มหาเธร์ปล่อยอุยกูร์หนีจากไทย
กัวลาลัมเปอร์ - นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ของมาเลเซียเผยว่า ทางการปล่อยตัวชายอุยกูร์ 11 คน ที่หลบหนีจากไทยเมื่อปลายปีก่อนเพราะไม่ได้กระทำความผิดในมาเลเซีย หลังจากทนายความของชายอุยกูร์กลุ่มนี้เผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า อัยการมาเลเซียได้ยกฟ้องชายอุยกูร์ทั้งหมดด้วยเหตุด้านมนุษยธรรม ทางการจึงได้ปล่อยตัวและส่งตัวไปตุรกี ไม่ได้เนรเทศไปจีนตามที่จีนร้องขอ ชายอุยกูร์ 11 คน หลบหนีจากห้องขังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา ช่วงเช้ามืดวันที่ 25 พฤศจิกายน ปีก่อน แล้วหลบหนีข้ามพรมแดนเข้าไปในมาเลเซีย ก่อนถูกจับและตั้งข้อหาลอบเข้าเมือง จีนขอให้รัฐบาลมาเลเซียสมัยนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ส่งกลับจีนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เพราะเคยส่งชาวอุยกูร์กลับจีนแล้ว 29 คน เมื่อปีก่อนโดยระบุว่าพัวพันกับกลุ่มติดอาวุธ แต่รัฐบาลมหาเธร์ที่เข้ารับตำแหน่งหลังชนะเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม แสดงท่าทีแข็งกร้าวกับจีน เช่น ยกเลิกโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่บริษัทจีนเกี่ยวข้องรวมมูลค่ากว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 655,038 ล้านบาท)
ฟ้องประธานโคเรียนแอร์
โซล - นายโช ยาง โฮ ประธานฮันจินกรุ๊ป ของเกาหลีใต้ ซึ่งมีสายการบินโคเรียนแอร์รวมอยู่ด้วย ถูกอัยการยื่นฟ้องข้อหายักยอกกว่า 20,000 ล้านวอน (กว่า 577 ล้านบาท) ข้อหาให้สัญญาจัดซื้อจัดจ้างแก่บริษัทของสมาชิกครอบครัวอย่างไม่เป็นธรรม และข้อหาขอสวัสดิการดูแลสุขภาพจากสำนักงานประกันของรัฐ 152,000 ล้านวอน (ราว 4,388 ล้านบาท) ด้วยการยืมชื่อคนอื่นมาเปิดบริษัทยาอย่างผิดกฎหมาย อย่างไรก็ดี อัยการยังไม่ได้กำหนดวันเปิดการไต่สวนคดีและยังไม่มีการควบคุมตัวนายโชแต่อย่างใด ประธานฮันจินกรุ๊ปเคยถูกฟ้องข้อหาเลี่ยงภาษีมรดก 61,000 ล้านวอน (ราว 1,761 ล้านบาท) เมื่อบิดาผู้ก่อตั้งกลุ่มถึงแก่กรรมในปี 2545 แต่คดีหมดอายุความไปในปี 2557 นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างรอลงอาญาคดีเลี่ยงภาษีในปี 2543 และรอขึ้นศาลคดีนำเงินบริษัท 30,000 ล้านวอน (ราว 866 ล้านบาท) ไปใช้ซ่อมบ้านตัวเอง
เซียร์สยื่นขอล้มละลาย
นิวยอร์ก - เซียร์ส โฮลดิ้ง ธุรกิจค้าปลีกของสหรัฐที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2435 และเป็นเจ้าของเคมาร์ทด้วย ยื่นล้มละลายตามมาตรา 11 แล้ว เนื่องจากนายเอ็ดเวิร์ดหรือเอ็ดดี แลมเพิร์ต ประธานกรรมการบริหาร (ซีอีโอ) ที่ซื้อเซียร์สในปี 2547 ตกลงกับคณะกรรมการพิเศษไม่ได้เรื่องแผนการฟื้นฟูกิจการของเขา เอกสารที่เซียร์สยื่นต่อศาลล้มละลายแขวงนิวยอร์กใต้ระบุว่า บริษัทมีทรัพย์สิน 6,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 225,900 ล้านบาท) และหนี้สิน 11,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 369,930 ล้านบาท) การยื่นล้มละลายตามมาตรา 11 เป็นการขอให้มีการปรับโครงสร้างบริษัทโดยที่ลูกหนี้ยังต้องการดำเนินธุรกิจต่อไปและจะจ่ายชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ เซียร์สครองตำแหน่งธุรกิจค้าปลีกใหญ่ที่สุดในสหรัฐในแง่ของรายได้ในประเทศ จนกระทั่งถูกวอลมาร์ทแซงในปี 2532 และร่วงมาอยู่อันดับที่ 23 เมื่อปีก่อน อีกทั้งบริษัทไม่มีกำไรมาตั้งแต่ปี 2554 ขณะที่พ่ายแพ้ต่อทั้งบริษัทคู่แข่งและธุรกิจอี-คอมเมิร์ซอย่างเอมะซอน ทำให้ต้องปิดสาขาและขายทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน เซียร์สจ้างพนักงานทำงานทั่วประเทศราว 90,000 คน และมีสาขาทั่วประเทศ 860 สาขา ลดลงจาก 1,700 สาขา เมื่อปลายปี 2557
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี