หลังจากที่นักแสดงชื่อดัง "ป๋อ ณัฐวุฒิ" ได้ออกมาประกาศข่าวร้ายว่า ภรรยาสาว "เอ๋ พรทิพย์" เป็นโรคมะเร็ง พร้อมกับเผยภาพที่ภรรยาสาวกำลังเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยล่าสุดป๋อ ได้เผยแพร่คลิปลงในช่องยูทูบป๋อสะกิดเอ๋ โดยได้พาภรรยาสาวเข้ารับการการรักษาที่โรงพยาบาล หลังจากตรวจพบเจอมะเร็งปอด พร้อมได้เผยคลิปในช่อง ป๋อสะกิดเอ๋ ในชื่อคลิปที่ว่า เมื่อครอบครัวได้รับ ข่าวร้ายที่สุดในชีวิต
ป๋อ เปิดเผยว่า ตนเองไม่มีเวลามานั่งเสียใจ ต้องคิดว่าต้องทำยังไงต่อไป ต้องพูดยังไงกับเขาให้ได้ทั้งความเป็นจริง และในแง่ของความรู้สึก ซึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นอาทิตย์ที่ยากที่สุดสำหรับเรา 2 คน แทบจะไม่ได้บอกใคร ช่วง 2 วันแรก งงทั้งคู่ เอ๋แทบจะไม่รับอะไรแล้ว เพราะเขาไม่คิดว่าวันหนึ่งจะเป็นโรคที่เขาหวาดกลัวที่สุด
ในคลิปมีการบันทึกช่วงที่ป๋อเข้าไปพูดคุยกับแพทย์ที่ศูนย์เคมีบำบัดผู้ป่วยนอก โดยนายแพทย์ผดุงเกียรติ ตั้งพิรุฬห์ธรรม ศัลยแพทย์ทรวงอก โรงพยาบาลกรุงเทพ บอกว่า การตรวจเบื้องต้น ดูได้เพียงส่วนหนึ่ง แต่ไม่สามารถตรวจพบจุดที่เป็นมะเร็งปอดระยะเริ่มต้นได้ ต้องใช้วิธีการ CT Scan รังสีต่ำ ซึ่งจะทำให้เห็นเนื้อปอดทั้งหมด หากมีก้อนที่สงสัยว่าเป็นมะเร็งปอด จะพบว่าจะมีลักษณะที่โตและเริ่มเข้ม ซึ่งกรณีของ คุณเอ๋ มีหลายปัจจัยที่บ่งชี้และต้องสงสัย และเป็นจุดที่แพทย์เองรู้สึกกังวล
นายแพทย์ผดุงเกียรติ อธิบายเพิ่มเติมว่า คนเอเชียจะมียีนส์ที่ชื่อว่า EGFR ซึ่งการไปเจอฝุ่น PM2.5 จะกระตุ้นให้ยีนส์ดังกล่าวกลายพันธุ์ และเกิดเซลล์มะเร็งปอดได้เร็วมากขึ้น
ป๋อจึงถามว่าสาเหตุที่คุณเอ๋เป็น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ PM2.5 หรือไม่ นายแพทย์ผดุงเกียรติ บอกว่า น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ
ทั้งนี้ แพทย์บอกว่า ผลตรวจรอบสุดท้ายยังไม่ออกแต่ก็เชื่อว่า เอ๋น่าจะป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 1 ซึ่งเป็นระยะที่หวังผลหายขาดสูง
จากนั้นในวิดีโอเผยคลิปหลังจากผ่าไปได้ 1 วัน ซึ่งเอ๋บอกว่า เจ็บมาก ไม่รู้จะนอนท่าไหน ก่อนที่นายแพทย์ผดุงเกียรติ จะอธิบายเพิ่มเติมว่าจุดที่เจอชิ้นเนื้อน่าสงสัย อยู่บริเวณปอดข้างซ้ายด้านหลัง ซึ่งไปซ้อนกับเงาของหัวใจพอดีดังนั้นถ้าไม่ได้ทำการ CT Scan รังสีต่ำ ก็จะไม่เห็น จนกว่าชิ้นเนื้อจะโตเกิน 2 เซนติเมตร
นายแพทย์ผดุงเกียรติ บอกอีกว่า สิ่งที่คุณเอ๋ตรวจเจอ ฟังแล้วอาจจะดูค่อนข้างน่าตกใจ สำหรับคนอายุน้อยที่ไม่สูบบุหรี่ แต่ถือว่าโชคดีมากที่ได้มาตรวจและรักษา หากผลออกมาเป็นมะเร็งระยะที่ 1 จริงๆ โอกาสหายขาดก็สูงมาก และการผ่าตัดในขณะที่ชิ้นเนื้อยังมีขนาดเล็ก ทำให้มีโอกาสที่จะเก็บเนื้อปอดไว้ได้เยอะ สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้เกือบ 100%
ด้านเอ๋เปิดใจหลังผ่าตัดว่า เจ็บแผล และรู้สึกเจ็บมากตอนที่ยังมีสายเดรนเลือดอยู่ เจ็บจนน้ำตาไหล จนต้องขอมอร์ฟีน ไม่รู้จะบอกความเจ็บยังไง ไม่เคยเจ็บแบบนี้มาก่อน เจ็บแบบที่สุดของที่สุด ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากไม่ทันได้ตั้งตัว รู้สึกช็อก มันเบลอไปหมด ความรู้สึกเหมือนบ้านถล่ม คิดแต่ว่า จะอยู่กับลูกไปได้นานแค่ไหน นึกถึงหน้าลูกแล้วก็ร้องไห้
จากนั้น ในคลิปได้เปิดเผยภาพตอนที่ หนิง ปณิตา มาเยี่ยมคุณเอ๋ และถามว่า จะปิดเรื่องนี้ไหม? เอ๋ บอกว่า อยากบอกเพื่อนทุกคน เพราะอยากให้ทุกคนไปตรวจ ไม่อยากให้มาเจอตอนที่มันเป็นมากกว่านี้แล้ว อยากให้เหตุการณ์ของเธอเป็นอุทาหรณ์ว่า ทุกคนต้องดูแลสุขภาพและตรวจสุขภาพอยู่เสมอ
“พี่ป๋อถามเอ๋ว่าเอ๋อยากปิดไหม หรืออยากบอกใครไหม เอ๋บอกว่าเอ๋อยากบอกเพื่อนทุกคนเลย เพราะเอ๋อยากให้ทุกคนไปตรวจ ไม่อยากให้เจอตอนเป็นมากกว่านี้แล้ว เอ๋อยากให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเครื่องบอกคนอื่นให้ดูแลสุขภาพ ต้องตรวจสุขภาพ ทำไมสุขภาพถึงสำคัญ มันอาจจะเป็นสิ่งที่สิ้นเปลืองเงินทองแต่คุ้มค่ามาก” เอ๋ พรทิพย์ กล่าว
ป๋อ บอกด้วยว่า จริงๆ แล้ว การตรวจสุขภาพของคุณเอ๋ครั้งนี้ ยังไม่ครบรอบปี แต่ตนเองมีอาการเจ็บหลัง จึงชวนเอ๋ไปตรวจสุขภาพด้วยกัน ก่อนครบกำหนด
เอ๋ บอกอีกว่า ตอนนี้เธอมีกำลังใจที่ดี จิตใจเข้มแข็ง ไม่รู้สึกกลัวอะไรแล้ว เพราะได้รับกำลังใจและการดูแลจากเพื่อน และต้องขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ และขอบคุณสามี เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกว่าเลือกสามีไม่ผิด เพราะพี่ป๋อดูเศร้ากว่าตัวเอง คอยหาข้อมูลอยู่ตลอด และยกเลิกงานทั้งหมดเพื่อมาอยู่กับเธอ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี