ตริโปลี (เอเอฟพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - ยอดผู้เสียชีวิตจากการสู้รบในกรุงตริโปลีของลิเบีย เพิ่มขึ้นเป็น 44 คนบาดเจ็บ 80 คน ขณะที่เครื่องบินรบของฝ่ายทหารกบฏทิ้งระเบิดสนามบินนานาชาติ ที่มีอยู่เพียงแห่งเดียวของลิเบีย ผู้คนหลายพันเริ่มอพยพหนีตาย เช่นเดียวกับสหประชาชาติและสหรัฐเริ่มถอนเจ้าหน้าที่และทหารบางส่วนออกจากลิเบีย
กระทรวงสาธารณสุขลิเบียยืนยันว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการสู้รบ ระหว่างกองกำลังฝ่ายรัฐบาลลิเบียในกรุงตริโปลี หรือจีเอ็นเอ กับกองทหารกบฏจากภาคตะวันออกของลิเบีย หรือแอลเอ็นเอ ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ล่าสุด เพิ่มขึ้นเป็น 25 คน โดยผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมีทั้งนักรบของฝ่ายรัฐบาลและพลเรือน ส่วนทางด้านกองกำลังทหารกบฏ ที่นำโดยพลเอกคาลิฟา ฮาฟทาร์ ระบุว่า นักรบของฝ่ายตนเสียชีวิต 19 คนรวมผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่าย 44 คน ด้านสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า มีประชาชนอีก 3,400 คน ที่อพยพหนีการสู้รบที่กำลังเกิดขึ้นทั้งในและรอบๆ กรุงตริโปลี ส่วนชาวกรุงตริโปลีที่ยังไม่อพยพ ต่างกักตุนอาหารและเชื้อเพลิง เพราะคาดว่าการสู้รบที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จะทำให้อีกไม่นาน เมืองหลวงของลิเบียแห่งนี้ จะต้องขาดแคลนสิ่งจำเป็นต่างๆ
ส่วนสถานการณ์สู้รบล่าสุด สนามบินนานาชาติ มิทิก้า ในกรุงตริโปลี ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติแห่งเดียวที่ใช้การได้ในลิเบีย ถูกเครื่องบินรบของกองทหารกบฏแอลเอ็นเอ โจมตีทางอากาศเมื่อวันจันทร์ ทำให้รัฐบาลลิเบียต้องปิดสนามบิน และยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมด และอพยพผู้โดยสาร อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากการโจมตีสนามบินครั้งนี้นายกัสซัน ซาลามี่ ทูตยูเอ็นประจำลิเบีย ประณามการโจมตีทางอากาศสนามบินมิทิก้า ว่า เป็นการละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชน ซึ่งห้ามการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน แต่นายอาห์เหม็ดมิสมาริ โฆษกของกองทหารกบฏแอลเอ็นเอ ระบุว่า เป้าหมายการโจมตีทางอากาศที่สนามบินมิทิก้า คือเครื่องบินรบของรัฐบาลลิเบีย ที่ใช้สนามบินแห่งนี้ด้วย ไม่ใช่เครื่องบินพลเรือน
อีกด้านหนึ่ง สนามบินนานาชาติตริโปลี ซึ่งเป็นสนามบินเก่าที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ตั้งอยู่ชานกรุงตริโปลี และกลายเป็นสมรภูมิแรกในการปะทะกันเมื่อสัปดาห์ก่อน และถูกฝ่ายแอลเอ็นเอยึดไปได้ แต่ล่าสุด มีรายงานที่ยังไม่ยืนยันว่า กองกำลังฝ่ายรัฐบาลได้ยึดสนามบินเก่าแห่งนี้ กลับคืนมาได้แล้ว
ขณะเดียวกัน สหรัฐและนานาชาติ ที่มีกองทหารเล็กๆ ประจำอยู่ในลิเบีย เริ่มถอนทหารบางส่วน ออกจากลิเบียในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา หลังจากสถานการณ์ในลิเบียเลวร้ายลง ด้านยูเอ็นก็กำลังจะถอนเจ้าหน้าที่ที่ไม่จำเป็น ออกจากลิเบียเช่นกัน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา พลเอกคาลิฟา ฮาฟทาร์ผู้บัญชาการกองกำลังทหารจากภาคตะวันออกของลิเบีย ที่เรียกตัวเองว่า กองทัพแห่งชาติลิเบีย หรือแอลเอ็นเอ ประกาศยกกำลังบุกยึดกรุงตริโปลี เมืองหลวงของลิเบีย ซึ่งอยู่ในความควบคุมของรัฐบาลแห่งชาติลิเบีย หรือจีเอ็นเอ ที่ได้รับการรับรองจากยูเอ็นและนานาชาติ นำโดยนายกรัฐมนตรีฟาเยซ อัล-เซอร์ราจ
ซึ่งกล่าวหาพลเอกฮาฟทาร์ว่า การยกทัพบุกยึดกรุงตริโปลี คือความพยายามจะทำรัฐประหาร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี