ผลงานเรื่อง “Superman” ภาพยนตร์เรื่องแรกจากทาง DC Studios สู่จอยักษ์ มีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกจากวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ด้วยสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของเจมส์ กันน์ที่จะพาซูเปอร์ฮีโร่ต้นฉบับเดิมมาปรับโฉมใหม่ในจักรวาลดีซี พร้อมด้วยการผสมผสานของฉากแอ็คชั่นสุดยิ่งใหญ่ มีมุกตลกและความอบอุ่นที่จะนำเสนอซูเปอร์แมนผู้มีความเห็นใจและความเชื่อมั่นใจในเรื่องคุณธรรมของมนุษย์ปีเตอร์ ซาฟราน ผู้นำแห่งดีซีสตูดิโอและกันน์ทำหน้าที่อำนวยการสร้างฯ โดยกันน์จะกำกับจากบทของเขาเอง โดยอิงตัวละครต่างๆ จากดีซี ซูเปอร์แมนสร้างขึ้นโดยเจอร์รี่ ซีเกลและโจ ชูสเตอร์
นักแสดงในเรื่อง ได้แก่เดวิด โคเรนสเว็ต (“Twisters,” “Hollywood”) ผู้รับหน้าที่ 2 บทบาท ซูเปอร์แมน/คลาร์กเคนท์, ราเชล บรอสนาฮาน (“The Marvelous Mrs. Maisel”) รับบทลูอิส เลน และ นิโคลาส ฮอลท์ (ภาพยนตร์ “X-Men” , “Juror #2”) รับบทเล็กซ์ ลูเธอร์ ภาพยนตร์ยังร่วมแสดงโดย เอดิ กัทเธกิ (“For All Mankind”) แอนโธนี่ คาร์ริแกน (“Barry,” “Gotham”) นาธาน ฟิลเลียน (ภาพยนตร์เรื่อง “Guardians of the Galaxy” , “The Suicide Squad”) อิซาเบล่า เมอร์เซด (“Alien Romulus”) สกายเลอร์ ไกซอนโด (“Licorice Pizza,” “Booksmart”) ซาร่า ซังไปยู (“At Midnight”) มาเรีย แกเบรียลา เดอ ฟาเรีย (“The Moodys”) เว็นเดลล์ เพียร์ซ (“Selma,” “Tom Clancy’s Jack Ryan”) อลัน ทูไดค์ (“Andor”) พรูอิตต์ เทย์เลอร์ วินซ์ (“Bird Box”) และเนวา โฮเวลล์ (“Greedy People”)ภาพยนตร์เรื่อง “Superman” อำนวยการสร้างบริหารฯ โดยนิโคลาส คอร์ดา, แชนทัล นอง โว และ ลาร์ส วินเธอร์ ทีมงานเบื้องหลังกล้องล้วนเป็นทีมงานที่กันน์ร่วมงานประจำ ได้แก่ ผู้กำกับภาพฯ เฮนรี่ บราแฮม ผู้ออกแบบฉาก เบธ มิกเคิล ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย จูเดียนน่า มาคอฟสกี้ และผู้ลำดับภาพ วิลเลียม ฮอย (“The Batman”) และเครก อัลเพิร์ท (“Deadpool 2,” “Blue Beetle”)ดีซี สตูดิโอส์ นำเสนอภาพยนตร์จาก a Troll Court Entertainment/The Safran Company Production, A James Gunn Film เรื่อง “Superman” จะฉายในโรงภาพยนตร์และระบบไอแมกซ์ในประเทศวันที่ 11 กรกฎาคม 2025 และต่างประเทศวันที่ 9 กรกฎาคม 2025 จัดจำหน่ายโดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส
ร่วมพูดคุยกับผู้เขียนบทฯ / ผู้กำกับฯ / ผู้อำนวยการสร้างฯ เจมส์ กันน์
ทำไมคุณเลือกภาพยนตร์ของ DC Studios เรื่องแรกเป็นเรื่อง Superman?
ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่จับต้องได้จริง ข้อแรกคือที่ผมนั่งตรงนี้ไม่ใช่เพราะเป็นความฝันของผม ผมนั่งตรงนี้เพราะความฝันของปีเตอร์ ซาฟราน มันเป็นความฝันของเขามาทั้งชีวิตเรื่องการสร้างหนังซูเปอร์แมน และผมต้องเข้าใจความเป็นตัวเขาที่อ่อนโยน ทำให้ผมได้มากำกับฯ และสร้างหนังเรื่องนี้ แต่ผมคิดว่าซูเปอร์แมนคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างด้วยเช่นกัน เขาเป็นซูเปอร์ฮีโร่คนแรก เขาเป็นตัวละครที่สำคัญมากของ DC ซึ่งมีอยู่ 3 คน มีแบทแมน ซูเปอร์แมน และวันเดอร์วูแมน เราเห็นเกี่ยวกับวันเดอร์วูแมนและแบทแมนมาเยอะแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับซูเปอร์แมน ผมเลยรู้สึกว่ามันคือเรื่องสำคัญที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วด้วย DC Studios โดยเริ่มต้นจากซูเปอร์แมน
ช่วงเวลาที่คุณต้องไขปริศนาเป็นแบบไหน พูดง่ายๆ คือเริ่มสร้างเรื่องราวซูเปอร์แมนขึ้นมาอย่างไร?
มันอยู่ในช่วง 2-3 หน้าแรกที่ผมต้องเล่นกับอะไรหลายอย่าง แต่ช่วงสำคัญคือตอนซูเปอร์แมนกระแทกพื้นที่เหมือนเป็นกลางขั้วโลกเหนือ และเห็นคริปโตที่ดูอ่อนแอพยายามปั่นหัวเขา แต่กลับเป็นฝ่ายชนะและทำให้เขาเจ็บปวดได้ จากนั้นมีป้อมปราการแห่งความสันโดษกับหุ่นยนต์ซูเปอร์แมน จากนั้นมีเล็กซ์และแผนการของเขาที่วางแผนจัดการให้ผู้คนมาทำงานให้เขา ผมคิดว่านั่นคือช่วงที่ผมรู้ว่าจะสร้างอะไรต่อ และพยายามไขปริศนานั้นมานานหลายต่อหลายปี
คุณมีจินตนาการในการสร้างผลงานที่ต่างจากปกติ: สร้างเรื่องราวเกี่ยวกับการทำความดี การเป็นคนดี มันมีจุดเริ่มต้นมาจากไหน?
ตอนที่ผมสร้างเรื่อง Guardians of the Galaxy ผมรู้ว่าเรามีภาพยนตร์แนวไซไฟที่เป็นแนวดาร์กและชวนเศร้ากันมานาน 25 ปีแล้ว ทุกอย่างควรจะดูสมจริงเพราะมันดูหดหู่ ผมรู้สึกว่ามันยังมีความเป็นสีสัน เป็นผลงานเหมือนสมัยก่อนที่ห่างหายไปจากภาพยนตร์ ซูเปอร์แมนคือตัวละครที่เกี่ยวกับการทำความดีและเป็นคนดี เขามีนิสัยดีแต่การเป็นคนดีอย่างบริสุทธิ์ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป ทั้งหมดเกี่ยวกับตัวละครที่เป็นคนดีอย่างบริสุทธิ์นโลกที่ไม่ได้งดงามขนาดนั้น และผมคิดว่ามีบางสิ่งที่เรามองไม่เห็นชัดเจนนัก ทุกคนล้วนมีคุณสมบัติที่ดูไม่เหมาะจะเป็นฮีโร่ได้ ผมคิดว่าเวลาที่ตัวละครดูเป็นคนดี พวกเขามักจะสร้างความสนุกโดยทำให้ตัวละครดูน่าตลก แต่ตัวละครนี้ดูมีตระกูลและงดงาม เขาไม่ได้ถูกต้องเสมอ มีการทำผิดพลาด ผมเข้าใจความรู้สึกเพราะผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ และเพราะอะไรเราถึงรักซูเปอร์แมนมาก? เพราะเขาต่อยดวงดาวหรือหยิบตึกสูงเสียดฟ้าได้? ผมคิดว่าไม่ใช่เลย ผมคิดว่าเป็นเพราะความดีงามในตัวเขาและความมีมนุษยธรรม แม้ว่าเขาจะเป็นคนต่างดาวก็ตาม อันที่จริงเขาไม่รู้สึกอะไรเลยกัการเป็นคนมองโลกแง่ดี และยอมรับที่ตัวเองมีจุดอ่อน
คุณตกหลุมรักตัวละครซูเปอร์แมนครั้งแรกเมื่อไหร่? หนังสือการ์ตูน? ภาพยนตร์ในอดีต?
ผมชอบซูเปอร์แมนมาโดยตลอด ผมคิดว่าตอนเป็นเด็กผมหลงใหลหนังสือการ์ตูนครอบครัวของซูเปอร์แมน มีซูเปอร์แมน ซูเปอร์เกิร์ล คริปโต และทั้งแก๊งค์เลย ผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ภาพยนตร์ของริชาร์ด ดอนเนอร์ตอนเป็นเด็ก เพลงประกอบภาพยนตร์และทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนั้นชวนล่องลอยมาก นั่นคือช่วงที่ผมเริ่มรู้ตัวแล้วว่าภาพยนตร์มีความสำคัญต่อชีวิตของผมขนาดไหน และมันมีความสำคัญต่างจากชีวิตคนอื่น
คุณคิดว่าตัวละครมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงหลายปีนี้ไปขนาดไหน และอะไรคือแรงจูงใจสำคัญต่อซูเปอร์แมนในเวอร์ชันของคุณ?
พลังของซูเปอร์แมนเปลี่ยนแปลงไปในช่วงตลอดหลายปีนี่ มีทั้งขึ้นและลงไม่ได้มีเพียงทิศทางเดียว เวลาที่เขาเริ่มมีพลังก็จะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก สามารถกระโดดข้ามตึกสูงได้ในก้าวเดียว แต่ไม่สามารถบินได้ เขาสามารถต่อยคนแต่ไม่สามารถเอาชนะได้ กระสุนเด้งจากตัวเขาได้แต่ก็มีลิมิต เขามีพลังมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งปี 1970 ก่อนถึงยุคของจอห์น เบิร์นที่เขาเปลี่ยนแปลงรูปทรงของโลกด้วยเพียงหมัดเดียว หรือแม้แต่หนังเรื่องแรกที่ย้อนไปหาช่วงเวลานั้น ผมคิดว่ามันมีหลายช่วงเวลาที่เขาดูมีพลังมาก ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับผมในการคิดภาพเขาให้มีความน่าสนใจอย่างที่ผมต้องการ หรือเข้าใจในตัวเขา แต่ก็มีบางเรื่องเกิดขึ้น อย่างแรกคือผลงานของแกรนท์ มอร์ริสัน เรื่อง All-Star Superman เป็นผลงานที่มีอิทธิพลต่อผมมาก และตรงกับคาวมรู้สึกที่ผมตกหลุมรักในตัวละครนี้ ตอนที่หนังสือเล่มนั้นออกมาผมไม่ใช่เด็กแล้ว มันทำให้เห็นว่าพลังของซูเปอร์แมนมีความน่าสนใจขนาดไหน และเขาเองก็เป็นคนดี มีความมุ่งมั่น ทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง มีความบริสุทธิ์บนความน่าเคารพนั้น และเป็นตัวละครที่น่าสนใจสำหรับผม แกรนท์ทำให้เขามีบางสิ่งที่ผมรัก และมันกลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญ ส่วนแฟรงค์ ควิตลีก็ทำให้เขามีเสน่ห์อย่างที่ผมรัก ด้วยบุคลิกของเขาในมุมนั้นทำให้ถือกำเนิดเป็นซูเปอร์แมนในหนังเรื่องนี้ บอกตามตรงเลยว่าในเรื่องนี้ผมทำให้เขาอ่อนพลังลง เขาจะไม่มีการย้อนเวลาของโลก ไม่ต่อยดวงดาว เขามีความแข็งแกร่งมาก ยกตึกสูงเสียดฟ้าได้ แต่ไม่อยู่ยงคงกระพันขนาดนั้น ในช่วงแรกของเรื่องเราจะเห็นซูเปอร์แมนมีเลือดไหลด้วยซ้ำ สำหรับผมเวลาที่คิดภาพอะไรแบบนั้น ผมจะคิดว่า “เรามาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร?”
สำหรับการแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับซูเปอร์แมนในจินตนาการของคุณ คุณคัดเลือกเดวิด โคเรนสเวตเข้ามา อะไรในตัวที่ตรงกับซูเปอร์แมนและคลาร์ก เคนท์อย่างที่คุณคิดเอาไว้?
ผมคิดว่าใครก็ตามที่ดูหนังจะเข้าใจว่าทำไมเดวิด โคเรนสเวตถึงได้เป็นซูเปอร์แมน เดวิดเป็นคนที่ผมเคยเห็นจากผลงานของเพื่อน ไท เวสต์ ในเรื่อง Pearl พอเห็นแล้วก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นน่าจะมาออดิชั่นบทซูเปอร์แมน และมันน่าสนใจมากเพราะผู้คนมักเริ่มออดิชั่นจากเทปเกี่ยวกับตัวเองที่ส่งมาให้จอห์น แปปไซเดร่า ผู้กำกับฯ คัดเลือกนักแสดงของเรา ผมได้รับเทปเหล่านั้นรอบแรกในช่วงวันแรก มีนักแสดงหลายคนเลย อาจจะมี 30 ซูเปอร์แมนและ 30 ลูอิส แต่ระหว่างนั้นคือช่วงวันแรก ทั้งราเชล บรอสนาฮานอ่านบทลูอิสและเดวิด โคเรนสเวตอ่านบทซูเปอร์แมน ตอนนี้ลูอิสเป็นแบบที่ผมคิดเอาไว้ เพราะลูอิสไม่ได้ถูกจำกัดเรื่องร่างกาย แต่ซูเปอร์แมนมีความเจาะจงมาก ผมเลยกังวลเรื่องการหาซูเปอร์แมนที่เหมาะสมเป็นพิเศษ โชคดีที่ผมเห็นเดวิดอ่านบทในวันแรก เขาทำได้น่าทึ่งเลย หนึ่งในฉากสำคัญคือเขาต้องถกเถียงกับลูอิสเรื่องสถานที่ของเขาบนโลก ซึ่งไม่ใช่ฉากที่ถูกต้องนัก ผมเขียนมันขึ้นมาใหม่เลยออดิชันด้วยฉากนั้นกัน ซึ่งเขาทำได้ดีมาก และผมคิดว่าเวลาที่คุณเห็นเขาฉากนั้นในหนัง คุณจะเข้าใจความเป็นนักแสดงที่น่าทึ่งของเขา ภาพลักษณ์และน้ำเสียงของเขาเหมือนซูเปอร์แมนมาก เขาเหมือนซูเปอร์แมนในชีวิตจริง เขาฟังเพลงแจ๊ซสมัยก่อนและดนตรีแนวสวิง นั่นคือความจริง และคุณจะรู้สึกเกิดเคมีประหลาดกับนักแสดงอย่างเดวิดทันทีเหมือนที่ผมรู้สึก เราสามารถสื่อสารกันได้อย่างตรงไปตรงมาและเปิดอกกันได้ตลอดเวลา
พลังระหว่างซูเปอร์แมน/คลาร์กและลูอิส คือหัวใจสำคัญของเรื่องราวที่คุณสร้างขึ้นมา เราต้องเข้าใจลูอิสในเวอร์ชันของคุณด้านไหนบ้าง?
ผมคิดว่าลูอิสมีอดีตที่วุ่นวายมากกว่าซูเปอร์แมน เพราะโลกของซูเปอร์แมนระเบิดและเขาถูกส่งมาที่นี่ตอนเป็นทารก แต่ความจริงอีกมุมหนึ่งคือซูเปอร์แมนได้รับการเลี้ยงดูอย่างอบอุ่นจากคน 2 คนที่รักเขา เขาคือแก้วตาดวงใจของทั้งคู่ ขณะที่ผมคิดว่าอดีตของลูอิสวุ่นวายกว่านั้น เธอมีความแกร่ง ผมรักมาร์โกต์ คิดเดอร์ในซูเปอร์แมนของดอนเนอร์ แต่เธออยู่เบื้องหลัง เธอตกหลุมรักซูเปอร์แมน และเขาคือซูเปอร์แมน ผมคิดว่าในเรื่องนี้คุณจะเห็นลูอิสเหมาะกับซูเปอร์แมนมากที่สุด และคุณจะได้เห็นว่าทำไมคนที่ดูเท มีพลัง เป็นคนดีอย่างเขาตกหลุมรักเธอได้ เธอยึดมั่นในอุดมการณ์ณ์และซื่อสัตย์ แต่ผมคิดว่าเธอไม่จำเป็นต้องเชื่อมั่นในความดี และในความสัมพันธ์นี้เกิดจากความรอบคอบของลูอิสและความบริสุทธิ์ของซูเปอร์แมน พวกเขาเดินไปด้วยกันอย่างงดงาม
ราเชล บรอสนาฮานสวมบทบาทเธอเป็นอย่างไรบ้าง?
ราเชลเป็นคนมีความกระตือรือร้น และตัวละครก็เป็นเช่นนั้น เธอมีพลัง สนุกสนาน ไหวพริบไว และเป็นคนกระตือตือร้น ผมจำตอนที่ราเชลหันมาหาผม เธอพูดว่า “ฉันกลัวการรับบทนี้จัง” ผมถามกลับว่าทำไม? เธอตอบ “เพราะไม่เคยเล่นบทไหนที่ใกล้เคียงตัวเองขนาดนี้มาก่อนเลย” และผมคิดว่าเป็นเรื่องจริง ผมว่าราเชลเหมือนลูอิสในหลายด้าน และซูเปอร์แมนก็เหมือนเดวิดในหลายด้าน ต่างกับนิคเลย! นิคไม่มีอะไรเหมือนเล็กซ์ ลูเธอร์เลยสักนิด ไม่ว่าจะมุมไหนก็ตาม [หัวเราะ]
คุณอาจจะเลือกนักแสดงที่ไม่ตรงกับบทก็ได้ สำหรับนิโคลาส ฮอลท์ในบทเล็กซ์ ลูเธอร์?
นิคเป็นคนที่น่ารักและอ่อนโยนมาก พูดจานุ่มนวล ดูไม่มีอีโก้เลย เขามักจะใช้เวลาร่วมกับทีมงาน ออกไปกินข้าวด้วยกัน และไม่มีท่าทางหยิ่งหรือถือตัวใดๆ เขาไม่ใช่เล็กซ์ ลูเธอร์แบบที่นึกถึงแน่นอน เขาทำงานหนักมากจริงๆ คอยพยายามให้ในสิ่งที่ผมต้องการตลอดเวลา และผมก็ผลักดันเขาหนักที่สุดในบรรดาทุกคนในหนังเรื่องนี้ เพื่อเจาะลึกเข้าไปในตัวตนของตัวละคร ซึ่งเป็นเด็กเกเรในโรงเรียนที่โตขึ้นมาเป็นอัจฉริยะเห็นแก่ตัว แต่กลับไม่มั่นคงในเวลาเดียวกัน เล็กซ์ไม่เคยเห็นว่าตัวเองเป็นวายร้าย ขอพูดตามตรงถ้าเขาไม่ทำบางสิ่งบางอย่างในหนังเรื่องนี้ คนดูจำนวนมากอาจจะเห็นใจเขาด้วยซ้ำ ผมคิดว่าเล็กซ์มองซูเปอร์แมนเหมือนกับที่ศิลปินหลายคนรู้สึกกับ AI เพราะเขาเป็นคนที่เก่งที่สุดและประสบความสำเร็จที่สุดในทุกด้าน แล้วจู่ๆ ก็มีมนุษย์ต่างดาวปรากฏตัวขึ้นมาในชุดประหลาด แล้วเด็กๆ และผู้คนในเมโทรโพลิสก็รักเขาทันที เขามองว่านั่นเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมและอันตรายด้วย เขาไม่ไว้ใจซูเปอร์แมน ความต้องการของเขาส่วนใหญ่มาจากความอิจฉาและความริษยา ผมคิดว่าเขาก็มีความกังวลต่อโลก และต่อความหมายที่ซูเปอร์แมนนำมาด้วย และในบางมุมเขาก็ทำจากเจตนาที่ดีบ้าง แม้จะเป็นเพียงบางส่วนก็ตาม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาทำถูก มันไม่ใช่เลย และซูเปอร์แมนก็ไม่ใช่ภัย เขาเป็นพลังที่ดีต่อโลก ในสายตาของเล็กซ์มองเขาเป็นอันตราย ผมคิดว่านั่นก็สมเหตุสมผลในแบบของเขา ไม่ได้จะบอกว่าเล็กซ์เป็นคนดี หรือเป็นคนที่คุณอยากชวนมาทานอาหารมื้อสายด้วย แค่จะบอกว่า เหตุผลเบื้องหลังการกระทำที่เลวร้ายของเขานั้นก็พอจะเข้าใจได้อยู่บ้าง
เล็กซ์ ลูเธอร์อาจจะต่อต้านซูเปอร์แมน แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธการใช้เมตาฮิวแมนในเวอร์ชันของตัวเอง ช่วยเล่าเกี่ยวกับดิ เอ็นจิเนียร์หน่อยได้ไหม?
ดิ เอ็นจิเนียร์เป็นตัวละครที่น่าสนใจ ซึ่งผมใส่เข้ามาในหนังเรื่องนี้เพราะเธอมาจากหนังสือชุด The Authority ซึ่งเป็นการ์ตูนจากค่าย WildStorm เดิม ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ผมชอบมาก ต่อมาถูก DC ซื้อไป แล้วตัวละครพวกนี้ก็กลายมาเป็นของ DC ผมชอบ The Engineer หรือแองเจล่า สไปก้ามาตลอด ผมว่าตัวละครนี้เท่มาก เธอเป็นตัวละครที่ดีในหนังสือการ์ตูน และผมไม่คิดว่าแองเจล่าเป็นคนเลวเลย เธอกับเล็กซ์ ลูเธอร์มีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างแปลก ไม่ได้เป็นแค่เพื่อนธรรมดาเท่านั้น ผมคิดว่าแองเจล่ามีความรู้สึกลึกซึ้งกับเล็กซ์ และเล็กซ์เองก็รู้สึกกับเธอในระดับเดียวกัน ร่างกายของเธอประกอบไปด้วยนาโนแมชชีน ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจจะยังไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้จริง แต่ในจักรวาลของ DC มันคือเรื่องจริง และเธอสามารถเปลี่ยนร่างกายของเธอให้กลายเป็นสิ่งใดก็ได้โดยใช้นาโนเหล่านี้ เธอจึงทรงพลังมาก ถึงขั้นที่สามารถรับมือกับซูเปอร์แมนได้ และเล็กซ์ก็ฉลาดมากจนสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ไหนก็ตามแล้วมองเห็นได้เป็นล้านทางว่ามันจะจบยังไง พร้อมกับเลือกทางออกที่ดีที่สุด เขาสามารถคาดเดาว่าคุณจะทำอะไรต่อไปโดยอิงจากเหตุผลและตรรกะ เล็กซ์มีเธออยู่ใกล้ตัวด้วยเหตุผลบางอย่าง
ช่วยเล่าเกี่ยวกับอีฟ เทสช์มาเชอร์หน่อย อะไรทำให้คุณถึงตัดสินใจใส่เธอเข้ามาในเรื่อง?
อีฟ เทสช์มาเชอร์เป็นตัวละครที่มีพื้นฐานมาจากตัวละครในภาพยนตร์ของ Richard Donner ไม่ใช่ตัวละครดั้งเดิมจากการ์ตูน ผมชอบหยิบเอาองค์ประกอบจากหลายๆ แหล่งมาผสมกัน ทั้งจากภาพยนตร์ หนังสือการ์ตูน ซีรีส์ทางทีวี และจักรวาล WildStorm จริงๆ แล้วบทของอีฟกับมิสเตอร์เทอร์ริฟิคเป็น 2 บทที่คัดเลือกนักแสดงได้ยากที่สุดเลย เราทดลองกับนักแสดงมาหลายรอบ ทำสกรีนเทสต์หลายครั้ง ผมนั่งดูวิดีโอเฉพาะบุคคลเยอะมาก เพื่อเลือกว่าจะให้ใครมาทดสอบหน้ากล้อง ตอนดูเทปของซาร่า ซังไปยู ผมก็จดชื่อเธอเอาไว้แต่ก็ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ จนกระทั่งภรรยาผมนั่งอยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า “ผู้หญิงคนนี้มีอะไรบางอย่างที่พิเศษ” เลยพาเธอมาทดสอบหน้ากล้อง และเธอก็กลายเป็นคนที่ดีที่สุดจริงๆ อีฟเป็นตัวละครที่น่าสนใจ เธอมีข้อบกพร่อง และผมคิดว่าเธอก็ค่อนข้างไร้เดียงสาในตอนที่เข้ามาในเรื่องนี้ รวมถึงในสิ่งที่เธอคิดว่ากำลังเกิดขึ้นด้วย
คุณยังใส่เมตาฮิวแมนกลุ่มอื่นในเมโทรโพลิสด้วย พวกเขาคือใครกันแน่จัสติสแก๊งค์?
จัสติสแก๊งค์เป็นกลุ่มที่โดยพื้นฐานแล้วพยายามทำในสิ่งที่ดี แต่พวกเขาทำแบบเละเทะ ไม่ได้ให้คุณค่ากับชีวิตหรือทรัพย์สินเท่าที่ควร พวกเขาได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเอกชนที่ให้เงินทุนเพื่อให้ทำสิ่งที่ทำอยู่ ซึ่งพวกเขาก็ใช้การทำดีเหล่านั้นเพื่อโปรโมตบริษัทที่ชื่อว่า LordTech สมาชิกจัสติสแก๊งค์น่าจะมีรายได้ดีทีเดียวจากงานนี้เอดี้ กาเธกิ แสดงเป็นมิสเตอร์ เทอร์ริฟิคได้สุดยอดมาก ตัวละครนี้เป็นหนึ่งในตัวโปรดของผมจากการ์ตูน ไม่ว่าจะเป็น T-Craft, T-Spheres ทุกอย่างเกี่ยวกับเขาสนุกมาก และเขาก็ฉลาดสุดๆ ระดับเดียวกับเล็กซ์ ลูเธอร์เลย แต่ต่างกันตรงที่เขามีความยับยั้งชั่งใจ เขารอบคอบ และจะไม่สร้างสิ่งที่อาจเป็นอันตรายต่อโลกเอดี้แสดงบทนี้อย่างจริงจัง ฉลาด และดูเท่มาก กาย การ์ดเนอร์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ผมชอบมากจากคอมมิกของ DC โดยเฉพาะในยุค Justice League International ผมคิดว่าเขายอดเยี่ยมมาก เขาเป็นกรีนแลนเทิร์นจอมกวนที่มีบุคลิกน่าหมั่นไส้ ผมไม่อยากให้ทุกตัวละครในเรื่องเป็น “คนดี” ไปหมดกายเป็นตัวละครหายากในคอมมิกที่เป็นที่จดจำได้เพราะ “นิสัย” มากกว่าหน้าตา แม้หน้าตาของเขาก็... แย่เอาเรื่องนะ และมันก็เป็นข้ออ้างที่ดีในการให้นาธาน ฟิลเลียนไว้ทรงผมบล็อกหัวเห็ด ซึ่งผมสนุกมากกับไอเดียนั้น ฮอว์คเกิร์ลก็เป็นอีกคนที่โหดเอาเรื่อง เธอไม่ใช่คนที่ “ใจดี” นัก แม้เธอจะมีจิตใจที่ดีอยู่ลึกๆ แต่เธอก็ทำอะไรที่รุนแรงพอสมควร และอิซาเบล่า มาร์เซดก็แสดงได้เยี่ยมจริงๆ
และคุณยังมีทีมงานของเดลี่ แพลเน็ทด้วย เช่น จิมมี่ โอลเซน, เพอร์รี่ ไวท์…
จิมมี่ โอลเซนเป็นคนตลก และทุกคนก็รักเขา เขาเป็นคนที่กระตือรือร้นกับทุกเรื่องแบบสุดๆ แต่เขาก็มีเสน่ห์แบบพีท เดวิดสัน เป็นคนที่สาวๆ ทุกคนตกหลุมรัก จะมีใครเหมาะกับบทจิมมี่ไปกว่าสกายเลอร์ จีซอนโดได้อีก? แคท แกรนท์, สตีฟ ลอมบาร์ด, บิลล์ — เบ็ค เบ็นเน็ตต์แสดงได้ยอดเยี่ยมมาก ส่วนเว็นเดลล์ เพียร์ซคือนักแสดงที่ผมชื่นชมมานานตั้งแต่ซีรีส์ The Wire การได้ร่วมงานกับเขาถือว่ายอดเยี่ยมมากจริงๆ เขาเป็นเพอร์รี่ ไวท์ที่สุดยอดมาก
ในช่วงแรกภาพยนตร์ คุณแนะนำตัวละครที่เป็นขวัญใจแฟนการ์ตูนมายาวนานอย่าง Krypto ในช่วงที่ Superman กำลังอยู่ในจุดเปราะบางที่สุด อะไรเป็นแรงจูงใจให้คุณใส่เขาเข้ามา?
คริปโต เดอะ ซูเปอร์ด็อก! สุนัขซูเปอร์ฮีโร่จาก DC Comics ตัวละครเล็กๆ ที่ผมชอบเขามาตลอด — เพราะผมชอบสุนัขอยู่แล้ว ก็แน่นอนว่าผมต้องชอบเขาด้วย สำหรับผมในฉากเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด มันเป็นเหมือนการค้นหาว่าซูเปอร์แมนมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร และเกิดอะไรขึ้นกับเขา การให้คริปโตมาช่วยเขาในตอนต้นเรื่อง เป็นการเติมมุมมองใหม่ให้กับหนัง Superman เรื่องนี้โดยเฉพาะ มันไม่ใช่ Superman เวอร์ชันของดอนเนอร์ ไม่ใช่ Superman เวอร์ชันของแซ็ค สไนเดอร์ แต่มันคือซูเปอร์แมนเวอร์ชันใหม่ เวอร์ชันที่มีซูเปอร์ด็อกบินได้และยิงลำแสงจากตา มีเหล่าซูเปอร์ฮีโร่คนอื่นๆ อยู่ด้วย โลกในเรื่องเป็นโลกที่เมตาฮิวแมนมีมานานหลายปีแล้ว และซูเปอร์แมนก็แค่บังเอิญเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหมู่พวกเขา แม้ว่าเราจะได้เจอกับเขาในช่วงที่ยังไม่ได้เป็นคนสำคัญก็ตาม
ช่วยเล่าเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของคริปโตเวอร์ชันของคุณหน่อยได้ไหม?
คริปโตได้แรงบันดาลใจมาจากสุนัขของผมเอง ชื่อว่า โอซุ ตั้งชื่อตามผู้กำกับชาวญี่ปุ่นผู้ยิ่งใหญ่ ยาสุจิโร่ โอซุ เรารับเขามาจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ ซึ่งมีสุนัขอยู่เต็มไปหมด และเขาเป็นเพียงตัวเดียวที่กลัวผมสุดๆ เขาผอมแห้งมาก แต่มีหูข้างหนึ่งชี้ตั้งขึ้นเหมือนเสาอากาศ และมันก็เหมือนเป็น “เสาสัญญาณ” เรียกผมเข้าไปหา ไม่รู้ทำไม ผมกลับรู้สึกถูกดึงดูดโดยเจ้าหมาบ้าๆ ตัวนี้ และผมก็พาเขากลับบ้าน เขาไม่รู้จักมนุษย์เลย ตอนนั้นเขาอายุประมาณ 1 ปี ไม่เคยถูกสัมผัสหรือมีปฏิสัมพันธ์กับคนจริงๆ เขาเลยแทบไม่สนใจผมเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับหลงรักสุนัขอีกตัวของผมทันที เดินตามเธอไปทุกที่จนรบกวนเธอสุดๆ แล้วเขาก็เริ่ม... ทำลายบ้านผม เขาทำลายเฟอร์นิเจอร์พังหมด กัดรองเท้าทุกคู่ที่หาเจอ กินแล็ปท็อปผมไปจริงๆ ทำลายจนใช้งานไม่ได้เลย และทุกครั้งที่มีอะไรที่ดูคล้ายสัตว์ปรากฏบนหน้าจอ เขาจะกระโจนใส่ทีวีและโจมตีเฟอร์นิเจอร์รอบๆ ทีวีทันที เขาเป็นหมาที่แย่ที่สุดเท่าที่คุณจะจินตนาการได้ เขากัดเท้าผมตลอดเวลา จนผมต้องใส่รองเท้าเดินในบ้าน ทั้งที่ปกติผมชอบเดินเท้าเปล่าในบ้าน ตอนที่ผมคุยโทรศัพท์ เขาจะกัดเท้าผม แล้วผมก็ไม่สามารถกรี๊ดใส่เขา หรือแม้แต่กรี๊ดเพราะเจ็บได้ ผมเลยต้องปีนขึ้นไปนั่งบนเคาน์เตอร์ครัว กอดขาตัวเองหลบอยู่ในมุม แล้วจู่ๆ เขาก็กระโดดขึ้นมาบนเคาน์เตอร์แล้วกัดเท้าผมต่อ และไม่รู้ทำไมผมก็คิดขึ้นมาว่า “ถ้าเจ้าหมาบ้าที่แย่ที่สุดตัวนี้มีพลังซูเปอร์ฮีโร่ล่ะ?” เราคงซวยกันหมดแน่ๆ นั่นล่ะคือจุดเริ่มต้น คริปโตอาจจะเป็นหมาแย่ๆ ก็ได้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้ การใส่ตัวละครหมาที่ทั้งบ้า ทั้งป่วน แบบไม่คาดคิดเข้ามา เพราะจริงๆ แล้วคริปโตก็คือโอซุนั่นแหละ เราพาโอซุไปสแกนร่างจริงๆ เพราะเขาไม่สามารถจะไปแสดงแทนตัวเองได้เลย เรามีสุนัขอีกตัวชื่อโจลีนซึ่งเป็นหมาที่น่ารักมาก ฉลาด เป็นสุนัขที่มีมารยาทอย่างแท้จริง ไม่งี่เง่าเหมือนโอซุของผม แล้วเราก็นำแบบจำลองของ โอซุมาขยายตัวให้ใหญ่ขึ้นนิดนึง เปลี่ยนสีให้เป็นขาว แล้วนั่นแหละคริปโตในหนัง
นอกจากเมตาฮิวแมนแล้ว คุณยังเลือกใส่องค์ประกอบอื่นๆ จากจักรวาลซูเปอร์แมนเข้ามาอีกมาก…
ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้สามารถแตกต่างออกไปได้ โดยการนำเอาองค์ประกอบแบบ magical realism หรือความแฟนตาซีในแบบซูเปอร์มาใช้ เช่น หมาบินได้ ไคจูยักษ์ หุ่นยนต์ผู้ช่วย และอะไรสนุกๆ แบบนั้น ในขณะที่ยังทำให้ตัวละครซูเปอร์แมนติดดินและมีความสมจริงอยู่ เขายังคงเป็นตัวละครที่มีรากฐานอยู่ในบุคลิกของตัวเอง ในความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นๆ และเนื้อเรื่องที่ขับเคลื่อนด้วยการเลือกของเขาเอง ไม่ใช่ถูกกำหนดโดยพลังภายนอกใดๆ บทหนังเรื่องนี้เลยเขียนสนุกมากเพราะเหตุผลนั้น และมันก็แตกต่างจากสิ่งที่ผมเคยเขียนมาก่อนโดยสิ้นเชิง แน่นอนว่ามันมีองค์ประกอบไซไฟอยู่บ้าง แต่ในบางแง่ ผมว่าจริงๆ แล้วซูเปอร์แมนยังติดดินกว่าหนัง Guardians of the Galaxy ซะอีก เพราะประเด็นสำคัญคือมันไม่ใช่หนังตลกแต่ในอีกมุมหนึ่ง มันก็มีความแฟนตาซีสุดขั้วแบบแปลกๆ มากกว่าด้วย มันเป็นหนังการ์ตูนที่ไปให้สุดกับทุกอย่างใหญ่โตอลังการ เหมือนผลงานของแกรนท์ มอร์ริสัน เรื่อง All-Star Superman เคยทำไว้ เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นความท้าทายสำหรับผมมากจริงๆ
คุณมีความร่วมมือที่ยอดเยี่ยมกับหัวหน้าแผนกของคุณ ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญกับคุณ?
หัวหน้าแผนกของผมแทบจะเป็นทีมเดิมตลอดในหนังหลายเรื่องที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเบธ มิกเคิล ผู้ออกแบบฉากฯ จูเดียนนา มาคอฟสกี้ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เฮนรี่ บราแฮม ผู้กำกับภาพ และลาร์ส วินเธอร์สที่เริ่มต้นเป็นผู้ช่วยผู้กำกับของผมใน Guardians of the Galaxy Vol. 2 และตอนนี้เป็นหัวหน้าฝ่ายโปรดักชันของ DC Studios ผมทำงานกับคนกลุ่มเดิมซ้ำๆ เพราะเราสื่อสารกันได้ในแบบที่ใกล้ชิดเข้าใจกันดี รู้ว่าแต่ละคนต้องการอะไร คาดหวังอะไร พวกเขารู้จักนิสัยเฉพาะของผมดี รู้ว่าผมมักจะโฟกัสกับเรื่องอะไร รู้ทั้งจุดแข็งจุดอ่อนของผม พูดง่ายๆ คือ เราเหมือนครอบครัว และการมีครอบครัวเหล่านี้อยู่รอบตัว ทำให้การถ่ายหนัง ซึ่งเป็นงานที่ยากมาก กลายเป็นอะไรที่สนุกขึ้นเยอะเลย
เรามาคุยกันเรื่องสถานที่ในภาพยนตร์กันบ้าง เริ่มจากป้อมแห่งความสันโดษที่คุณไปถ่ายทำที่สฟาลบาร์ด ประเทศนอร์เวย์
ป้อมแห่งความสันโดษในเวอร์ชันดั้งเดิมเกิดขึ้นในยุคที่คุณสามารถมีป้อมอยู่กลางแอนตาร์กติกาโดยไม่มีใครรู้ แต่นั่นไม่ใช่ความจริงของโลกทุกวันนี้ที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก ในหนังของเราป้อมแห่งนี้จะจมอยู่ใต้ดิน และจะ โผล่ขึ้นมาก็ต่อเมื่อซูเปอร์แมนเข้าใกล้เท่านั้น เพราะมันตอบสนองต่อดีเอ็นเอของเขา การออกแบบจึงต้องสะท้อนสิ่งนี้ เราได้รับแรงบันดาลใจมากมายจากหนังของริชาร์ด ดอนเนอร์ รวมถึงจากดีไซน์ในคอมิกตลอดหลายปีที่ผ่านมา แล้วก็นำมาสร้างเป็นสไตล์ของเราเอง แน่นอนว่าเราก็ใส่เทคโนโลยีระดับสูงในแบบของซูเปอร์แมน เช่น หุ่นยนต์ซูเปอร์แมน ซึ่งได้รับอิทธิพลอย่างมากจาก All-Star Superman เบธ (มิกเคิล) ออกแบบพื้นที่ให้ดูเหมือนมหาวิหารแห่งผลึกที่สวยงามมาก เราตัดสินใจไปถ่ายทำที่สฟาลบาร์ดเพราะผมอยากให้โลเคชันนั้นสมจริง ใช้แสงธรรมชาติ พื้นผิวตามภูมิประเทศจริงๆ จะได้เห็นรายละเอียดจากธรรมชาติที่จินตนาการของมนุษย์อย่างเดียวอาจสร้างไม่ได้ ยังไม่ต้องพูดถึง ลมหายใจที่กลายเป็นไอที่มองเห็นได้ชัดเจน เพราะมันหนาวจริงๆ ผมอยากให้สถานที่แห่งนี้ดูงดงามที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และให้แน่ใจว่าผลงานทั้งเรื่องจะเป็นงานภาพที่สวยงามอย่างต่อเนื่อง
คุณถ่ายทำที่คลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของซูเปอร์แมน มันเป็นยังไงบ้างสำหรับคุณ?
โอไฮโอเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผมชอบมากที่สุดในการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ การได้ถ่ายทำในคลีฟแลนด์ บ้านเกิดของซูเปอร์แมน ที่นั่นคือที่ที่เจอร์รี ซีเกล และโจ ชูสเตอร์ คิดค้นไอเดียของซูเปอร์แมนขึ้นมา ดังนั้นที่นั่นจึงเป็นสถานที่ที่เขาถือกำเนิดขึ้นมา แต่จริงๆ แล้วเราไม่ได้เลือกถ่ายทำที่นั่นเพราะซูเปอร์แมนถือกำเนิดที่นั่น เราเลือกที่นั่นเพราะมีสถาปัตยกรรมสไตล์อาร์ตเดโคที่สวยงามมาก ซึ่งเป็นลุคที่เราต้องการให้เมืองเมโทรโพลิสมี มันบังเอิญพอดีที่เมืองนั้นทั้งตรงตามที่เราต้องการ และยังเป็นบ้านเกิดของซูเปอร์แมนอีกด้วย ผู้คนที่นั่นน่ารักมาก ทีมงานและผู้ช่วยการผลิตที่เราทำงานด้วยที่นั่นก็ยอดเยี่ยม คณะกรรมาธิการภาพยนตร์ก็ร่วมงานด้วยได้ดีมาก เรามีช่วงเวลาที่ดีในการถ่ายทำที่คลีฟแลนด์ และที่ซินซินเนติ ซึ่งเป็นที่ที่เราถ่ายทำสำนักงานใหญ่ของจัสติสแก๊งค์ โดยใช้สถานีรถไฟเก่าในซินซินเนติเป็นโลเคชันถ่ายทำ ซึ่งก็เจ๋งมาก ทั้งสองเมืองนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ
เล่าถึงการถ่ายทอดภาพของ Daily Planet สิ่งที่ขาดไม่ได้ในหนังซูเปอร์แมนทุกเรื่อง?
เราเซ็ตฉากของ Daily Planet ขึ้นที่เมืองเมคอน รัฐจอร์เจีย เป็นฉากห้องข่าวแบบคลาสสิกเลย เรามีพื้นที่ของสตีฟ ลอมบาร์ด ซึ่งแสดงโดยเบ็ค เบนเน็ตต์ พื้นที่ของคลาร์ก เคนต์ โต๊ะของจิมมี่ โอลเซ่น, แคท แกรนท์, ลอยส์ เลน และรอน ทรูป นี่คือกลุ่มตัวละครหลักของเราที่อยู่ใน Daily Planet และแน่นอนว่าเพอร์รี ไวต์ก็มีห้องทำงานของตัวเองด้วย ฉากนี้ถูกออกแบบโดยเบธ มิกเคิล และมันยอดเยี่ยมมากจริงๆ เป็นหนึ่งในฉากที่ผมชอบที่สุดที่เราได้ถ่ายทำ ผมอยากให้เราได้อยู่ที่นั่นนานกว่าสามวันด้วยซ้ำ เพราะมันน่าทึ่งมากที่ได้เห็นตัวละครเหล่านี้ที่ผมอ่านมาตั้งแต่เด็ก และเห็นพวกเขาถูกถ่ายทอดออกมาผ่านสื่อหลากหลายรูปแบบ เพอร์รี ไวต์, ลอยส์ เลน, จิมมี่ โอลเซ่น… เราเห็นพวกเขามาหลายเวอร์ชันแล้ว การได้เห็นทีมนักแสดงชุดนี้มารับบทเหล่านี้และทำได้ดีเยี่ยมมันสนุกมากเลย
คุณเข้าถึงการถ่ายทำฉากบินในหนังเรื่องนี้ต่างไปอย่างไร?
มันซับซ้อนมากครับ วิธีที่เราเลือกใช้ในการถ่ายทำฉากบินนั้นต้องใช้หลายเทคนิค และเดวิดต้องเข้าชุดสลิงหลายแบบ โชคดีมากที่เดวิดเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรงและเล่นกีฬาเก่ง เขาเลยสามารถทำทุกอย่างออกมาได้ดี เราทำงานร่วมกับเวย์น ดัลกลิช ผู้ประสานงานฉากสตันต์ของเรา เพื่อสร้างสไตล์การบินที่ดูสมจริงที่สุดให้ผู้ชมรู้สึกได้ในเชิงกายภาพ ผมได้แรงบันดาลใจมาจากการดูฟุตเทจของเครื่องบินรบเจ็ต และคิดว่ามนุษย์จะรู้สึกอย่างไรถ้าบินได้จริงๆ แล้วคุณจะสังเกตได้ว่ามีหลายอย่างที่คุณไม่เคยเห็นในหนังซูเปอร์แมนมาก่อน เช่น คนที่บินด้วยความเร็วเหนือเสียง แต่ผมของเขาแค่พริ้วเบาๆ เท่านั้นเอง เราอยากแสดงให้เห็นว่าผมของเขาควรจะปลิวแรงแค่ไหนเมื่อเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเสียงจริงๆ มันเป็นอะไรที่ซับซ้อนมาก แต่ก็สนุกมากด้วยเช่นกัน ตั้งแต่แรกผมเขียนแนวคิดยาวประมาณ 4 หน้าเกี่ยวกับทฤษฎีของฉากแอ็คชัน และวิธีที่เราจะถ่ายทำมัน เพราะเรายังต้องการให้กล้องรู้สึกเหมือนถูกถือโดยคนที่บินอยู่ด้วยจริงๆ ดังนั้นกล้องจะเคลื่อนไปรอบๆ ตัวเขามาก และจะไม่ถ่ายแบบตัดฉากเป๊ะๆ เพราะถ้าอย่างนั้น กล้องพวกนั้นควรอยู่ที่ไหนล่ะ? ควรติดตั้งง่ายๆ อย่างไร? มันต้องดูเหมือนกำลังตามติดการบินของตัวละครจริงๆ มันเป็นอะไรที่สนุกมากจริงๆ สำหรับผมในการถ่ายฉากเหล่านี้ เป็นงานที่สนุกสุดๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี