'พลอย เฌอมาลย์'เปิดใจครั้งแรก! ตรวจพบมะเร็งเต้านม น้ำหนักฮวบ13โล-ฉายแสงจนหน้าอกไหม้

'พลอย เฌอมาลย์'เปิดใจครั้งแรก! ตรวจพบมะเร็งเต้านม น้ำหนักฮวบ13โล-ฉายแสงจนหน้าอกไหม้

วันพฤหัสบดี ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 20.42 น.

23 ตุลาคม 2568 หลังจากหายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิงไปพักใหญ่ สำหรับนักแสดงตัวแม่ตัวมัม 'พลอย' เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์  ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่าในช่วงที่ผ่านมานักแสดงสาวสวยหายหน้าหายตาไปไหน 

ล่าสุด 'พลอย เฌอมาลย์' ได้ออกมาเปิดใจผ่านทางรายการ sisterhood พอดแคสต์ที่ดำเนินรายการโดย คุณแนท ธนวลัย วัชรพล บน YouTube ของ Mirror Thailand ซึ่งเรื่องที่พลอยเล่าทำเอาทุกคนช็อกสุดๆ 


เมื่อเธอได้เปิดใจว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีมรสุมชีวิตเกิดขึ้นในชีวิตของพลอยในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้จัดการ หรือว่าเรื่องนั้น และเรื่องสุขภาพมันมาพร้อมกันในจังหวะเดียวกัน เหมือนโดนพายุซัดแบบไม่ทันตั้งตัว 

ไปตรวจร่างกายก็เจอว่าเป็นมะเร็งเต้านม ตอนแรกที่รู้พลอยช็อกมาก ถามหมอกลับไปด้วยว่า มันคือเรื่องจริงเหรอ ซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง 

ครั้งแรกที่ตรวจสุขภาพประจำปี พบว่ามีก้อนเนื้อ แต่ตอนนั้นรูปร่างของมันดูไม่อันตราย และหมอให้ติดตามอาการไปเรื่อยๆ แต่พลอยไม่ไปตรวจสุขภาพปีครึ่ง เพราะเป็นคนกลัวเข็มมาก เป็นความดื้อของตัวเอง และพอมาตรวจอีกครั้ง ก้อนเนื้อมันโตแล้ว 

อีกทั้งพลอยยังคิดว่าตัวเองนั้นแข็งแรงดี ทุกอย่างดูปกติดีไม่น่าจะเป็นอะไร จนไปตรวจสุขภาพอีกครั้งก็เลยเจอ ตอนนั้นช็อก และเพื่อนที่รู้เรื่องก็แนะนำให้พลอยไปรักษาอีกโรงพยาบาลหนึ่ง  พลอยตรวจพบ 2 ข้าง ข้างซ้ายเป็นมะเร็ง ระยะที่ 2 แต่ข้างขวามันเป็นหินปูน ชิ้นเนื้อปกติหลังจากที่คุณหมอเจาะเอาไปตรวจ ไม่มีมะเร็ง 

ผ่าตัดครั้งแรก เอาชิ้นเนื้อไปตรวจว่าเป็นสายพันธุ์อะไร พอตรวจละเอียดก็พบว่าเป็นสายพันธุ์ชนิดพิเศษ คุณหมอบอกว่าเป็นมะเร็ง Special Type มี ต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งเต้านม สรุปคือพลอยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองด้วย มันลามไปต่อมน้ำเหลือง ตอนนั้นสิ่งที่พลอยกังวล เริ่มเครียดมากๆ คุณหมอบอกว่าต้องไปลุ้นในห้องผ่าตัด ฉีดสีเข้าไปแล้วมันจะลามไปอวัยวะหรือเปล่า ต้องไปลุ้นกันตอนนั้น 

หลังจากที่รู้ว่าเป็นมะเร็ง พลอยร้องไห้ คำว่ามะเร็งเป็นสิ่งที่ทุกคนกลัวและไม่อยากมีประสบการณ์อะไร ครั้งแรกพลอยกลัวมาก แต่คุณหมอบอกว่าไม่ต้องกลัว รู้เร็ว รักษาเร็ว เทคโนโลยีมีเยอะมาก พลอยยอมรับว่า เป็นคนที่ดูแลตัวเองมาอย่างดีตลอด ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นด้วยซ้ำว่าเป็นได้อย่างไร  แต่พอหลังจากที่ไปสืบมา ก็พบว่า คุณย่าทางคุณพ่อท่านเคยเป็น ก็น่าจะเป็นเรื่องของพันธุกรรม 

หลังจากที่ผ่าตัดเสร็จครั้งแรก บริเวณหน้าอกด้วยการคว้านชิ้นเนื้อออกไป เพราะพลอยเลือกการรักษาแบบไม่ตัดออกไป พักฟื้นไม่ถึงเดือนก็ผ่าตัดครั้งที่ 2 เพราะตรวจชิ้นเนื้อและพบว่ามันลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง พลอยก็พักฟื้นอยู่พักใหญ่ พลอยต้องฉายแสง 25 ครั้ง หน้าอกไหม้ไปข้างหนึ่ง เจ็บมาก ซึ่งพลอยต้องทำ 5 วันต่อสัปดาห์ คุณหมอบอกว่า พลอยไม่ต้องใช้คีโมรักษา ให้รักษาโดยการฉายแสง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการรักษา 

หลังจากฉายแสงจบ พลอยต้องกินยาลดฮอร์โมนเอสโตรเจนและฉีดด้วย มีผลกระทบต่อเราเยอะ เพราะผู้หญิงฮอร์โมนเอสโตรเจนมันสำคัญมากๆ สำหรับผู้หญิง พลอยกินยามาปีครึ่งแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงในร่างกายค่อนข้างเยอะ ตอนนั้นผอมมาก เพราะยาส่วนหนึ่ง อารมณ์ของพลอยสวิงมากเพราะลดฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วงนั้นทรมานมาก ตอนนั้นน้ำหนักลดไป 13 กิโล ภายในเวลาเกือบๆ 3 เดือน เครียดทั้งตัว หัวใจ และสมอง มันหนักมากที่สุดในชีวิตแล้ว ในตอนนั้นยอมรับว่าตกอยู่ในสภาวะความเครียดหลายๆ อย่าง มี 3 เรื่องที่รุมเข้ามาในชีวิตทีเดียว พลอยรับเรื่องนี้ไม่ทัน 

พลอยเล่าต่อว่า หลังจากที่รู้เรื่องว่าตัวเองป่วย หลายเรื่องเข้ามาในชีวิต ร้องไห้หนักมาก จำตัวเองไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร จมอยู่กับความทุกข์ ความเศร้า ความเสียใจ มันถูกกระทำจนพลอยจำไม่ได้ สูญเสียความเป็นตัวเองไป (น้ำตาคลอ) ในตอนนั้นคนรอบข้างก็พยายามให้สติ ให้กำลังใจพลอยมากๆ เพราะพลอยไม่มีความมั่นใจเลย ชีวิตเป๋มาก จนเดือนเมษายนพลอยถึงเริ่มดีขึ้น ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป

พลอยอยากจะหลุดพ้นจากความทุกข์ ความเศร้า ซึ่งก่อนหน้านี้พลอยก็ผ่านมันมาได้ แต่ครั้งนี้ยอมรับว่ามันยากที่สุดในชีวิต ยากมากที่จะหลุดพ้นออกมาได้ ในช่วงที่แย่ พลอยก็ให้เวลากับตัวเองวันต่อวัน เพราะถ้าฝืนยิ่งกดดันตัวเอง เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องแข็งแรง ไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่ง ยอมรับในความอ่อนแอของตัวเอง และบอกกับตัวเองว่า เดี๋ยวเราจะดีขึ้นแน่นอน ถึงเวลากลับมารักตัวเองให้มากๆ กลับมาดูแลหัวใจของตัวเอง กลับมาดูแลความรู้สึกของตัวเอง ไม่มีใครทำให้เราดีขึ้นได้นอกจากตัวเรา

ตอนที่ไม่สบายช่วงนั้นไม่ได้บอกใคร เพื่อนสนิทก็ไม่รู้ รู้แค่บางคน และยังบอกตอนที่ผ่าตัดเสร็จแล้วอีกด้วย เพราะรู้สึกว่ายังไม่พร้อมที่จะบอกใคร ซึ่งพลอยบอกว่า ไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง ไม่อยากรบกวนเพื่อนๆ คิดว่าตัวเองดูแลตัวเองได้ ถามว่าต้องการไหม ยอมรับว่าต้องการกำลังใจ ความห่วงใย แต่พลอยไม่กล้าขอ 

ณ วันนี้พลอยแข็งแรงมากขึ้น พอใจกับตัวเองมากขึ้น น้ำหนักเพิ่มขึ้นมา 8 กิโล ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 4 วัน วันละ 2-3 ชั่วโมง ตรวจสุขภาพล่าสุด ตรวจอย่างละเอียด ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ปลอดภัย แต่ก็ยังต้องกินยาอยู่  ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของพลอยเปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่ไม่ได้ฝืนตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้พลอยไม่ได้ใช้ชีวิตเลย แต่ตอนนี้ก็ได้กลับมาใช้ชีวิตแล้ว 

จริงๆ พลอยไม่ได้ทานคลีน ไม่ได้เฮลตี้ขนาดนั้น เลยทำให้รู้ว่าที่เป็นมะเร็งเพราะเราไม่ดูแลตัวเอง ปล่อยไปกับการใช้ชีวิต ตอนนั้นกินไม่เป็นเวลา กินเนื้อแดงเยอะมาก ใช้ชีวิตตามคนของเรา นอนเช้า กินอาหารแปรรูป มันเลยไปเร่งในการเจริญเติบโต บวกกับความเครียดด้วย และตอนนี้พลอยเลิกกินอาหารแปรรูปแล้ว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top