วอชิงตัน/สหประชาชาติ (เอพี/รอยเตอร์) - นักการทูตยุโรปเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ จะพยายามกดดันอิหร่านให้เข้าสู่จะเจรจา โดยจะใช้มาตรการขั้นสูงสุดแบบเดียวกับที่ใช้กับเกาหลีเหนือเพราะคิดว่าได้ผลมาแล้ว
นักการทูตยุโรปกล่าวว่า รัฐบาลทรัมป์เชื่อว่าการเจรจาอย่างแข็งกร้าวควบคู่ไปกับมาตรการคว่ำบาตรขนานใหญ่สามารถบีบให้นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเปลี่ยนท่าทีภายใน 12 เดือนนับจากที่ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายนปีก่อนขู่จะใช้หลักการกดดันขั้นสูงสุดกับเกาหลีเหนือและอิหร่าน รัฐบาลทรัมป์จึงคิดจะใช้วิธีการเดียวกันกับอิหร่านคือลงโทษอย่างหนักแล้วจึงเจรจาจากจุดยืนที่แข็งกร้าว ด้านประธานาธิบดีฮัสซัน โรว์ฮานี ของอิหร่าน ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ต่อสมัชชาใหญ่ยูเอ็นในวันอังคารตามเวลานิวยอร์กให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีของสหรัฐ บอกปัดว่า แบบจำลองเกาหลีเหนือไม่สามารถเป็นแบบจำลองที่ถูกต้องเพราะนำมาเปรียบเทียบกับอิหร่านไม่ได้
มูลนิธิเพื่อการปกป้องประชาธิปไตยในสหรัฐมองว่า เกาหลีเหนือและอิหร่านมีความคล้ายกันอย่างชัดเจนทั้งเรื่องเป็นรัฐอันธพาลและเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ การใช้ยุทธศาสตร์กดดันขั้นสูงสุดจึงเป็นเรื่องชาญฉลาดและสมเหตุสมผล แต่จะมีความท้าทายในการดำเนินการ นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์เผยกับสื่อเมื่อวันจันทร์ว่า สหรัฐคาดหวังให้อิหร่านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมครั้งใหญ่ จึงจะเดินหน้าสิ่งที่ประธานาธิบดีเรียกว่าการกดดันขั้นสูงสุดจนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสมัยรัฐบาลบารัค โอบามา เชื่อว่า ยุทธศาสตร์ของทรัมป์จะล้มเหลวเพราะไม่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญอย่างสมาชิกในคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น และถูกศัตรูอิหร่านชี้นำมากเกินไป
ขณะเดียวกัน สหภาพยุโรป (อียู) ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ว่า จะมุ่งมั่นปกป้องเสรีภาพของผู้ประกอบธุรกิจที่จะทำธุรกิจชอบด้วยกฎหมายกับอิหร่านต่อไป ด้วยการตั้งกลไกใหม่อำนวยความสะดวกให้แก่การชำระเงินในการนำเข้าสินค้าอิหร่านรวมถึงน้ำมันและการส่งออกสินค้าให้แก่อิหร่าน โดยไม่ถูกสหรัฐใช้มาตรการลงโทษธุรกิจที่ทำการค้ากับอิหร่าน นางเฟเดริกา โมเกรินี หัวหน้านโยบายต่างประเทศอียูแถลงว่า สมาชิกอียูจะตั้งนิติบุคคลขึ้นอำนวยความสะดวกการทำธุรกรรมที่ชอบธรรมกับอิหร่าน เพื่อให้บริษัทยุโรปสามารถค้าขายกับอิหร่านตามกฎหมายอียูได้ต่อไป และอาจเปิดให้ประเทศอื่นเข้าร่วมในอนาคต นางโมเกรินีระบุด้วยว่า 5 ประเทศที่ร่วมลงนามในแผนปฏิบัติการครอบคลุมร่วม ซึ่งเป็นข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านเมื่อปี 2558 ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี จีน และรัสเซียจะสนับสนุนให้อิหร่านใช้พลังงานนิวเคลียร์ทางพลเรือนต่อไป เพราะเป็นประโยชน์ของนานาชาติ เธอย้ำด้วยว่า อิหร่านได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวเรื่องลดโครงการนิวเคลียร์อย่างมีนัยสำคัญแลกกับการให้นานาชาติยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี