วอชิงตัน/ปักกิ่ง (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - ผู้นำสหรัฐลงนามคำสั่งฉุกเฉินปกป้องเครือข่ายด้านไอทีจากบริษัทต่างชาติ พร้อมสั่งห้ามหัวเว่ยซื้ออะไหล่จากสหรัฐ ด้านหัวเว่ยเตือนคำสั่งดังกล่าวของผู้นำสหรัฐจะทำให้สหรัฐล้าหลังเรื่องเครือข่าย 5จี (5G)
ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญลงนามคำสั่งฉุกเฉิน ห้ามบริษัทในสหรัฐใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมจากบริษัทต่างชาติ โดยเชื่อว่ามีความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ เทคโนโลยีที่อยู่ในข่ายนี้คือเทคโนโลยีที่ออกแบบ พัฒนา ผลิต หรือจัดหาโดยบุคคลที่ปรปักษ์ต่างชาติเป็นเจ้าของ ควบคุม มีอำนาจตุลาการเหนือหรือสั่งการได้ แม้คำสั่งนี้จะไม่ได้เผยว่าบริษัทต่างชาติใดที่เป็นภัยคุกคาม แต่เชื่อได้ว่าคำสั่งนี้พุ่งเป้าไปที่บริษัทหัวเว่ย ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ ยังสั่งห้ามบริษัทหัวเว่ย และบริษัทในเครือของหัวเว่ยสั่งซื้อชิ้นส่วนอะไหล่จากบริษัทของสหรัฐ หากไม่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล
การออกคำสั่งของทรัมป์ที่พุ่งเป้าไปที่บริษัทหัวเว่ยครั้งนี้ ยิ่งทำให้สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนตึงเครียดมากขึ้น อย่างไรก็ดี นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีการคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐและจีนมีแนวโน้มจะเปิดเจรจาระดับรัฐมนตรีอีกครั้งในเร็วๆ นี้ เพื่อแก้ไขข้อพิพาททางการค้าระหว่างกัน หลังจากที่การเจรจาหลายครั้งที่ผ่านมาไม่สามารถหาข้อยุติกันได้ และล่าสุดสหรัฐได้ขึ้นกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีนที่มีมูลค่าประมาณ 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่จีนได้ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าสินค้าจากสหรัฐเช่นกัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 60,000 ล้านดอลลาร์
ด้านหัวเว่ยส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีของสหรัฐว่า การจำกัดไม่ให้หัวเว่ยทำธุรกิจในสหรัฐไม่ทำให้สหรัฐปลอดภัยหรือแข็งแกร่งขึ้น แต่กลับทำให้สหรัฐถูกบีบให้ต้องเลือกทางเลือกที่ด้อยกว่าแต่แพงกว่า เป็นเหตุให้สหรัฐล้าหลังเรื่องการวางเครือข่าย 5จี ส่งผลเสียต่อผู้บริโภคและบริษัทอเมริกันในที่สุด นอกจากนี้การจำกัดอย่างไร้เหตุผลถือเป็นการละเมิดสิทธิของหัวเว่ยและจะมีปัญหาทางกฎหมายร้ายแรงอื่นๆ ติดตามมา โฆษกหัวเว่ยเผยกับซีเอ็นบีซีว่า หัวเว่ยเป็นเจ้าตลาด 5จี หัวเว่ยพร้อมและยินดีร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐหามาตรการที่มีประสิทธิภาพในการรับรองความปลอดภัยของอุปกรณ์บริษัท
ผู้เชี่ยวชาญเคยบอกกับซีเอ็นบีซีว่า สหรัฐอาจใช้อุปกรณ์ของบริษัทอื่น เช่น โนเกีย อีริคสัน ยังไม่ชัดเจนว่าคำสั่งบริหารของทรัมป์จะกระทบหัวเว่ยอย่างไร เพราะหัวเว่ยถูกจำกัดการเข้าถึงตลาดสหรัฐมาหลายปีแล้ว รายได้ที่มาจากทวีปอเมริกามีสัดส่วนเพียงร้อยละ 6.6 ของรายได้ทั้งหมดเมื่อปีก่อน เพราะส่วนใหญ่มาจากลาตินอเมริกา ส่วนไตรมาสแรกของปีแรกรายได้ของหัวเว่ยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 39 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี