โคลัมโบ (เอเอฟพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) -เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำศรีลังกามองว่า ขนาดและความซับซ้อนของระเบิดหลายระลอกที่เกิดขึ้นกับโรงแรมและโบสถ์หลายแห่งในวันอีสเตอร์บ่งชี้ว่า น่าจะมีกลุ่มต่างชาติอย่างรัฐอิสลาม หรือไอเอส เกี่ยวข้อง
นางอาไลนา เทปลิตซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำศรีลังกาแสดงความเห็นกับสื่อในกรุงโคลัมโบ ว่า หากพิจารณาจากขนาดของการก่อเหตุ ระดับการประสานงาน และความซับซ้อน ทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะมีกลุ่มต่างชาติเกี่ยวข้อง การสอบสวนจึงต้องตรวจดูความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้เหล่านี้ นางเทปลิตซ์กล่าวเรื่องนี้หลังจากกลุ่มไอเอสอ้างเมื่อวานนี้ว่า
ลงมือก่อเหตุแต่ไม่มีหลักฐานสนับสนุนการกล่าวอ้าง ขณะที่ทางการศรีลังกากล่าวโทษว่า เป็นฝีมือของกลุ่มมุสลิมสองกลุ่มในประเทศ คือกลุ่มตอฮี้ด จามาอัต และกลุ่มจัมมิยาตุล มิลาธู อิบราฮิม
รัฐมนตรีช่วยกลาโหมศรีลังกาเปิดเผยรายละเอียดกลุ่มมือระเบิดฆ่าตัวตายทั้ง 9 คนว่า มีการศึกษาดี ครอบครัวชนชั้นกลางฐานะดีสองคนเป็นพี่น้องกันและเป็นบุตรชายของพ่อค้าเครื่องเทศที่ร่ำรวยในกรุงโคลัมโบขณะที่หนึ่งในมือระเบิดเป็นผู้หญิง มือระเบิดคนหนึ่งเคยไปอังกฤษและไปศึกษาต่อด้านกฎหมายที่ออสเตรเลีย รัฐมนตรีช่วยกลาโหมศรีลังกาแถลงต่อสภา ยอมรับว่ามีความบกพร่องอย่างร้ายแรงเรื่องการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง ขณะที่รัฐมนตรีรัฐวิสาหกิจชี้ว่าเจ้าหน้าที่ข่าวกรองระดับสูงบางคนจงใจปกปิดข่าวกรองเรื่องคนร้ายอาจเตรียมก่อเหตุ ข้อมูลมีอยู่แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงนิ่งเฉย มีรายงานว่าข่าวกรองอินเดียแจ้งมาตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนแล้วว่าอาจเกิดระเบิดฆ่าตัวตาย หลังจากนั้น3 วัน มีการประชุมสภาความมั่นคงที่มีประธานาธิบดีไมตรีพาลา สิริเสนา เป็นประธานแต่กลับไม่มีการแบ่งปันข่าวกรองอย่างทั่วถึง ขณะที่นายสิริเสนายืนยันไม่ได้รับแจ้งเตือนจากหน่วยข่าวกรองล่วงหน้าว่าจะมีก่อการร้ายและหากทราบเขาจะดำเนินมาตรการรับมือในทันที
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นางจาซินด้า อาเดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ กล่าวว่า รัฐบาลของเธอไม่ทราบข้อมูลข่าวกรองที่ว่าเหตุโจมตีในศรีลังกาเป็นการตอบโต้เหตุกราดยิงโจมตีมัสยิดสองแห่งที่เมืองไครสต์เชิร์ชเมื่อเดือนที่แล้ว สอดคล้องกับความเห็นของผู้นำชาวมุสลิมในกรุงโคลอมโบของศรีลังกา ที่ไม่เชื่อว่าเหตุโจมตีในศรีลังกามาจากการแก้แค้นเหตุกราดยิงมัสยิดในเมืองไครสต์เชิร์ช โดยมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดโบสถ์สามแห่ง โรงแรมสี่แห่งเมื่อวันอีสเตอร์เพิ่มเป็น 359 ศพ แล้ว ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติ 39 ศพ และเด็ก 40 ศพ และมีผู้บาดเจ็บราว 500 คน นับเป็นเหตุโจมตีนองเลือดที่สุดนับตั้งแต่สงครามการเมืองในศรีลังกาสิ้นสุดลงเมื่อปี 2552 หลังเกิดเหตุรัฐบาลศรีลังกาต้องปิดช่องทางสื่อสารทางสังคมออนไลน์บางส่วน สั่งการให้กองกำลังรักษาความมั่นคงออกลาดตระเวนตามพื้นที่และใจกลางเมืองหลวง รวมทั้งประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกบ้านเวลากลางคืน ขณะที่จนถึงขณะนี้มีผู้ต้องสงสัยที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดถูกควบคุมตัวแล้วกว่า 60 คน
ทั้งนี้ ประชากรศรีลังกา 22 ล้านคนส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ ที่เหลือเป็นคริสต์มุสลิม และฮินดู
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี