นิวเดลี (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) – อินเดียเริ่มการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จากที่ต้องเลือกทั้งหมด 7 ระยะ โดยได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัย หลังกลุ่มติดอาวุธก่อเหตุที่รัฐจัมมู-แคชเมียร์ มีผู้เสียชีวิต 7 คน และเกิดระเบิดทางตะวันออกของประเทศทำให้สมาชิกสภาท้องถิ่นพรรครัฐบาลเสียชีวิต
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของอินเดียเริ่มขึ้นเป็นวันแรกเมื่อวันที่ 11 เม.ย. จัดขึ้นใน 20 รัฐและเขตบริหารของรัฐบาลกลาง หลังจากนั้นจะทยอยจัดต่อเนื่องทั้งหมด 7 ระยะ ไปจนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม และประกาศผลในวันที่ 23 พฤษภาคม ทันทีที่นับคะแนนครบทั้ง 543 เขต คณะกรรมการการเลือกตั้งเผยว่า มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งราว 900 ล้านคน จากประชากรทั้งประเทศ 1,300 ล้านคน เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่รู้หนังสือ 300 ล้านคน เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก 84 ล้านคน เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งสตรีเกือบครึ่งหนึ่ง และเป็นคนเพศทางเลือก 39,000 คน มีพรรคการเมืองขึ้นทะเบียนเกือบ 2,300 พรรค แต่มีเพียง 7 พรรค ที่เป็นที่รู้จักระดับประเทศ และ 59 พรรคที่เป็นที่รู้จักระดับรัฐ สองพรรคใหญ่ที่จะชิงชัยกันคือ พรรคภารติยะชนตะ หรือบีเจพี ที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี สังกัดอยู่ และพรรคคองเกรสที่มีนายราหุล คานธี เป็นประธานพรรค ใช้ระบบได้เสียงมากที่สุดเป็นผู้ชนะในแต่ละเขต
นายกรัฐมนตรีโมดีทวีตหลังคูหาเปิดได้ไม่นาน เชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิและว่าบรรยากาศทั้งประเทศเป็นผลบวกต่อพรรคของเขาและพันธมิตร สำนักสำรวจหลายแห่งพบว่า พรรคบีเจพีมีคะแนนนิยมเพิ่มเพราะนายโมดีแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อปากีสถาน หลังจากทั้งสองฝ่ายปะทะกันทางอากาศจากเหตุกลุ่มติดอาวุธสังหารเจ้าหน้าที่อินเดียเสียชีวิต 40 นาย ในแคชเมียร์ส่วนที่เป็นของอินเดีย ผลหยั่งเสียงเฉลี่ย 4 แห่งคาดว่า พันธมิตรบีเจพีจะได้ 273 ที่นั่ง ในโลกสภาหรือสภาผู้แทนราษฎรที่มีทั้งหมด 545 ที่นั่ง เป็นการเลือกตั้งใน 523 รัฐ 20 ดินแดน และเสนอชื่อ 2 ที่นั่ง ลดลงอย่างมากจาการเลือกตั้งปี 2557 ที่ได้กว่า 330 ที่นั่ง เฉพาะบีเจพีพรรคเดียวครั้งนั้นกวาดไปถึง 282 ที่นั่ง อย่างไรก็ดี นายโมดีคาดว่า พรรคบีเจพี และพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติจะได้ที่นั่งในสภามากขึ้นกว่าการเลือกตั้งปี 2557 ที่พรรคบีเจพีและพันธมิตรโค่นพรรคคองเกรสที่ผูกขาดปกครองมาเกือบ 30 ปีอย่างถล่มทลาย พร้อมกับปัดเรื่องนายคานธีที่เป็นคู่แข่งจะมีโอกาสในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า คำถามเรื่องจะเลือกโมดีหรือใครอาจเกิดขึ้นในปี 2567 แต่สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เลือกคนใหม่
ทั้งนี้ ผลการหยั่งเสียงก่อนหน้านี้ชี้ว่านายโมดีและนายคานธีจะสู้กันอย่างสูสีเพราะประชาชนไม่พอใจผลงานนายโมดีเรื่องคนว่างงานสูงและสินค้าเกษตรราคาตก แต่หลังจากเกิดเหตุที่แคชเมียร์ กระแสชาตินิยมต่อต้านปากีสถานกลับมาทำให้บีเจพีมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี