20 ก.พ.61 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ทางการอินโดนีเซียประกาศยกระดับเตือนภัยด้านการบิน ภูเขาไฟซินาบุง บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ขึ้นสู่สีแดง หรือ ระดับสูงสุด หลังเกิดการปะทุครั้งใหม่ พ่นเถ้าถ่านขึ้นบนท้องฟ้ากว่า 7 กิโลเมตร นับเป็นการปะทุที่รุนแรงที่สุดในปีนี้
โดยโฆษกสำนักงานป้องภัยภัยพิบัติอินโดนีเซียกล่าวว่า ภูเขาไฟเริ่มปะทุตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พร้อมด้วยแรงสั่นสะเทือนหลายครั้ง มีเศษหินขนาดเล็กที่ถูกพ่นออกมาจากภูเขาไฟตกกระจายอยู่ในชุมชนโดยรอบ ส่วนการท่าอากาศยานได้ปิดสนามบินคูตาซานี ในจังหวัดอาเจะห์แล้ว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเถ้าถ่านภูเขาไฟซินาบุง
ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาและศูนย์ภูเขาไฟออสเตรเลีย ในเมืองดาร์วิน ประเทศออสเตรเลีย ออกแผนที่แสดงจุดกระจายตัวของกลุ่มเถ้าถ่านจากภูเขาไฟซินาบุงใน 3 ทิศทางไปทางเหนือ ตะวันตกเฉียงเหนือ และตะวันออกเฉียงใต้
ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ได้ออกประกาศเตือนคนไทย ให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ภูเขาไฟ ข้อความว่า "ตามที่ได้เกิดเหตุปะทุของภูเขาไฟซินาบุงทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นมา โดยปัจจุบัน รัฐบาลอินโดนีเซียได้ประกาศเตือนภัยระดับ 4 (เฝ้าระวัง) และห้ามเข้าพื้นที่ในรัศมี 7 กม. จากภูเขาไฟ รวมถึงปรับระดับเตือนภัยการบินเป็นสีแดงนั้น
ในเบื้องต้น ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีชาวไทยที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา ขอให้ชาวไทยหลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าว และหากมีกรณีฉุกเฉิน สามารถติดต่อหมายเลขฉุกเฉินของสถานกุงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองเมดาน +62 813 70888785 และหมายเลขฉุกเฉินของสถานทูตฯ +62 811 186253 ได้ตลอด 24 ชม."
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'ภูเขาไฟ'บนเกาะสุมาตราปะทุครั้งใหม่ พ่นเถ้าถ่านขึ้นท้องฟ้ายาวกว่า5กม. (ชมคลิป)
PIC : express
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี