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นในบ้านหลังหนึ่ง เมื่อหญิงสาวที่ชื่อว่า “วารี” (รับบทโดย นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี) ตัดสินใจพา “มิน” (รับบทโดย เจแปน-พลอยปภัส ฝนแก้วศิวพร) ลูกสาวคนเดียวของเธอ หนีกลับไปยัง “บ้านจารึกอนันต์” บ้านเก่าของครอบครัวที่เธอเคยอาศัยอยู่เมื่อ 30 ปีก่อน จากนั้นสองแม่ลูกก็ได้เผชิญเหตุการณ์ประหลาดที่หาคำอธิบายไม่ได้ในบ้านหลังนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งมินเกิดหายตัวไปอย่างลึกลับ จึงทำให้ “ฟ้า” (รับบทโดย แพร-พิชชาภา พันธุมจินดา) ตำรวจหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ได้เข้ามาสืบสวนคดีการหายตัวไปของเด็กหญิง ทว่าในระหว่างที่ฟ้าพยายามรวบรวมเบาะแสเพื่อตามหามินนั้น หลักฐานต่างๆ ก็ชี้ให้เธอสงสัยว่า บ้านเก่าแก่หลังนี้เก็บซ่อนความลับแบบใดไว้กันแน่

วุฒิดนัย อินทรเกษตร ผู้กำกับ กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของซีรีส์เรื่องนี้ว่า “จุดเริ่มต้นมาจากการอยากเล่าเรื่องราวที่ลึกลับ ซับซ้อน ดูสนุก พร้อมนำไปสู่บางอย่างที่เหนือความคาดหมาย ประกอบกับความตั้งใจที่อยากผลักดันให้คอนเทนต์ไทยไปไกลยิ่งกว่าสิ่งที่เราเห็นในปัจจุบัน ผมจึงตั้งใจนำเสนอพล็อตที่ค่อนข้างท้าทาย และทุ่มเทสุดๆ ด้วยความอยากจะพาผู้ชมไปให้ไกลกว่าสิ่งที่คาดคิดไว้ รวมถึงยังมีประเด็นต่างๆ ซึ่งจะถูกเล่าผ่านตัวละครนำหญิงทั้งหมดในเรื่องนี้”

นอกจาก อย่ากลับบ้าน (Don’t Come Home) จะเป็นการรวมตัวทัพนักแสดงหญิงคุณภาพระดับแถวหน้าของไทยแล้ว ยังได้ อมราพร แผ่นดินทอง นักเขียนบทมือฉมังผู้อยู่เบื้องหลังผลงานขึ้นหิ้งอย่าง Analog Squad ทีมรักนักหลอก และ สาธุ มาร่วมพัฒนาบทซีรีส์ ทั้งภูมิหลังตัวละครและรายละเอียดต่างๆ ที่สอดแทรกอยู่ในเรื่อง ให้มีความกลมกล่อมและสมดุลมากขึ้น พร้อมเสริมทัพด้วยนักแสดงมากฝีมือ อาทิ ตุ้ย-ธีรภัทร์ สัจจกุล, ต๊อบ-สหัสชัย ชุมรุม, ปาริธ ทิมทอง และไผ่-พาทิศ พิสิฐกุล 

วุฒิดนัย กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “นอกจากพล็อตของ อย่ากลับบ้าน (Don’t Come Home) แล้ว ผมยังอยากให้ผู้ชมได้สนุกไปกับเรื่อง มีความรู้สึกร่วม รับรู้ถึงประเด็นที่ซีรีส์อยากจะสื่อสาร รวมทั้งเมื่อดูจนจบแล้ว หากมีเรื่องราวที่ประทับอยู่ในใจของผู้ชม ก็จะถือว่าเป็นรางวัลสำหรับคนทำครับ”