ซีอีโอโคเรียนแอร์ถูกขับพ้นบอร์ด
โซล - นายโช ยางโฮ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) สายการบินโคเรียนแอร์ของเกาหลีใต้ ถูกผู้ถือหุ้นลงมติขับพ้นจากคณะกรรมการบริหาร หรือบอร์ดบริษัทแล้ว นับเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในกลุ่มธุรกิจใหญ่เกาหลีใต้คนแรกที่ถูกขับพ้นบอร์ด แม้จะถือหุ้นร้อยละ 30 ในโคเรียนแอร์ผ่านฮันจิน เคแอลเอ คอร์ป ที่เป็นบริษัทแม่ ผลการลงมติทำให้หน้าที่บริหารของเขาชะงัก แต่เขายังคงควบคุมบริษัทอยู่ โดยยังคงเป็นประธานและผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด ครอบครัวตระกูลโชถูกสังคมตรวจสอบหนักในช่วงหลายปีมานี้ หลังจากถูกสอบสวนคดีอาญาหลายคดีตั้งแต่ทำร้ายร่างกาย ยักยอก และลอบนำเข้าสินค้าหรู นายโชกำลังขึ้นศาลคดียักยอกเงินกว่า 20,000 ล้านวอน (กว่า 560 ล้านบาท) และให้บริษัทในครอบครัวได้สัญญาจัดซื้อจัดจ้างอย่างไม่เป็นธรรม เขากำลังรอขึ้นศาลคดีนำเงินบริษัท 30,000 ล้านวอน (ราว 840 ล้านบาท) ไปปรับปรุงบ้าน และเคยได้รับการรอลงอาญาคดีเลี่ยงภาษีในปี 2543 ขณะที่บุตรสาวคนโตของเขาเกรี้ยวกราดไม่พอใจพนักงานโคเรียนแอร์ที่เสิร์ฟถั่วทั้งถุง บุตรสาวคนเล็กสาดน้ำใส่หน้าผู้จัดการบริษัทโฆษณาในที่ประชุม และภรรยาถูกสอบปากคำเรื่องทำร้ายร่างกายสาวใช้หลายคน
นายกฯอินเดียคุยยิงดาวเทียมตก
นิวเดลี - นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย แถลงผ่านโทรทัศน์ว่า คณะนักวิทยาศาสตร์อินเดียประสบความสำเร็จในการยิงดาวเทียมตกด้วยขีปนาวุธไปเมื่อไม่นานมานี้ เป็นดาวเทียมที่โคจรในระดับต่ำและอยู่ในอวกาศไกลออกไป 300 กิโลเมตร ถือเป็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ เป็นความสำเร็จที่อินเดียไม่เคยมีมาก่อน และบันทึกชื่ออินเดียในฐานะมหาอำนาจอวกาศอีกหนึ่งประเทศ เพราะเป็นประเทศที่สี่ของโลกที่จะมีขีปนาวุธต่อต้านดาวเทียม ต่อจากสหรัฐ รัสเซีย และจีน เป็นการประกาศก่อนนายกรัฐมนตรีโมดีจะลงเลือกตั้งอีกสมัยในการเลือกตั้งเดือนหน้า หลังจากชนะเลือกตั้งถล่มทลายในปี 2557 อินเดียให้ความสำคัญกับโครงการอวกาศมาหลายปีแล้ว สามารถผลิตดาวเทียมถ่ายภาพโลกและปล่อยดาวเทียมได้ในราคาถูกกว่าของตะวันตก อย่างไรก็ดี การที่อินเดียสามารถยิงดาวเทียมตกอาจจุดกระแสวิตกเรื่องการแข่งขันกันสั่งสมอาวุธในอวกาศ
ไฟไหม้โรงแรมหรูสิงคโปร์
สิงคโปร์ - เกิดเหตุไฟไหม้โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ใกล้กับถนนออร์ชาร์ด ศูนย์รวมร้านค้าและความบันเทิงของสิงคโปร์ กองกำลังป้องกันภัยพลเรือนสิงคโปร์แถลงว่า สามารถดับไฟลงได้อย่างรวดเร็ว ภายหลังจากไฟไหม้ที่เตาไฟในห้องครัวและร้านอาหารบนชั้น 2 ซึ่งระบบฉีดน้ำดับเพลิงในอาคารทำให้ไฟดับลงได้ก่อนที่นักดับเพลิงจะมาถึง และอพยพผู้คนราว 500 คน ออกจากอาคารได้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่กล่าวว่าไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ และยังต้องสอบสวนสาเหตุไฟไหม้ อย่างไรก็ตามพนักงานวัย 40 ปี กล่าวว่า ควันไฟหนาแน่นมากจนทำให้แสบคอ และตามปกติอาคารจะมีการซ้อมหนีไฟและซ้อมอพยพอยู่แล้ว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้สอนให้รู้ว่าไม่ควรประมาท ครั้งนี้นับเป็นเหตุเพลิงไหม้โรงแรมหรูครั้งที่สองในสิงคโปร์ปีนี้ ภายหลังจากแขกเหรื่อราว 1,000 คน ต้องอพยพหนีไฟไหม้ที่โรงแรมคาร์ลตันเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี