เพราะความที่เป็นหนังแอ็คชั่น-ไซไฟ ดังนั้นผู้กำกับฯ วิลเลียม คอฟฟ์แมน จึงต้องการทำให้ “Osiris - โอซิริส มฤตยูล้างพันธุ์มนุษย์” เป็นการผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยีอันน่าตื่นตาตื่นใจกับฉากแอ็กชั่นสุดโหดและกลยุทธ์ในการดำเนินเรื่องอันชาญฉลาด “ผมพยายามทำให้หนังเรื่องนี้เป็นเหมือนการยกย่องภาพยนตร์คลาสสิกอย่าง Alien และ Predator ดังนั้นทุกอย่างในหนังจึงออกมาในรูปแบบของความเป็นหนังแอ็คชั่นที่ตื่นเต้นเร้าใจ และความน่าสะพรึงกลัวแบบนิยายวิทยาศาสตร์“ ผู้กำกับฯ คอฟฟ์แมนกล่าว

นอกจากทำหน้าที่กำกับการแสดงแล้ว คอฟฟ์แมน ยังเขียนบท Osiris ร่วมกับ “พอล ไรเชลต์” ทั้งคู่ได้ออกแบบฉากและเนื้อหาของหนังให้ออกมาทั้งดูน่าตื่นเต้นและน่าสยดสยองในเวลาเดียวกัน “เราพยายามสร้างฉากหลังของหนังในแบบที่่ไม่มีใครเคยเห็นและการออกแบบคาแรคเตอร์ของมนุษย์ต่างดาวที่ทั้งดูดุดัน และโหดเหี้ยมมากกว่าหนังทุกเรื่องในแนวเดียวกัน รวมไปถึงอาวุธอันทันสมัยของพวกมันที่ใช้ในการสังหารมนุษย์” ผู้เขียนบท พอล ไรเชลต์กล่าวนับถอยหลังสู่มิติใหม่ของหนังแอ็คชั่น-ไซไฟใน “Osiris - มฤตยูล้างพันธุ์มนุษย์” โดย Movie Copyright (Thailand) เริ่ม 25 กันยายนนี้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น