รายการ “On the way with Chom” สัปดาห์นี้พบกับโรค “เส้นเลือดขอด” หากปล่อยแผลเรื้อรัง เสี่ยงติดเชื้อ แผลไม่หาย จนถึงขั้นตัดขา! ใส่ส้นสูงบ่อย นั่งไขว่ห้าง ยืนนาน นั่งนาน โรคอ้วน หรือเคยตั้งครรภ์ ต้องระวัง เปิดความจริงที่ยังเข้าใจกันผิด ๆ กับ “หมอเบล - นพ.อภิชาติ งานรุ่งเรือง” ศัลยแพทย์หลอดเลือด รู้ทันเรื่องเส้นเลือดขอดก่อนสาย
โรคที่เกี่ยวกับเส้นเลือดของคนเรามีกี่ชนิด แล้วแต่ละชนิดทำหน้าที่อะไรบ้าง ?
หมอเบล : เส้นเลือดในร่างกาย จะมีเส้นเลือดแดง Artery คือเส้นเลือดที่นำเลือดออกจากหัวใจเพื่อไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย พอเข้าไปสู่ปลายบริเวณที่จะมีการแลกเปลี่ยนก๊าซก็จะกลายเป็นเส้นเลือดฝอย แล้วก็จะถูกนำทั้งหมดกลับมาฟอกเข้ามาที่หัวใจ เพื่อปั้มไปฟอกที่ปอด อันนั้นคือเส้นเลือดดำ Vein คือเส้นเลือดดำที่สร้างปัญหาที่เป็นเส้นเลือดขอด ก็คือที่บริเวณขา
แล้วทำไมไม่เกิดกับเส้นเลือดแดง ?
หมอเบล : ต้องเท้าความไปในส่วนของความผิดปกติของมันก่อน เส้นเลือดแดงเป็นเส้นเลือดที่มีขนาดค่อนข้างหนา มีกล้ามเนื้อเป็นของตัวเอง สามารถปั๊มเลือด เหมือนเขามีปั๊มน้ำเป็นของตัวเอง ซึ่งไม่เหมือนกับเส้นเลือดดำ เส้นเลือดดำจริง ๆ มีกล้ามเนื้อแต่บางมากไม่สามารถปั๊มเลือดตัวเองขึ้นมาได้ ต้องใช้กล้ามเนื้อข้าง ๆ เช่น กล้ามเนื้อน่อง กล้ามเนื้อขา หรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกายในการช่วยบีบรัดเพื่อไล่เลือดออกไปด้านหน้า น้ำตกลงสู่ที่ต่ำร่างกายเราก็เลยสร้างประตู ผมให้เข้าใจง่าย ๆ ว่าเป็นประตูน้ำแบบหนึ่งครับ แต่ประตูน้ำนี้โดยปกติแล้วจะให้เลือดไปทางเดียว แต่วันดีคืนดีประตูมันดันเสียมันปิดไม่ได้ เลือดจากอยู่บนสุดหรือว่าอยู่ขึ้นไปสูงแล้วก็ตกพรวดลงมาเรื่อย ๆ คือมันจะแบ่งเหมือนเป็นห้องเล็ก ๆ ผมเปรียบเทียบว่าเส้นเลือดเหมือนท่อน้ำที่ยาวขึ้นไปมันจะถูกแบ่งเป็นห้อง ๆ ด้วยประตูนี่แหล่ะ ถ้าประตูเสีย 1 ประตูก็จะตกลงมาก็เลยขึ้นไปไม่ถึงข้างบนสักที ความดันหลอดเลือดก็เพิ่มขึ้น ห้องมันก็โตขึ้น เส้นเลือดมันก็โป่งขึ้น มันถึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ ทำไมเส้นเลือดขอดในผู้ป่วยบางท่านจึงมีขนาดเส้นที่มันใหญ่ขึ้นครับ
เราจะมีวิธีสังเกตไหม ก่อนที่มันจะไปถึงจุดนั้นว่าเขากำลังฟอร์มตัวแล้ว ?
หมอเบล : คืออาการของเส้นเลือดขอดมันเป็นกลุ่มโรคใหญ่ ๆ โรคหนึ่ง เส้นเลือดขอดไม่ใช่ตัวโรค จะเป็นหนึ่งในกลุ่มอาการของเขา ซึ่งจริง ๆ ตัวโรคชื่อว่า Chronic Venous Insufficiency (CVI) แปลเป็นภาษาไทยให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ภาวะหลอดเลือดดำบกพร่องเรื้อรัง ใช้เวลาในการก่อตัวโรคนานมากประมาณสัก 5- 10 ปี โดยปกติแล้วจะแบ่งความรุนแรงได้เป็น 6 ระยะ ระยะแรกก็คือมักจะเริ่มเห็นว่ามีเส้นเลือดฝอย เส้นเลือดเหมือนใยแมงมุมเล็ก ๆ บริเวณขา บริเวณน่อง ระยะที่รุนแรงมากขึ้นก็คือระยะที่ 3 ผู้ป่วยอาจจะมีอาการบวม มักจะเกิดกับที่บริเวณข้อเท้าก็ได้ หลังเท้า หรือตรงน่อง ระยะ 4 ก็จะเริ่มมีผิวหนังที่เข้มขึ้น แล้วก็แข็งขึ้นเมื่อปล่อยเวลาไปนานๆ เกิดการอักเสบรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำอีก สุดท้ายก็นำไปสู่การเกิดแผล ระยะที่ 5 แผลก็เป็นๆหายๆ แต่ถ้าแผลไม่หายก็คือระยะที่ 6 สุดท้าย โอกาสในการผ่าตัดก็จะสูงขึ้น ความซับซ้อนในการรักษาก็จะมากขึ้น
ถ้ารักษาไม่ถูกจุดสักที จะได้ตัดไหมคุณหมอ ?
หมอเบล : ยิ่งเราเปิดแผล มีแผลนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อในระยะยาวมากขึ้นอยู่แล้ว ในกรณีของผู้ป่วยที่เป็นแผลเรื้อรังโดยปกติเส้นเลือดขอดไม่ได้ส่งผลอะไรรุนแรง หมายความว่าแค่เป็นแผลที่ไม่หาย ถ้าผู้ป่วยปล่อยปะละเลยหรือในบางกรณีที่ผู้ป่วยเป็นเบาหวานร่วมด้วยแล้วก็รักษาเบาหวานได้ไม่ดีคุมน้ำตาลได้ไม่ดี ก็อาจจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อซ้ำซ้อน คือเฉพาะตัวแผลก็หนักแล้วเพราะมันไม่หาย ยิ่งคนไข้เป็นเบาหวานดูแลแผลไม่ดีก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะติดเชื้อที่รุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ จนบางครั้งผู้ป่วยอาจจะมีการสูญเสียอวัยวะได้
คุณหมอบอกว่ามีเคสหนึ่งที่ว่าเป็นแผลมา 3 ปี ?
นายเบล : ใช่ครับ เคสนี้ก็เป็นผู้ป่วยชาวต่างชาติ อายุประมาณ สซัก 60 กว่า ๆ ให้ประวัติว่า เขาเริ่มสังเกตเห็นว่าตัวเองมีเส้นเลือดขอดมาตั้งแต่อายุประมาณ 50 จนสุดท้ายปล่อยไว้ไม่ได้รักษาอะไรเพิ่มเติม จนกลายเป็นแผล ตอนแรกแผลก็เล็ก ๆ ประมาณเหรียญ 5 - 10 บาท ไปหาหมอทั่ว ๆ ไป หมอทั่วไปก็คิดว่าเป็นโรคแผลธรรมดา แผลไม่หาย มีการติดเชื้อ ผ่านไประยะเวลาเป็นปี จนแผลมันเริ่มใหญ่ขึ้น ๆ กลายเป็น 10 ซม. ได้ จนมารักษากับเราสรุปว่าผู้ป่วยท่านนี้ก็ได้ทำการผ่าตัด 7-10 เดือนหลังจากผ่า แผลถึงปิดและหายได้ โดยรวมกันทั้งหมดก็เกือบ 3 ปีถึงจัดการแผลนี้ได้
ถ้าเราไม่อยากเป็นเส้นเลือดขอด กลุ่มไหนที่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเส้นเลือดขอด ?
หมอเบล : โดยปกติความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดขอด มันจะแบ่งเป็นความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้กับความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงได้ ความเสี่ยงที่เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เช่น หญิงมีความเสี่ยงการเป็นเส้นเลือดขอดมากกว่าผู้ชายอยู่แล้ว อีกอันหนึ่งก็คือพันธุกรรม เช่น พ่อแม่เป็นลูกก็มีโอกาสเป็นมากขึ้น แล้วก็ในส่วนของความเสี่ยงที่ปรับเปลี่ยนได้ที่เจอกันได้บ่อยคือเป็นโรคอ้วนที่คนไข้บางท่านที่มี BMI มากกว่า 30 ขึ้นไปก็เริ่มเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นเส้นเลือดขอดแล้ว พอเราอ้วนมันก็อาจจะต้องใช้ความดันหลอดเลือดในการสูงขึ้นไปที่มันมากขึ้นหรืออักเสบติดเชื้อ อีกอันหนึ่งที่เจอได้บ่อยก็คือภาวะเส้นเลือดขอดหลังการตั้งครรภ์
ทำงานออฟฟิศก็มีโอกาสเหมือนกัน ?
หมอเบล : ใช่ครับ เพราะฉะนั้นจริง ๆ แล้วก็ถ้าเกิดเรานั่งทำงานออฟฟิศก็อาจจะต้องไปเข้าห้องน้ำ สักชั่วโมงละครั้ง หรือไปชงกาแฟบ้าง คือเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง ไม่ใช่ว่า 3-4 ชั่วโมงนั่งอยู่ท่าเดิมตลอด
แล้วใส่รองเท้าส้นสูงมีผลไหม ?
หมอเบล : รองเท้าส้นสูง จริง ๆ แล้วน่าจะมีผลอยู่พอสมควรครับ เพราะว่าเหมือนเราเขย่งเท้าตลอดเวลา มันก็จะมีความดันหลอดเลือดที่มันเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา แต่ว่าอาจจะไม่ได้เป็นความเสี่ยงที่สูงมากๆ
ถ้าเป็นแล้วต้องทำยัง ไง วิธีการรักษาในปัจจุบันมีอะไรบ้าง ?
หมอเบล : ควรต้องมาปรึกษาแพทย์ โดยปกติแล้วการรักษาเส้นเลือดขอด มีการรักษาหลัก ๆ อยู่ 2 อย่าง คือ การฉีดยา และ การผ่าตัด โดยการผ่าตัดก็คือคนไข้ที่มีเส้นเลือดขอดที่มีเส้นเลือดเสียในเส้นเลือดใหญ่ของมัน ส่วนเรื่องการฉีดยาจะโฟกัสที่การรักษาเส้นเลือดเส้นเล็ก ๆ หรือเส้นเลือดฝอย คือเส้นเลือดขอดที่ผู้ป่วยมีคือเส้นเลือดที่ทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ พวกนี้คือเส้นเลือดที่เราไม่จำเป็นต้องเก็บไว้การรักษาหลักๆ คือการทำลายเขาทิ้ง
เส้นเลือดขอดรักษาแล้วหายขาดไหม กลับมาเป็นอีกได้ไหม ?
หมอเบล : หลังจากรักษาแล้วไม่ว่าจะเป็นการฉีดหรือผ่าตัด สามารถกลับมาเป็นได้อีก แต่ว่าอาจจะใช้เวลาก่อโรคค่อนข้างใช้เวลาในระยะหนึ่ง ในผู้ป่วยบางท่านอาจจะไม่เป็นอีกเลยก็ได้ อยู่ที่การปรับเปลี่ยนหลายอย่างด้วย
เราจะป้องกันเส้นเลือดขอดยังไง มีท่าบริหาร การออกกำลังกาย หรือมีอาหารที่ช่วยป้องกันได้ไหม ?
หมอเบล : จริง ๆ แล้วถ้าในเชิงของอาหารน่าจะยังไม่มีหลักฐานในทางการแพทย์ที่ชัดเจนนะครับ แต่ว่าถ้าในเชิงของการลดความเสี่ยงแล้วกันครับ ก็คงลดน้ำหนักเพราะความอ้วนเป็นหนึ่งในความเสี่ยงของการเป็นเส้นเลือดขอดที่มากขึ้น อย่างที่ 2 ก็คือเรื่องของอิริยาบถก็อาจจะไม่นั่งนาน ไม่ยืนนาน อาจจะต้องมีการเปลี่ยน Activity บ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ แต่ก็เข้าใจว่าบางอาชีพหลีกเลี่ยงได้ยาก ผมว่าสิ่งสำคัญที่หลาย ๆ ท่าน ยังเข้าใจว่าเส้นเลือดขอดเป็นเรื่องของความไม่สวยงามก็คือถ้าเราไม่สนใจก็ไม่ได้เป็นอะไร ซึ่งจริง ๆ ไม่ใช่ เส้นเลือดขอดคือโรคเลยท่านต้องได้รับการรักษา แปลว่าถ้าท่านปล่อยปะละเลยไว้ หรือไม่ได้ใส่ใจโรคนี้อาจจะแย่ลง ท่านควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง หรือแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการรักษานี้ เพื่อรักษาท่านอย่างถูกต้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี