วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์) - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ปฏิเสธปิดบังรายละเอียดการหารือกับผู้นำรัสเซียในหลายกรณี พร้อมยืนยันความเสียหายของการไม่สร้างกำแพงที่ติดกับเม็กซิโกที่ส่งผลกระทบต่อวิกฤติชัตดาวน์ในประเทศที่ยืดเยื้อนานกว่า 3 สัปดาห์ ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันเรียกร้องให้ทรัมป์เปิดการทำงานของหน่วยงานรัฐบางส่วนชั่วคราว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ปฏิเสธกรณีที่หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานโดยอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ที่ระบุว่า เขาปิดบังรายละเอียดของการหารือเป็นการส่วนตัว 5 ครั้ง กับประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการประชุมสุดยอดที่กรุงเฮลซิงกิ ของฟินแลนด์เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว และการประชุมที่เมืองฮัมบวร์กของเยอรมนี ที่นายทรัมป์เอาบันทึกที่ล่ามจดไว้ไปด้วย ทั้งๆ ที่ปกตินายทรัมป์จะให้ผู้ช่วยฟังการสนทนาทางโทรศัพท์ที่เขาหารือกับปูติน โดยนายทรัมป์บอกว่าเขาไม่เคยปกปิดเรื่องใดๆ และเขาหารือกับนายปูตินเหมือนที่อดีตประธานาธิบดีทุกคนเคยกระทำ
นายทรัมป์กล่าวเสริมว่า เขาประชุมแบบตัวต่อตัวกับผู้นำหลายประเทศ แต่การพบกับนายปูตินทุกครั้งกลับถูกเพ่งเล็ง ซึ่งเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับรัสเซียถือเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งสิ้น และหากสื่อไปถามชาวรัสเซียก็จะทราบว่าเขาเข้มงวดกับรัสเซียมากกว่าประธานาธิบดีคนก่อนๆ
ส่วนที่หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์รายงานว่าเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ หรือ เอฟบีไอ เริ่มสอบสวนว่าเขาทำงานให้กับรัสเซีย หรือ ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัสเซียโดยไม่รู้ตัวนั้น นายทรัมป์บอกว่าเป็นรายงานข่าวที่เลวร้ายมาก
อีกด้านหนึ่ง นายทรัมป์ยังยืนยันความเสียหายจากปัญหาชายแดนที่ติดกับเม็กซิโกว่ามีมากเกินกว่าผลกระทบที่เกิดจากวิกฤติการปิดทำงานของหน่วยงานรัฐ หรือภาวะชัตดาวน์ที่ยืดเยื้อมานาน 23 วันแล้ว และถือว่ายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ โดยนายทรัมป์บอกว่าการสร้างกำแพงบริเวณชายแดนทางใต้จะช่วยลดอัตราอาชญากรรมทั่วประเทศได้ ขณะที่นายลินด์เซย์ เกรแฮมวุฒิสมาชิกอาวุโสของพรรคเดโมแครตเรียกร้องให้นายทรัมป์ช่วยให้หน่วยงานรัฐเปิดทำการได้เป็นการชั่วคราว เพื่อช่วยให้พรรครีพับลิกันและเดโมแครตกลับมาเจรจากันอีกครั้ง ซึ่งหากการเจรจายังคงล้มเหลว ทำเนียบขาวก็อาจประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติได้
ขณะที่มีรายงานว่า ปัญหาชัตดาวน์ที่ยืดเยื้ออยู่ในขณะนี้ ทำให้ผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานานาชาติไมอามีไม่พอใจเพราะต้องรอคิวยาวกว่าปกติ หลังภาวะชัตดาวน์กระทบพนักงานรัฐบาลกลางราว 800,000 คน พนักงานในส่วนที่ไม่จำเป็นต้องพักงานไม่ได้รับค่าจ้าง ขณะที่พนักงานในส่วนที่จำเป็น เช่น พนักงานรักษาความปลอดภัยในท่าอากาศยาน ต้องทำงานแม้ไม่ได้รับค่าจ้าง ทำให้หลายคนประท้วงด้วยการลาป่วยมากจนผิดปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี