วันพุธ ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เป็นนักแสดงสาวที่ถูกโฉลกกับหนังแนวเฮอร์เรอร์จริง ๆ สำหรับ ลิลลี่-ลฎาภา ทองคำ หลังเคยฝากผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตอย่าง “เพื่อนที่ระลึก” ล่าสุดเจ้าตัวคัมแบ็คมาเล่นหนังในรอบ 8 ปี และยังเป็นหนังสยองขวัญอีกต่างหากใน “Attack วิญญาญเลขที่ 13” ผลงานการกำกับโดย คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา โดยเรื่องนี้ท้าทายสาวลิลลี่สุด ๆ เพราะเล่นเป็นผีครั้งแรกในชีวิต ลิลลี่-ลฎาภา กล่าวว่า
“ลิลลี่ไม่ได้เล่นหนังสยองขวัญมา 8 ปีแล้วค่ะ กลับมาครั้งนี้ตื่นเต้นพอ ๆ กับตอนที่เล่นหนังครั้งแรกเลย เพราะต้องเล่นเป็นผีเอง แปลกใหม่มากค่ะ ในเรื่องลิลลี่รับเป็น “บุษบา” นิสัยชอบบูลลี่ผู้อื่น และจะคิดเสมอว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าคนอื่นมาก ๆ ต้องเป็นที่ 1 ถ้าให้นิยามนิสัยใจคอ “บุษบา” คือ เก่ง ชอบเอาชนะ และ รุนแรง ค่ะ ภายนอกดูเขาเป็นคนร้าย ๆ แต่ลิลลี่กลับมองว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะร้าย เรามองว่าเขาได้รับการเลี้ยงดูมาแบบผิด ๆ ก่อนจะให้มาถ่าย เรื่องการแสดงค่อนข้างยาก เพราะนิสัย “บุษบา” ตรงข้ามกับลิลลี่ค่ะ หนูเป็นคนพูดมาก แต่ในเรื่องต้องเฟี้ยส บูลลี่ และทำร้ายร่างกายคนอื่น เขาต้องเป็นคนที่ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้ค่ะ การเล่นเป็นผี ลิลลี่จะลองเล่นหลาย ๆ แบบให้พี่คุ้ยเลือกว่าชอบแบบไหน หนูไม่เคยตายเลยไม่รู้ว่าต้องเล่นเป็นผียังไง ก็สุ่มเล่นไปเรื่อย ๆ จนถูกใจผู้กำกับ การใช้ voice (วอยซ์) จะมีแค่เสียงต่ำและเสียงแหบ ๆ หน่อย ซึ่งมีทั้งความยากและความง่าย ง่ายตรงที่พอเป็นผีแล้วบทพูดจะไม่ค่อยเยอะ แต่พอพูดแล้วต้องรักษาระดับโทนเสียงให้เป็นโทนนี้ทั้งหมด ใช้เวลาหาโทนเสียงที่พี่คุ้ยและทีมงานต้องการอยู่ประมาณ 3 วันค่ะ”
“ถามว่าเรื่องนี้รู้สึกว่าอะไรยากที่สุดสำหรับลิลลี่ ลิลลี่เป็นคนกลัวผี, ความสูง และ ที่แคบมาก เรื่องนี้เจอหมดเลยค่ะ เวลาแต่งเป็นผี เวลาจะเข้าห้องน้ำก็ต้องให้ผู้จัดการส่วนตัวเข้าด้วย พี่ผู้จัดการเห็นหน้าหนูในกระจกยังตกใจกันเองเลยค่ะ บางซีนถ่ายถึงตีสอง จำได้ว่าเป็นซีนที่ถ่ายที่วัดแล้วหมาหอน หนูก็กลัวตัวเองเหมือนกัน อย่างที่สองคือ กลัวความสูง และมีฉากที่ขึ้นสลิงสูงเท่าเพดานโรงยิมสูงประมาณ 14 เมตร ลิลลี่ร้องไห้เลย ครั้งแรกที่ขึ้นไปเราเล่นไม่เต็มที่เพราะเรากลัว ก็ขอสู้อีกรอบหนึ่ง โชคดีที่รอบ 2 ทีมงานโอเค ความรู้สึกที่ห้อยอยู่บนนั้น 5 นาที แต่เหมือน 1 ช.ม. สุดท้ายคือ กลัวที่แคบ ฉากที่ต้องเข้าไปนอนในโลงที่วัด จำได้ว่าปกติจะเฮฮาชวนคนอื่นคุย แต่วันนั้นลิลลี่เงียบและสลด หน้าเสียเลย ถ่ายฉากนี้ประมาณ 3 เทค ใช้เวลาครึ่ง ช.ม. ต้องนอนนิ่ง ๆ ในนั้นแล้วต้องร่วงลงมา เหมือนเป็นโลงที่ตั้งไว้ในท่าที่เตรียมหล่นลงมา ดีนะที่เขาไม่ปิดฝาโลงไม่งั้นลิลลี่คงกรี๊ดแน่ ๆ คือมันเหมือนจริงมาก ถูกห่อผ้าดิบ มีสำลีอุดจมูกแล้วเปิดแค่หน้าเอาไว้ค่ะ” ลิลลี่ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี