โซล (เอเอฟพี/ยอนฮัพ) - ทางการเกาหลีใต้แจ้งว่า จะยกเลิกกฎหมายอนุญาตให้ผู้ปกครองตีเพื่อทำโทษบุตรหลาน จุดกระแสถกเถียงขึ้นในสังคมเกาหลีใต้ที่ยังคงให้ความสำคัญกับค่านิยมครอบครัวแบบมีลำดับชั้น
นายปัก อึง ฮู รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการเกาหลีใต้เผยว่า ผู้คนในสังคมเห็นพ้องกันมากขึ้นว่าการทำร้ายเด็กเป็นปัญหาสังคมร้ายแรง แต่หลายคนยังคงอนุโลมให้มีการทำโทษทางร่างกาย กระทรวงต้องการเปลี่ยนแปลงความคิดนี้ โดยจะยกเลิกสิทธิของผู้ปกครองที่มีมาตั้งแต่ปี 2503 เรื่องตีเพื่อทำโทษลูกหลานออกจากประมวลกฎหมายแพ่ง ส่วนการตีเด็กในโรงเรียนถูกห้ามไปตั้งแต่ปี 2553 แล้ว
ด้านสตรีแกนนำกลุ่มผู้ปกครองสายอนุรักษ์นิยมประกาศคัดค้านและจะตีเพื่อลงโทษลูกต่อไป เธอจะไม่ให้อาหาร ไม่จ่ายค่าเล่าเรียนหากลูกไม่เชื่อฟัง เพื่อย้ำถึงสิทธิของการเป็นผู้ปกครอง เช่นเดียวกับฟรีดอมยูเนียน ซึ่งเป็นกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่มองว่า รัฐแทรกแซงชีวิตส่วนตัวและครอบครัว แต่ละคนควรมีสิทธิตัดสินใจเองว่าจะเลี้ยงลูกแบบไหน
เหตุทำร้ายเด็กในเกาหลีใต้ ซึ่งหมายถึงการเมินเฉย ทำร้ายร่างกาย ทำร้ายจิตใจ และล่วงละเมิดทางเพศเพิ่มขึ้นกว่า10 เท่าจากปี 2544 เป็น 22,386 ราย ในปี 2560 ผู้กระทำร้อยละ 77 เป็นผู้ปกครองของเด็กเอง ผลสำรวจของรัฐบาลพบว่า ผู้ใหญ่ร้อยละ 76.8 เชื่อว่ายังจำเป็นต้องตีเพื่อทำโทษเด็กอยู่ ขณะที่มักมีการอ้างว่าเด็กเกาหลีใต้มีความสุขน้อยที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือโออีซีดี (OECD) เพราะเผชิญแรงกดดันทั้งเรื่องการเรียนและค่านิยมที่หยั่งรากลึกในสังคมเรื่องการเคารพเชื่อฟังพ่อแม่และผู้มีอำนาจ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเด็กกล่าวว่า ชาวเกาหลีใต้หลายคนยังคิดว่าลูกเป็นสมบัติส่วนตัวไม่คิดว่าเป็นคนที่มีความคิดจิตใจ การฟ้องร้องหรือวิจารณ์พ่อแม่ถือว่าอกตัญญู และหากมีการฟ้องร้องจริงคดีก็มักจะตกไปเพราะไม่มีคนเลี้ยงลูกแทนพ่อแม่ที่ถูกฟ้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี