ไครสต์เชิร์ช (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - ตำรวจนิวซีแลนด์ยืนยันเหตุโจมตีมัสยิด 2 แห่ง ในเมืองไครสต์เชิร์ชเมื่อวันศุกร์เป็นการลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว ส่วนผู้ที่ถูกจับกุม 3 คน หลังเกิดเหตุ เชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตขยับเป็นอย่างน้อย 50 ศพ
ไมค์ บุช ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาตินิวซีแลนด์ แถลงว่า นายเบรนตัน แทร์แรนต์ ชาวออสเตรเลีย วัย 28 ปี ซึ่งถูกตั้งข้อหาโจมตีมัสยิด 2 แห่งคืออัล นูร์ และลินวูด ในเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เชื่อเป็นการลงมือก่อเหตุเพียงลำพังคนเดียว แม้ว่าหลังเกิดเหตุจะมีผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมตัว 3 คน แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ โดย 2 คน ถูกจับกุมใกล้สถานที่เกิดเหตุ ส่วนผู้หญิงอีกคนหนึ่งได้รับการปล่อยตัวไปแล้วโดยไม่มีการตั้งข้อหา อย่างไรก็ตามตำรวจก็ยังสอบสวนไม่เสร็จสิ้น จึงยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจน และว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำงานกันอย่างรวดเร็วเพื่อให้กระบวนการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของเหยื่อเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการโดยเร็ว ส่วนนายแทร์เรนต์ ผู้ต้องสงสัยวัย 28 ปี ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมเมื่อวันเสาร์ เขาถูกส่งตัวไปคุมขังระหว่างรอการพิจารณาคดีและต้องมาขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 5 เมษายน ซึ่งตำรวจคาดว่าเขาอาจโดนโทษหลายข้อหา
ด้านหัวหน้าแผนกห้องผ่าตัดโรงพยาบาลไครสต์เชิร์ชแถลงว่า มีผู้บาดเจ็บในขั้นวิกฤติ 13 คน ซึ่งรวมถึงเด็กคนหนึ่ง ภายหลังเหตุกราดยิงที่มัสยิด คนไข้กลุ่มดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดหลายครั้งจากบาดแผลที่ได้รับ ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงเพิ่มเป็น 50 ศพ ในวันอาทิตย์ ภายหลังตำรวจพบอีกศพอยู่ภายในมัสยิด ขณะที่ครอบครัวรอกระบวนการพิสูจน์ศพของทางการ ก่อนที่จะนำศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา คาดว่ากระบวนการส่งศพคืนครอบครัวทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในวันพุธนี้
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ผู้นำนิวซีแลนด์ เผยว่า สำนักนายกรัฐมนตรีได้รับประกาศเจตนารมณ์จากมือปืนที่ต้องสงสัยว่ากราดยิงในมัสยิด 2 แห่งที่เมืองไครสต์เชิร์ช ทำให้มีผู้เสียชีวิต 50 ศพ เพียงไม่กี่นาทีก่อนก่อเหตุเมื่อวันศุกร์โดยไม่มีการเปิดเผยสถานที่และไม่มีรายละเอียดชัดเจน นางอาร์เดิร์นกล่าวว่า ในช่วงเวลา 2 นาที ข้อความดังกล่าวได้รับการส่งต่อให้กับหน่วยความมั่นคงหลังจากนั้น ซึ่งเป็นคำประกาศที่เต็มไปด้วยแนวคิดขวาจัด ในส่วนของพิธีไว้อาลัยของรัฐบาลนั้น รัฐสภานิวซีแลนด์จะมีพิธีไว้อาลัยในวันอังคาร และย้ำว่านิวซีแลนด์จำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายเรื่องการถือครองและการจำหน่ายอาวุธปืนใหม่
ในอีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่าสว.เฟรเซอร์ แอนนิง วัย 69 ปี ซึ่งเป็น สว.รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย มาตั้งแต่ปลายปี 2560 ถูกประณามอย่างหนักจากการแสดงความเห็นเมื่อวันเสาร์ว่า เหตุยิง 49 ศพ ที่มัสยิดสองแห่งในเมืองไครสต์เชิร์ชของนิวซีแลนด์เป็นเพราะชาวมุสลิมอพยพเข้าไปอยู่ในนิวซีแลนด์ ทำให้ในระหว่างที่กำลังแถลงข่าวมีชายหนุ่มคนหนึ่งนำไข่ไปโปะบนศีรษะเขา สว.สูงวัยจึงรัวหมัดใส่หน้าชายคนนั้นอย่างไม่ยั้ง จนกระทั่ง รปภ.เข้ามาห้ามไว้ ด้านนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันกล่าวว่า ความเห็นของ สว.แอนนิงน่ารังเกียจและน่าเกลียด ไม่มีใครในออสเตรเลียยอมรับ และจะมีการยื่นญัตติไม่ไว้ใจ สว.แอนนิง ในเร็วๆ นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี