ไอเอสตัดคอญี่ปุ่นคนที่2

ขู่นองเลือด!

เตือนฝันร้ายแค่เริ่มต้น

ผู้นำโลกรุมประณามสุดโหด

‘อาเบะ’กร้าวไม่ยอมก้มหัว

หวั่นนักบินจอร์แดนคิวต่อไป

กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอเอส ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอการฆ่าตัดคอนายเคนจิ โกโตะ ตัวประกันชาวญี่ปุ่นที่เหลืออีก 1 คนแล้ว หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นและอีกหลายชาติพยายามหาทางช่วยเหลือมาหลายสัปดาห์ แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ว่า คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา โดยกลุ่มไอเอสใช้ชื่อว่า “สาสน์ถึงญี่ปุ่น” แสดงให้เห็นภาพของนายโกโตะ นักข่าวชาวญี่ปุ่น ในชุดสีส้ม อยู่ในท่าคุกเข่า โดยมีชายชุดดำสวมหน้ากากถือมีดยืนอยู่ข้างหลัง ซึ่งชายชุดดำผู้ทำหน้าที่ฆาตกรรมนายโกโตะที่ปรากฏในคลิปคาดว่าเป็น ญิฮาดี จอห์น ได้กล่าวโทษรัฐบาลญี่ปุ่นว่าเป็นสาเหตุให้นายโกโตะต้องตาย จากนั้นคลิปตัดไปในขณะที่ชายชุดดำนำมีดมาจ่อที่คอของนายโกโตะ และจบลงด้วยการแสดงภาพนิ่งของชายที่เชื่อว่าเป็นนายโกโตะ ถูกตัดคอไปแล้ว

“คุณเหมือนพันธมิตรที่โง่เขลาของพวกคุณในกลุ่มพันธมิตรซาตาน รัฐบาลอิสลามที่มีทั้งอำนาจและอิทธิพล ทั้งกองทัพกระหายอยากได้เลือดของพวกคุณ ชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตัดสินใจสะเพร่าที่จะเข้าร่วมในสงครามที่ไม่มีทางชนะ มีดนี้จะไม่แค่สังหาร เคนจิ แต่จะสังหารต่อไปและทำให้เกิดการนองเลือด ณ ที่ใดก็ตามที่พบประชาชนของคุณ ฉะนั้นให้ฝันร้ายสำหรับญี่ปุ่นเริ่มต้นขึ้นเถิด” ญิฮาดี จอห์น กล่าว

ด้านนายฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่น และหน่วยงานในสหรัฐอเมริกา กำลังเร่งตรวจสอบว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่ พร้อมกับเผยว่า “แต่จนถึงตอนนี้ยังคงไร้ข้อกังขาถึงการเสียชีวิตของโกโตะ”

ขณะเดียวกันภายหลังคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทางผู้นำญี่ปุ่น และผู้นำโลก ต่างก็ออกมารุมประณามการกระทำของกลุ่มไอเอสทันที โดยนายโยชิฮิเดะ สุกะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น กล่าวว่า ญี่ปุ่นรู้สึกเจ็บแค้นต่อวิดีโอนี้อย่างมาก และคณะรัฐมนตรีกำลังประชุมกันเพื่อหารือว่าจะตอบสนองต่อเรื่องนี้อย่างไร

ส่วนนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า รู้สึกโกรธมากต่อการก่อการร้ายที่ไร้มนุษยธรรม และเลวร้ายนี้ พร้อมประกาศว่าจะไม่ให้อภัยผู้ก่อการร้ายเหล่านี้อย่างเด็ดขาด โดยจะร่วมมือกับประชาคมโลกนำผู้ที่ฆาตกรรมนายโกโตะ มารับความผิดให้ได้ และจะไม่ยอมก้มหัวให้การก่อการร้ายอย่างเด็ดขาด

ขณะที่นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกโรงประณามเหตุสลดครั้งนี้ว่าเป็น “การฆาตกรรมเลวทราม” และจะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อทำลายกลุ่มอิสลามสุดโต่งต่อไป พร้อมกับระบุว่า “โกโตะ ได้เสนอข่าวเพื่อถ่ายทอดชะตากรรมของประชาชนชาวซีเรียให้คนทั่วโลกรับรู้ด้วยความกล้าหาญ”

ส่วนนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “เป็นเครื่องเตือนใจว่ากลุ่มไอเอส คือ บ่อเกิดของความชั่วร้าย ที่ไม่เคยแยแสชีวิตมนุษย์”

ด้านนายฟรองซัวส์ โอลองด์ ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส ประณามการกระทำของกลุ่มไอเอสว่าเป็น “การฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม”

เช่นเดียวกับโฆษกของ บัน คีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ที่ก็ออกมาตำหนิกลุ่มไอเอส ว่าเป็น “การสังหารอันป่าเถื่อน” พร้อมชี้ว่าการตายของนายโกโตะ สะท้อนให้เห็นว่ายังมีคนมากมายที่ต้องทนทุกข์ทรมานในอิรักและซีเรีย

ทางด้านนางจุนโกะ อิชิโด มารดาของนายโกโตะ กล่าวกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตา ขณะให้สัมภาษณ์ที่บ้านในชานกรุงโตเกียว ว่า “ช่างน่าเวทนาเสียจริง แต่ถึงอย่างไรเคนจิก็จากเราไปแล้ว ฉันไม่อาจสรรหาคำมาพรรณนาได้เลยว่ามันเศร้าเพียงใดที่ลูกชายฉันต้องมาจบชีวิตแบบนี้”

ส่วนนายจุนอิจิ โกโตะ พี่ชายของนายโกโตะ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยตั้งความหวังว่า จะได้พบหน้าน้องชายอีกครั้ง ระบุกับสถานีโทรทัศน์แห่งชาติญี่ป่น(เอ็นเอชเค) ว่า “แต่คงไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว”

ทั้งนี้ กลุ่มไอเอสได้ยื่นข้อเรียกร้องขอแลกเปลี่ยนตัวนายโกโตะ กับนางซาจิดา อัล-ริชาวี นักโทษมือระเบิดหญิงชาวอิรักที่ถูกจำคุกในจอร์แดน มาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน แต่ทางการญี่ปุ่นไม่ยินยอม และพยายามวิ่งเต้นหาทางช่วยด้วยวิธีอื่นแทนแต่ไม่สำเร็จ โดยคลิปวิดีโอฆ่าตัดหัวนายโกโตะ ถูกปล่อยออกมา 1 สัปดาห์หลังจากที่กลุ่มไอเอส เผยคลิปร่างที่ไร้ศีรษะของนายฮารุนะ ยูกาวะ ตัวประกันญี่ปุ่นอีกคน

นอกจากนี้นายโกโตะ ยังถูกควบคุมตัวไว้พร้อมกับนายมูอัท อัล-คาซาเอสเบห์ นักบินชาวจอร์แดนอีก 1 คน ที่ถูกกลุ่มไอเอสจับตัวไปหลังเครื่องบินตกระหว่างออกไปปฏิบัติภารกิจทิ้งระเบิดใส่ฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอสในซีเรีย เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งการฆาตกรรมนายโกโตะ ทำให้คนในครอบครัวของนายมูอัท หวาดวิตกว่าเขาจะกลายเป็นเหยื่อความโหดเหี้ยมรายต่อไป

ประธานคณะกรรมการสนับสนุนนายมูอัท ในเมืองคารัก บ้านเกิดของเขา กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ข้อมูลเกี่ยวกับนายมูอัท ยังกำกวมอยู่ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ หรือเสียชีวิตแล้ว แต่พวกเรายังมีความหวังว่าชะตากรรมของเขาจะไม่ลงเอยแบบเดียวกับนายโกโตะ ซึ่งเรื่องนี้ต้องอาศัยความพยายามอย่างหนักของรัฐบาลจอร์แดน ตลอดจนการทำงานแข่งกับเวลาเพื่อช่วยเหลือนายมูอัท ทุกวิถีทาง