เมื่อมวยไทยไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในกรอบของเวทีแบบเดิม ๆ อีกต่อไป แต่กลายเป็นเทรนด์ฮอตของคนรุ่นใหม่ ที่ทั้งแสง สี เสียง และลีลาหมัดหนัก ถูกเสิร์ฟแบบมันส์สะใจในเวที Fairtex Fight Thaiwatsadu Champions Tournament Season 3 ที่สนามมวยลุมพินี รามอินทรา เวทีนี้ไม่เพียงเฟ้นหานักมวยรุ่นใหม่ระดับแชมป์เปี้ยน แต่ยังดึงดูดคนดูทุกเจเนอเรชัน รวมถึงสองเซเลบแถวหน้าอย่าง “พีท ทองเจือ” และ “ป้อ ปุญญพัตน์” ที่อินจัดลุกขึ้นส่งเสียงเชียร์แบบไม่มีใครยอมใคร ถือเป็นมวยไทยเวอร์ชันใหม่ที่ไม่ใช่เพียงแค่กีฬา แต่ยังเป็นทั้งคอนเทนต์ เป็น Soft Power ที่คนรุ่นไหน  ๆ ก็รู้สึกอยากเป็นส่วนหนึ่งและอยากสัมผัสกับเวทีนี้

พีท ทองเจือ และ ป้อ ปุญญพัตน์ ในงาน “Fairtex Fight Thaiwatsadu Champions Tournament Season 3”

พีท ทองเจือ : จากเด็กนอกที่ใช้มวยไทยป้องกันตัว สู่แฟนพันธุ์แท้มวยไทย

พีท ทองเจือ พระเอกหนุ่มตลอดกาล นักธุรกิจและนักแข่งรถมืออาชีพ เล่าถึงความผูกพันกับมวยไทยที่ฝังแน่นมาตั้งแต่เด็กว่า “ตอนเด็กผมอยู่อเมริกา ใช้มวยไทยป้องกันตัว เพราะตอนนั้นเด็กเอเชียมักถูกมองว่าอ่อนแอ พอเขารู้ว่าเรามีทักษะมวยไทย เขาก็จะไม่กล้ามีปัญหาด้วย มวยไทยไม่ได้แค่ทำให้ผมป้องกันตัวเองได้ แต่มันกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยหล่อหลอมความมั่นใจให้กับผมตั้งแต่เด็กจนถึงวันนี้ ผมว่ามวยไทยเป็นกีฬาที่ผมคุ้นเคยและเชื่อมโยงกับตัวเองได้มากที่สุด มันไม่ได้แค่ฝึกกำลัง แต่ฝึกจิตใจด้วย และในบรรดาศิลปะการต่อสู้ทั้งหมด มวยไทยคือสิ่งที่สะท้อนความเป็นตัวผมได้ชัดที่สุด พอได้เห็นเวที Fairtex Fight Thaiwatsadu Champions Tournament ที่เต็มไปด้วยพลังของนักมวยรุ่นใหม่ ผมรู้เลยว่านี่แหละคือเวทีที่ทำให้ ‘ของ’ ที่ซ่อนอยู่ในตัวนักสู้ ถูกแสดงออกมาได้เต็มที่จริง ๆ”

พีทยังชื่นชมเวที Fairtex Fight Thaiwatsadu Champions Tournament Season 3 ที่เปิดโอกาสให้นักชกหน้าใหม่ได้แสดงศักยภาพ พร้อมยกนิ้วให้ “ไทวัสดุ” ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการผลักดันวงการมวยไทยอย่างจริงจังและต่อเนื่องมาเป็นซีซั่น 3 แล้ว

“ผมรู้สึกว่าการที่ผู้ใหญ่ใจดีอย่างไทวัสดุเข้ามาสนับสนุน เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะนักมวยต้องการเวทีแบบนี้แหละ เวทีที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ขึ้นมาแสดงความสามารถจริง ๆ ได้มีพื้นที่ ได้มีคนเห็น และได้เริ่มต้นสร้างชื่อเสียงจากตรงนี้ ผมเชื่อว่าการให้โอกาสคือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับคนในวงการนี้

ป้อ ปุญญพัตน์ : เมื่อมวยไทยกลายเป็นพลังของผู้หญิง และ Soft Power ที่ส่งถึงโลก

ด้าน ป้อ ปุญญพัตน์ เซเลบริตี้สาวสวยรักสุขภาพ เจ้าของแบรนด์ Stay Tan เสื้อผ้าบีชแวร์ และนักแสดงช่อง 7 ที่โตมากับบ้านที่เปิดมวยไทยดูเป็นประจำเธอเล่าว่า “ป้อโตมากับบ้านที่เปิดมวยดูประจำค่ะ พ่อชอบดูมวยไทย ป้อก็เลยซึมซับมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนโตขึ้นก็ตัดสินใจไปเรียนต่อยมวยจริงจังอยู่ 5-6 ปีเลย เพราะรู้สึกว่ามวยไทยไม่ใช่ความรุนแรง แต่มันคือพลังที่เราควบคุมได้ และเป็นสิ่งที่ลูกผู้หญิงใช้ป้องกันตัวเองได้อย่างสง่างาม เพื่อนต่างชาติของป้อหลายคนบินมาเรียนมวยไทยที่เมืองไทยกันจริง ๆ ป้อเลยรู้สึกว่ามวยไทยมันไม่ใช่เรื่องเฉพาะในประเทศแล้ว แต่มันไปไกลกว่านั้นได้ ถ้ามีเวทีที่ดี มีคนสนับสนุนจริง ๆ นักมวยของเราก็จะมีโอกาสได้แสดงศักยภาพ และวันหนึ่งอาจไปคว้าเหรียญให้กับประเทศได้ สำหรับ เวที Fairtex Fight Thaiwatsadu Champions Tournament Season 3 ทำให้เห็นชัดว่า มวยไทยกำลังถูกเล่าใหม่ในแบบที่คนรุ่นใหม่เข้าใจได้ ทุกอย่างตั้งแต่แสง สี เสียง จังหวะของโปรดักชัน มันทำให้เราลุ้นตื่นเต้นทุกวินาที และรู้สึกว่าเรากำลังมีส่วนร่วมกับบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ นี่แหละค่ะที่ป้อมองว่าเป็น Soft Power ที่เกิดขึ้นได้แบบจับต้องได้เลย”

Fairtex Fight Thaiwatsadu Champions Tournament Season 3 จึงไม่ใช่แค่เวทีแข่งมวยธรรมดา แต่มันคือพื้นที่ที่มวยไทยถูกถ่ายทอดด้วยรูปแบบทันสมัยที่คนรุ่นใหม่เข้าถึงได้ง่าย มันส์ถึงใจ ทำให้มวยไทยได้รับความนิยมของคนดูได้ทั้งทุกวัย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ บรรยากาศในงานคือที่สุด ทั้งแสง สี เสียง โปรดักชันสุดมันส์ และพลังของนักชกสายเลือดใหม่ ที่ปลุกให้คนดูลุกขึ้นเชียร์แบบไม่ต้องมีใครบอกให้รักมวยไทย…แค่ได้สัมผัสก็ “อิน” ไปทั้งใจ!

สำหรับการแข่งขัน Fairtex Fight Thaiwatsadu Champions Tournament Season 3 นี้ ถ่ายทอดสดผ่านรายการ Fairtex Fight มวยมันพันธุ์ EXTREME ทางช่อง 7HD โดย บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้สนับสนุนหลัก ร่วมกับ แฟร์เท็กซ์ไฟท์ โปรโมชั่น เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแชมป์เปี้ยนมวยไทยที่ไต่ระดับขึ้นสู่เวทีมวยระดับเวิลด์คลาส ซึ่งได้ผู้ชนะจาก 3 รุ่นน้ำหนัก ได้แก่ ปิ่นเพชร ม.ราชภัฎโคราช รุ่น 52 กิโลกรัม เมอห์แดด คานซาเดห์ รุ่น 57 กิโลกรัม และ แสนศักดิ์ พิมายพงศธร รุ่น 67 กิโลกรัม