ฮาวานา (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - คิวบาประกาศไว้อาลัยต่อการจากไปของนายฟิเดล คาสโตร เป็นเวลา 9 วัน และจัดรัฐพิธีศพในเดือนหน้าขณะที่ผู้นำโลกฝ่ายซ้ายต่างร่วมไว้อาลัย แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ บอกว่าคาสโตรเป็นผู้นำที่โหดร้ายป่าเถื่อน

บรรยากาศบริเวณจัตุรัสการปฏิวัติ ในกรุงฮาวานาของคิวบา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาดำเนินไปอย่างเงียบเหงา หลังจากประธานาธิบดี ราอูล คาสโตร แห่งคิวบา ประกาศว่า นายฟิเดล คาสโตร อดีตนำคิวบาและผู้นำการปฏิวัติคิวบา ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบด้วยวัย 90 ปีในช่วงดึกวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือเช้าวันเสาร์ตามเวลาในไทย โดยคิวบาได้ประกาศไว้อาลัยให้แก่ผู้นำการปฏิวัติคิวบา เป็นเวลา 9 วันรัฐบาลได้จัดพิธีฌาปนกิจศพของนายคาสโตรในวันเสาร์และจะมีการแห่อัฐิของเขาไปทั่วประเทศ ก่อนถึงรัฐพิธีศพในวันที่ 4 ธันวาคมนี้ นอกจากนั้น คิวบายังวางแผนจัดการเดินขบวนครั้งใหญ่บริเวณจัตุรัสการปฏิวัติและในเมืองซาเตียโก ในช่วงเช้าวันจันทร์ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายคาสโตร หลังจากเขานำคณะการปฏิวัติโค่นอำนาจนายฟุลเกนซิโอบาติสต้า อดีตผู้นำเผด็จการคิวบา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ เป็นผลสำเร็จ เมื่อช่วง 6 ทศวรรษที่ผ่านมาท ขณะที่ ทูตจากชาติตะวันตกระบุว่า คณะผู้นำระดับสูงต่างชาติจะเดินทางเข้าร่วมพิธีรำลึกนายคาสโตร ณ จัตุรัสการปฏิวัติ ในช่วงค่ำวันอังคาร

ประชาชนชาวคิวบาจำนวนมากเดินทางไปสวดภาวนาตามโบสถ์ต่างๆ ขณะที่นักศึกษาหลายร้อยคนจัดกิจกรรมรำลึกแก่นายคาสโตรในมหาวิทยาลัยกรุงฮาวานา ชาวคิวบาระบุว่า นายคาสโตรจะอยู่ในความคิดถึงของประชาชนตลอดไป เพราะคุณงามความดีที่เขาทำเพื่อคิวบา รวมถึงประเทศอื่นๆในแอฟริกาและลาตินอเมริกา ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวสเปนคนหนึ่งระบุว่า นี่เป็นการเสียชีวิตของคนสำคัญระดับโลก อย่างไรก็ตาม บรรยากาศกลับตรงกันข้ามเมื่อข้ามฝั่งช่องแคบฟลอริดามาที่ชุมชนผู้อพยพชาวคิวบา ซึ่งรู้จักกันในชื่อ “ลิตเทิล ฮาวานา” ในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ของสหรัฐ โดยประชาชนจำนวนมากพากันออกมารวมตัวตามท้องถนนเพื่อเฉลิมฉลองการจากไปของจอมเผด็จการ ซึ่งกดขี่ข่มเหงและลิดรอนสิทธิมนุษยชนของประชาชนในประเทศ ตลอดระยะเวลา 49 ปีที่ครองอำนาจ

เช่นเดียวกับท่าทีของผู้นำประเทศในโลกการเมืองฝ่ายขวาและฝ่ายซ้ายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูตินผู้นำรัสเซีย กล่าวว่าเป็นการสูญเสียหนึ่งในบุคคลสำคัญของประวัติศาสตร์โลกยุคใหม่ ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ผู้นำจีน กล่าวว่า
สหายคาสโตร จะอยู่ในความทรงจำของชาวจีนตลอดไป ส่วนประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา กล่าวขอให้พวกเราทุกคนสานต่ออุดมการณ์ของคาสโตรต่อไป ในขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่าประวัติศาสตร์จะจารึกและตัดสินสิ่งที่คาสโตรได้ทำเอาไว้ตลอดระยะเวลาเกือบ 6 ทศวรรษที่ผ่านมา ส่วนนายโดนัลด์ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไป กล่าวว่าคาสโตรคือจอมเผด็จการผู้โหดร้ายและป่าเถื่อน

ทั้งนี้ คาสโตรศึกษาและซึมซับอุดมการณ์การเมืองแบบสังคมนิยมระหว่างศึกษาอยู่ที่คณะนิติศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยฮาวานา และกลายเป็นที่จับตาของสหรัฐและสหภาพโซเวียต หลังต่อสู้ด้วยยุทธวิธีแบบกองโจรจนสามารถล้มอำนาจรัฐบาลทหารที่รัฐบาลวอชิงตันสนับสนุนได้สำเร็จ เมื่อปี 2502 และสถาปนาคิวบาเป็นรัฐคอมมิวนิสต์แบบเต็มตัว คาสโตรถือเป็นหนึ่งในศัตรูคนสำคัญของสหรัฐตลอดสมัยสงครามเย็น ผ่านเหตุการณ์สำคัญที่เกือบบานปลายเป็นสงครามใหญ่ทั้งยุทธการอ่าวหมู เมื่อปี 2504 และวิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบา เมื่อปี 2505 และรอดจากการลอบสังหารโดยสำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ)มากกว่า 600 ครั้ง